เข้ำไปในร ้ำนแล้ว เฉินผิงอันก็ถำมว่ำ “ข้ำขอเปิ ดลิ้นชักดู สมุนไพรที่อยู่ในนั้นหน่อยได้ไหม?”
สือหลิงซำนเอ่ยอย่ำงไม่สบอำรมณ์ “เปิ ดประตูท ำกำรค้ำ ถึง อย่ำงไรก็ท ำไปตำมกฎเกณฑ์ ข้ำกับเจ้ำก็ไม่ได้มีควำมแค้นต่อกัน เชิญเจ้ำดูได้ตำมสบำย”
เฉินผิงอันยกมือขึ้นเช็ดกับเสื้อชุดเขียวตรงช่วงเอวด้วยควำม เคยชิน จำกนั้นจึงเดินไปที่ตู้ยำ มองชื่อที่ระบุไว้ด้ำนบน เปิดลิ้นชัก หนึ่งออกเบำๆ
เก็บยำ จับยำ ต้มยำ ในเรื่องพวกนี้ บำงทีงเฉินผิงอันอำจจะไม่ ด้อยไปกว่ำหมอที่มีประสบกำรณ์ซึ่งอยู่ในร ้ำนยำเลยด้วยซ้ำ
ต่ำงก็พูดกันว่ำน้ำและดินของพื้นที่แห่งหนึ่งเลี้ยงดูคนของพื้นที่ แห่งหนึ่ง สมุนไพรก็เป็ นหลักกำรเดียวกัน จดจำดินได้ดีที่สุด สมุนไพรแบบเดียวกันเติบโตในอำณำเขตของภูเขำที่ต่ำงกัน ฤทธิ์ยำ ก็จะมีควำมต่ำงกันเยอะมำก ถ้ำอย่ำงนั้นปริมำณในกำรใช ้ยำก็จะ เปลี่ยนแปลงตำมไปด้วย หลำยปีมำนี้ภูเขำใหญ่ทำงทิศตะวันตกได้ กลำยเป็ นกิจกำรส่วนตัวหมดแล้ว ถ้ำอย่ำงนั้นคิดจะขึ้นเขำไปเก็บ สมุนไพรก็กลำยเป็ นเรื่องที่ไม่ง่ำยเลย ดังนั้นสมุนไพรหลำยอย่ำงใน
ร ้ำนยำจึงต้องหำช่องทำงใหม่ ยกตัวอย่ำงเช่นไปขอซื้อจำกพ่อค้ำ ที่มำจำกถิ่นต่ำงๆ และจำกทำงฝั่งของเมืองหงจู่
ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห เด็กชำยผมขำวพลันลุกขึ้นยืน วิ่งเข้ำไปในห้อง คิดว่ำจะใช ้ทำงลัดอ้อมหัวหน้ำใหญ่แห่งศูนย์บัญชำกำรณ์อย่ำงเผย เฉียนไป ขอพระรำชโองกำรมำจำกบรรพบุรุษอิ่นกวำนโดยตรงเลย ขอให้ตนได้เป็ นรองหัวหน้ำของศูนย์ใหญ่ก็แล้วกัน คนที่รู ้จักพอย่อม มีควำมสุข ไม่รังเกียจที่ตำแหน่งขุนนำงเล็กไป
เด็กชำยผมขำวกดเสียงลงต่ำพูดเรื่องนี้กับบรรพบุรุษอิ่นกวำน ผลลัพธ ์ไม่ผิดไปจำกที่คำด บรรพบุรุษอิ่นกวำนพูดมำค ำเดียวว่ำให้ นำงไสหัวไป
เฉินผิงอันเปิดลิ้นชักอีกอันหนึ่ง สูดดมกลิ่น ชื่อของยำสมุนไพร ชนิดนี้น่ำสนใจมำกเรียกว่ำหวังปู้ หลิวสิง (แปลตรงตัวว่ำอ๋องไม่ทิ้ง ร่องรอย เป็ นสมุนไพรจีนชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ำยเมล็ดผักกำด สำมำรถน ำมำแปะบริเวณจุดสะท้อนของอวัยวะต่ำงๆ ตำมเส้น ลมปรำณที่หู)
เฉินผิงอันผลักลิ้นชักกลับไปเบำๆ หันหน้ำมำพูดเสนอแนะด้วย รอยยิ้มว่ำ “สือหลิงซำน วันหน้ำหำกทำงร ้ำนยำอยำกจะขึ้นเขำไป เก็บสมุนไพรก็สำมำรถไปตำมสถำนที่ต่ำงๆ อย่ำงภูเขำเซียนฉ่ำว ภูเขำเซียนตูและยังมียอดเขำเว่ยเสียได้ บนนั้นมีสมุนไพรอยู่ห้ำสิบ หกสิบชนิด บำงทีอำจดีกว่ำไปหำซื้อมำจำกข้ำงนอก แล้วยังประหยัด เงินได้ด้วย”
สือหลิงซำนที่กำลังดีดลูกคิดพูดอย่ำงใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวว่ำ “เจ้ำพูดเรื่องนี้กับข้ำไปก็เท่ำนั้น ขึ้นเขำเก็บสมุนไพรไม่ใช่หน้ำที่ข้ำ ข้ำก็แค่ลูกจ้ำงที่เฝ้ ำร ้ำน แต่ข้ำสำมำรถเอำไปบอกเจ้ำคนผู้หนึ่งที่ พึ่งพำไม่ได้ให้ได้ บอกไว้ก่อนนะว่ำเจ้ำหมอนั่นน่ะพึ่งไม่ได้ พูดจำ เสียงดังกว่ำผำยลม ท ำงำนน้อยกว่ำผำยลม ได้ยินแต่เสียงฟ้ ำผ่ำไม่ เห็นฝนตก ร ้ำนนี้อำศัยเขำจนถึงทุกวันนี้ยังไม่ได้ปิดร ้ำนก็ถือว่ำมี ควันเขียวผุดออกมำจำกหลุมศพบรรพบุรุษแล้ว”
เฉินผิงอันยิ้มรับ
ขนบธรรมเนียมของเมืองเล็ก แต่ไหนแต่ไรมำก็เรียบง่ำยเช่นนี้ เสมอ
ยำมพูดจำชอบเหน็บหอกพกกระบอง (เปรียบเปรยถึงกำรเสียดสี เหน็ บแนม) แต่ละคนล้วนเป็ นยอดฝี มือในยุทธภพที่ต่อให้ไม่มี อำจำรย์สั่งสอนก็เข้ำใจได้ด้วยตัวเอง
สือหลิงซำนที่มำจำกตรอกเถำเย่ อย่ำงมำกสุดก็ได้แต่เป็ นลูก ศิษย์นักกำรฝ่ำยนอกของพรรคนี้เท่ำนั้น
เด็กชำยผมขำวรู ้สึกนับถือชำยหนุ่มผู้นี้จริงๆ ถึงกับกล้ำพูดจำ แบบนี้กับบรรพบุรุษอิ่นกวำนของตน
ต่อให้วันเวลำผันผ่ำน คนในท้องถิ่นของบนถนนฝูลู่และตรอก เถำเย่ของเมืองเล็ก รวมไปถึงตรอกและถนนแห่งอื่นที่ยังอยู่ที่นี่ต่อ
หำกไม่พูดถึงควำมต่ำงระหว่ำงเซียนและคนธรรมดำซึ่งซ่อนอยู่หลัง ม่ำน อันที่จริงก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมำกนัก
ยังคงมีคนที่สวมเสื้อผ้ำสะอำดสะอ้ำน อ่ำนตำรำเป็ นนักเล่ำนิทำน
แล้วก็มีคนที่ในซอกเล็บมักจะมีครำบดิน มือที่ด้ำนหยำบถูกควัน ถ่ำนรมจนด ำ ชอบด่ำกรำดคนอื่นไปทั่ว
เฉินผิงอันเดินออกมำจำกในร ้ำน หลังจำกข้ำมธรณีประตูมำแล้ว ก็ยืนอยู่ที่เดิมพักหนึ่ง
หลังจำกนั้นก็เดินผ่ำนซุ้มก้ำมปู
เฉินผิงอันเดินวนรอบซุ้มป้ ำยไปช ้ำๆ หนึ่งรอบ สองมือสอดกันไว้ ในชำยแขนเสื้อ แหงนหน้ำมองอยู่ตลอดเวลำ
ตังเหรินปู้ รั่ง (มิเกี่ยงงอนต่อหน้ำที่ที่พึงกระทำ) ซีเหยียนจื้อหรำน (ปล่อยไปตำม ธรรมชำติ) โม่เซี่ยงว่ำยฉิว (ไม่แสวงหำสิ่งนอกกำย) วี่ ชงหนิวโต้ว (พลังท่วมทะยำนฟ้ ำ)
เด็กชำยผมขำวยืนอยู่ที่เดิมตลอดเวลำ มองอะไรไม่ออก เพรำะ ทุกวันนี้กรอบป้ ำยทั้งสี่ล้วนไม่เหลือกลิ่นอำยแห่งมรรคำอยู่แล้วแม้แต่ เศษเสี้ยว
เฉินผิงอันเดินเล่นต่อไปอีกครั้ง เหลำสุรำที่เป็ นสิ่งปลูกสร ้ำงที่สูง ที่สุดในเมืองเล็กซึ่งตั้งอยู่ข้ำงทำง เจ้ำของตัวจริงคือเฟิ งอี๋ กิจกำร ยังคงดีมำก ทุกครั้งที่มีงำนเลี้ยงฉลอง ไม่ว่ำจะเป็ นงำนแต่งหรืองำน
ฉลองตำแหน่งอะไรก็ตำม คนในพื้นที่ก็ล้วนชอบมำโอ้อวดควำม ร่ำรวยที่นี่ ผู้ฝึ กลมปรำณบำงคนที่ซื้อบ้ำนไว้ที่นี่เป็ นพื้นที่ประกอบ พิธีกรรมก็ชอบมำจิบเหล้ำสองสำมจอกที่นี่เหมือนกัน แต่เหล้ำที่พวก เขำดื่ม ย่อมไม่เหมือนกับของชำวบ้ำนทั่วไป
บ่อโซ่เหล็กได้ถูกที่ว่ำกำรอำเภอล้อมปิดไว้นำนแล้ว มีกำรนำหิน มำก่อเป็ นรั้วรอบขอบชิด พวกชำวบ้ำนมิอำจหิ้วถังน้ำมำตักน้ำที่นี่ได้ อีก
ต้นไหวโบรำณก็ยิ่งไม่อยู่แล้ว
เดินเลียบถนนหลักของตัวอ ำเภอออกไปก็จะเดินไปถึงบ้ำนดิน เหลืองที่ตั้งอยู่ทำงทิศตะวันออกสุดของเมืองเล็ก เป็ นบ้ำนของเจิ้งต้ำ เฟิง คนเฝ้ ำประตูภูเขำลั่วพั่วคนแรกของบ้ำนตน
เดินออกไปข้ำงนอกอีกก็คือสุสำนเทพเซียนที่ในอดีตมีหญ้ำขึ้น รกชัฏ สำมำรถเดินอ้อมเส้นทำงไปยังภูเขำเครื่องกระเบื้องที่อยู่ทำง เหนือ แต่ทั้งสองสถำนที่ต่ำงก็ถูกรำชสำนักต้ำหลีแยกมำสร ้ำง ศำลปุ่นบู๋ไปแล้ว
เฉินผิงอันเดินไปนั่งลงบนตอไม้ข้ำงทำง พูดกับเด็กชำยผมขำว ว่ำ “ไม่ต้องตำมมำแล้วเดี๋ยวคนอื่นจะเข้ำใจผิด”
เด็กชำยผมขำวแกล้งโง่ ชูมือขึ้นสูงวัดควำมสูงระหว่ำงคนทั้งสอง “พวกเรำสองคนเนี่ยนะ จะเข้ำใจผิดเรื่องอะไรได้?”
แต่บอกตำมตรง หำกว่ำได้เป็ นลูกสำวของบรรพบุรุษอิ่นกวำน จริงๆ คิดดูแล้วก็น่ำจะเป็ นเรื่องที่โชคดีมำกเรื่องหนึ่งกระมัง?
ดูอย่ำงเผยเฉียน เฉินหน่วนซู่ หมี่ลี่น้อยสิ แค่นี้ก็รู ้แล้วว่ำหำกใน อนำคตเจ้ำหมอนี่มีลูกสำวจะรักและตำมใจมำกถึงเพียงใด
ถ้ำอย่ำงนั้นเจ้ำก็หัดทำท่ำเสือโหยกระโจนหำลูกแกะอย่ำงหนิง เหยำเข้ำสิ รีบท ำข้ำวสำรให้กลำยเป็ นข้ำวสุกซะ มัวแต่ขี้ขลำดอยู่ อย่ำงนี้ก็สมควรแล้วที่ต้องแห้งเหี่ยว
เฉินผิงอันคร ้ำนจะถือสำนำง นั่งอยู่บนตอไม้ หันหน้ำไปมอง เส้นทำงที่ทอดยำวออกไปไกล
กำแพงเมืองปรำณกระบี่มีผู้ฝึกกระบี่มำกมำยดุจก้อนเมฆ หำกจะ บอกว่ำผู้ฝึกลมปรำณนอกเหนือจำกผู้ฝึกกระบี่แล้วไม่เหมำะที่จะไป ฝึ กตนที่กำแพงเมืองปรำณกระบี่ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ที่นั่นมีปรำณ กระบี่เข้มข้นเกินไป อัดแน่นอยู่ทั่วทั้งฟ้ ำดิน สำหรับผู้ฝึกลมปรำณ แล้วก็คือควำมทรมำนอย่ำงหนึ่ง
แต่ก็มีอยู่เรื่องหนึ่งที่เฉินผิงอันคิดเป็ นร ้อยตลบแล้วก็ยังไม่เข้ำใจ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู ้สึกได้ถึงควำมลี้ลับ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!