สุดท้ายทาเอาผู้ฝึ กยุทธคนนั้นละอายใจ รีบประคองเด็กหนุ่ม กลับมาที่แผง ถือว่าไม่ตีกันก็ไม่ได้รู ้จักกัน
จากนั้นก็มีเทพเซียนผู้เฒ่าเซียนดินโอสถทองมาอีกคนหนึ่ง เวท คาถาโจมตีสามบททุ่มโจมตีอย่างไม่ออมกาลังจนเสื้อผ้าของเด็ก หนุ่มชุดขาวขาดวิ่น นอนอยู่ในหลุมน้าลายฟูมปาก ชักกระตุงเกร็ง ไม่หยุด
ร่อแร่ปางตาย แต่ก็ยังกระเสือกกระสนลุกขึ้นยืน เดินโซเซไปที่ แผงเหมือนผีขี้เหล้าได้ยินมาว่าผู้ฝึกตนอิสระที่มีรูปโฉมเป็ นเด็กหนุ่ม ผู้นี้มีความองอาจอย่างยิ่ง ยกถ้วยเหล้าขึ้นมามือสั่นๆ ดื่มไปก่อนครึ่ง ถ้วย แล้วค่อยกระอักเลือดสดๆ กลับไปอีกครึ่งถ้วย
สุดท้ายคนที่มาเยือนคือผู้ฝึ กกระบี่ขอบเขตโอสถทองคนหนึ่ง เป็ นผู้ฝึกตนอิสระเหมือนกัน ผลคือไม่รู ้ว่าท าไม พูดคุยกับเด็กหนุ่ม ชุดขาวแค่ไม่กี่คา ผู้ฝึกกระบี่ที่ชื่อว่าเถาหรานผู้นี้กลับย้ายฝั่ง กลับ กลายมาเป็ นคนเฝ้ าเวทีประลองให้แทนเด็กหนุ่มชุดขาว เดาไม่ยาก ต้องเพราะให้ราคาที่สูงกว่ากับเถาหราน ผู้ฝึกตนอิสระชาติสุนัข ดีแต่ นับเงินเป็ นบรรพบุรุษ…
นี่ก็สมกับเป็ นชุยตงซานมากแล้ว
อวี๋ลู่ไม่ประหลาดใจแม้แต่น้อย
ชุยตงซานสะบัดชายแขนเสื้อ เริ่มเดินวนเป็ นวงกลมรอบร่างเซี่ย เซี่ย หัวเราะร่าเอ่ยว่า “ในเมื่อมาแล้วก็ถือว่ายอมรับว่าเจ้าคือลูกศิษย์ เป็ นผู้สืบทอดของข้าโดยปริยายแล้ว น้าชากราบอาจารย์นั้นไม่ต้อง หรอก ไม่ดื่ม ข้าขี้ขลาด กลัวว่าเจ้าจะวางยาพิษหรือไม่ก็ถุยน้าลาย ลงไปในนั้น”
เซี่ยเชี่ยร่างขึงเกร็ง สีหน้าไร ้อารมณ์
ชุยตงซานยังเดินวนไม่เลิก “ให้ข้าได้มีลูกศิษย์ผู้สืบทอดบน ทาเนียบเพิ่มมาอีกคนขอบคุณนะเซี่ยเซี่ย”
เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดซึมออกมาจากหน้าผากของเซี่ยเซี่ย
ครั้งนี้อวี๋ลู่ไม่ได้ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ให้เซี่ยเซี่ย ต้องผ่าน ด่านใจ เดินบนทางไม้เพียงล าพัง คนนอกช่วยลากดึงหรือ ประคับประคองไม่ได้
ชุยตงซานพลันถามว่า “อวี๋ลู่ ยันต์กระบี่ที่สานักกระบี่หลงเฉวียน หลอมขึ้นในอดีต เจ้าได้พกติดตัวมาหรือไม่ หากว่ามีก็เอาออกมา ถือเสียว่าช่วยมอบของขวัญกราบอาจารย์ให้แทนเซี่ยเขี่ย ข้าก็จะ ขอบคุณเจ้าแทนเซี่ยเซี่ย”
อวี๋ลู่ยิ้มพลางหยิบยันต์กระบี่ขนาดจิ๋วออกมาจากชายแขนเสื้อ เอ่ยว่า “วางใจเถอะล้วนเป็ นของ “ในอดีต”
ชุยตงซานรับมา ถึงกับมีมากถึงห้าชิ้น เขารู ้สึกประหลาดใจ เล็กน้อย เดิมคิดว่าอย่างมากสุดก็มียันต์กระบี่แค่สามชิ้น จึงยิ้มถาม ว่า “ทาไมถึงมีเยอะขนาดนี้?”
อวี๋ลู่อธิบาย “ปีนั้นในมือพอจะมีเงินเหลือ ก็เลยบอกกับส านัก กระบี่หลงเฉวียนว่าทาหายไปสองเล่ม ซื้อมาใหม่อีกสองเล่ม สวีเสี่ยว เฉียวในร้านตีเหล็กริมล าคลองหลงชวีคงจะเห็นแก่ความสัมพันธ์ ระหว่างข้ากับเฉินผิงอัน จึงไม่ได้คิดเล็กคิดน้อย แค่เตือนข้าว่าเรื่อง เดิมไม่ทาซ้าสาม นอกจากนี้สวีเสี่ยวเฉียวก็รับปากเรื่องหนึ่งที่ข้า ขอร้อง ส่วนยันต์กระบี่อีกสองเล่ม ข้าซื้อมาจากเซียนชื่อคนหนึ่ง ราคาสูงกว่าเดิมเป็ นเท่าตัว คาดว่าตอนนี้อีกฝ่ ายก็น่าจะยังรู้สึกว่า ตัวเองทาการค้าที่คุ้มค่า”
ปีนั้นในอาณาเขตของหลงโจวที่ตั้งเก่าของถ้าสวรรค์หลีจู ผู้ฝึก ลมปราณที่พื้นที่ประกอบพิธีกรรมอยู่ในภูเขาใหญ่แถบตะวันตก อยากจะทะยานลม หรือคนต่างถิ่นที่ทะยานลมผ่านอาณาเขตของ หลงโจว ล้วนจะต้องซื้อยันต์กระบี่เล่มเล็กเหมือนกระบี่บินมาจาก สานักกระบี่หลงเฉวียน
ทุกวันนี้หลงโจวเก่าเปลี่ยนชื่อเป็ นฉู่โจวใหม่ สานักกระบี่หลง เฉวียนก็ย้ายไปอยู่ในอาณาเขตของเมืองหลวงต้าหลีทางทิศเหนือ แล้ว อันที่จริงสานักกระบี่หลงเฉวียนจึงไม่ได้สร ้างยันต์กระบี่ที่ คล้ายคลึงกับเอกสารผ่านด่านนี้อีกแล้ว แต่กฏถือยันต์ทะยานลมที่ห ร่วนฉงตั้งไว้ หลายปีมานี้ทุกคนก็ยังคงปฏิบัติตาม ไม่มีใครกล้าแหก
กฎก่อน เพราะถึงอย่างไรทุกวันนี้หร่วนฉงก็ยังคงเป็ นผู้ถวายงาน อันดับหนึ่งของราชวงศ์ต้าหลี
ชุยตงซานเอ่ยชื่นชม “อวี๋ลู่เอ๋ยอวี๋ลู่ เจ้ายังคงฉลาดเหมือนเดิม”
ชุยตงซานกวักมือหนึ่งที กระชากปลาใหญ่ที่ไหลตามน้าไปยัง ตอนล่างมาทางตัวเองจากนั้นตะโกนเสียดัง กระโดดขึ้นสูงหนึ่งทีแล้ว เตะเข้าที่ร่างของปลาใหญ่
เตะเสร็จก็จบงาน ปัดมือ ชุยตงซานพยักหน้าพูดกับตัวเองว่า “เท้านี้ของข้าไร ้ศัตรูเทียมทาน หนักหน่วงมากเลยล่ะ!”
ปลาใหญ่ที่ถูกชุยตงซานเตะจนกลิ้งตลบอยู่บนพื้น กลิ้งไปกลิ้ง มาก็พลันกลายร่างเป็ นมนุษย์ เนื้อตัวเปื้อนไปด้วยฝุ่ น นั่งเหม่ออยู่บน พื้น ลักษณะเป็ นชายร่างหนาสูงใหญ่
ชุยตงซานยื่นนิ้วออกไปด่ากราด “เจ้าโง่ชั่วช ้า เลวทรามสิ้นดี หลบอยู่ในน้ายืดคอโผล่หัวลอบมองมา เป็ นเพราะเห็นว่าลูกศิษย์ของ ข้ารูปงามผิวพรรณขาวนวล ก้นกลมหุ่นดี เลยน้าลายยืด หมายจะดัก ชิงตัวนางไปเป็ นฮูหยินหมู่บ้านโจรใช่ไหม?!”
ไม่รอให้ชายฉกรรจ์ที่ยังมึนงงได้คิดหาคาพูดตอบโต้ ชุยตงซาน ก็สะบัดชายแขนเสื้อไปในแนวขวาง ชัดชายฉกรรจ์ให้กลับคืนสู่ร่าง เดิม ร่วงลงไปในลาคลองหลินเหออีกครั้ง สะเก็ดน้าแตกซ่านกระจาย “สองกองทัพทาสงครามกันใช ้ทูตพูดคุยก่อนใช ้ความรุนแรง ครั้งนี้จะ เว้นชีวิตเจ้าสักครั้ง นาความไปบอกนายของเจ้าว่า คนในที่แจ้งไม่ทา
เรื่องในที่ลับ แน่จริงก็นัดสถานที่มาต่อสู้กับข้าตัวต่อตัว หากเขาชนะ ท่าเรือแห่งนี้ก็จะเป็ นของเขา หากข้าชนะ…ข้าจะเอาชนะปรมาจารย์ ขอบเขตเดินทางไกลชื่อเสียงบารมีเลื่องลือคนหนึ่งได้อย่างไรกัน เล่า!”
ปลาชิงตัวนั้นที่อยู่ในน้าไม่กล้ากลับคืนร่างมนุษย์อีก สะบัดหัว ส่ายหางว่ายหนีไปทางตอนล่างของล าคลองหลินเหออย่างว่องไว
ชุยตงซานกระตุกมุมปาก
รอให้ท่าเรือใหม่ก่อสร ้างส าเร็จ ต้องการคนจ านวนมากมา จัดการดูแลท่าเรือแห่งนี้หากไม่มีคนสามสิบห้าสิบคนก็ยากจะ ประคับประคองการด าเนินงานตามปกติของท่าเรือตระกูลเซียนแห่ง หนึ่งได้ โชคดีที่ไม่ต้องใช ้ขอบเขตสูงเท่าใดนัก ก็แค่งานใช ้แรงที่ไม่ ต้องใช ้สมองเท่านั้น ถึงเวลานั้นค่อยจัดการภูตน้าที่มาจากศาลเถื่อน พวกนี้ให้หมดรวดเดียว ไม่ว่าใครก็อย่าหวังว่าจะหนีไปได้
ต้องให้เงินเดือนหรือไม่? มอบชีวิตให้พวกเจ้าแล้ว ยังจะเอาเงิน อะไรอีก
ภายใต้ค าแนะน าของชุยตงซาน คนทั้งสามก็เดินเล่นเลียบ ตอนบนของล าคลองกันไปอวี๋ลู่ถามว่า “ท่าเรือมีชื่อไหม?”
ชุยตงซานเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ตั้งชื่อดีที่อ่านได้ทั้งคนที่มี ความรู ้สูงและคนที่มีความรู ้พื้นๆ ธรรมดา เป็ นเรื่องง่ายเสียที่ไหน ข้า ไม่ใช่อาจารย์เสียหน่อยที่ทาได้ง่ายดายราวกับกวักมือเรียกก็มา”
ท่าเรือหนิวเจี่ยวของแจกันสมบัติทวีป ท่าเรือชิงชานภูเขาชิงตู ท่าเรือเหย่อวิ๋นของภูเขาหลิงปี้ นี่คือท่าเรือตระกูลเซียนส่วนตัวแห่งที สี่
เลียบลาคลองหลินเหอ ทุกวันนี้มีแคว้นเล็กตั้งเรียงราย คนดีและ คนเลวปะปนกัน ชาวบ้านแคว้นล่มสลายที่ได้กอบกู้ชะตาแคว้นอีก ครั้ง กับคนที่ก่อตั้งแคว้นเรียกตัวเองเป็ นกษัตริย์ มีประมาณครึ่งต่อ ครึ่ง มีเพียงเทพเซียนผู้เฒ่าโอสถทองไม่กี่คนที่ถูกมองว่าเวทคาถาล้า เลิศเท่านั้นที่ได้เป็ นราชครูหรือไม่ก็เจินเหรินผู้พิทักษ์แคว้น ง่วนอยู่ กับการช่วงชิงบรรดาศักดิ์กองโต ช่วยจักรพรรดิพระองค์ใหม่แต่งตั้ง ห้ามหาบรรพต แต่งตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งภูเขาสายน้า หรือไม่ก็เปิ ด ภูเขาก่อตั้งพรรค เปี่ยมอานาจบารมี ส่วนใหญ่มักจะควบต าแหน่งผู้ ถวายงานหรือไม่ก็เค่อชิงอันดับหนึ่งของแคว้นเล็กไปพร ้อมกันหลาย แคว้น เพียงแต่ว่าเรื่องทานองนี้สานักศึกษาลัทธิขงจื๊อไม่คิดจะสนใจ โดยทั่วไปแล้วขอแค่ไม่มีผู้ฝึกลมปราณละเมิดกฎที่ศาลบุ๋นตั้งไว้ ถ้า อย่างนั้นการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินของล่างภูเขาวิญญูชนและ นักปราชญ์ของสานักศึกษาก็ล้วนไม่ยุ่งวุ่นวายกับเรื่องการปกครอง ของแต่ละแคว้นมากเกินไปนัก
“อวี๋ลู่ เจ้ารู ้ที่มาของชื่อใบถงทวีปหรือไม่?”
“เคยเปิดอ่านอักขรานุกรมท้องถิ่นและเกร็ดพงศาวดารบางส่วน ดูเหมือนว่าในยุคบรรพกาล ทวีปแดนเทพแผ่นดินกลางจะมี จักรพรรดิผู้บรรลุมรรคาที่ปรีชาสามารถพระองค์หนึ่ง ตัดใบถงใน
สวนหลวงเป็ นรูปกุย (เครื่องหยกที่บรรดาจักรพรรดิหรือเจ้าครองนคร รัฐต่างๆ ใช ้ประกอบพิธีส าคัญในสมัยโบราณ ส่วนบนแหลมส่วนล่าง เป็ นเหลี่ยม) มอบให้กับน้องชายของตัวเอง ฝ่ ายหลังมาที่ใบถงทวีป ก่อตั้งราชวงศ์ขึ้นที่ริมลาน้าใหญ่สายเดิม ลาน้าเก่าที่หายสาบสูญไป นานหลายปีสายนี้มีชื่อว่าลาน้าเฝินตู๋ ตอนที่โชคชะตาน้าโชติช่วง ที่สุดกระแสรองสายหลักมีสายน้าใหญ่ที่เป็ นทั้งแม่น้าและลาคลองสิบ สองสายซึ่งมีลาคลองฮุ่ยเหอและแม่น้าซู่เจียงเป็ นหนึ่งในนั้น เมื่อ กาลเวลาผันเปลี่ยน ลาคลองม่ายเหอของราชวงศ์ต้าเฉวียนในทุก วันนี้เป็ นแค่ช่วงตอนเล็กๆ ของลาน้าเป็ นตู้ที่ไหลลงสู่ทะเล ส่วนลา คลองหลินเหอที่อยู่ใต้ฝ่ าเท้าแห่งนี้ เป็ นแค่กระแสรองเล็กๆ ที่ไม่สะดุด ตาของลาน้าเป็ นตู้ในอดีตเท่านั้นยาวไม่เกินสองพันลี้ สานักใบถงที่ อยู่ทางเหนือ สานักกุยหยกที่อยู่ทางใต้ ในความเป็ นจริงแล้วหากย้อน ทวนไปถึงต้นกาเนิด สองสานักเหนือใต้ที่กองกาลังยิ่งใหญ่ที่สุดและ ด ารงอยู่มานานที่สุดของใบถงทวีป อันที่จริงมาจากต้นกาเนิด เดียวกัน นี่จึงเป็ นเหตุให้บรรพจารย์บุกเบิกภูเขาของสองส านักมีแซ่ เดียวกัน”
เซี่ยเซี่ยรู ้สึกเลื่อมใสจากใจจริง อวี๋ลู่ที่เป็ นผู้ฝึกยุทธเต็มตัวคน หนึ่ง หลายปีมานี้ระหว่างที่เดินทางเขาได้อ่านตาราเบ็ดเตล็ดไปมาก น้อยเท่าไร นางก็พอจะรู ้อยู่บ้าง
ชุยตงซานจุ๊ปากประหลาดใจ “ถามค าถามเจ้าข้อเดียว เจ้าให้ คาตอบมาสองข้อ นี่คือซื้อหนึ่งแถมหนึ่งหรือ?”
อวี๋ลู่ยิ้มบางๆ “ถือเสียว่าข้าช่วยบอกคาตอบในส่วนของเซี่ยเซี่ย ไปด้วยเลย”
ชุยตงซานทอดถอนใจอย่างปลงอนิจจัง “ต่อให้เจ้าอวี๋ลู่จะแบ่ง สมองให้ลูกศิษย์ผู้สืบทอดของข้าคนนี้แค่ส่วนเดียวก็ยังดี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!