บทที่ 991.3 เรื่องมงคลคู่มาเยือนพร้อมกัน – ตอนที่ต้องอ่านของ กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!
ตอนนี้ของ กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 991.3 เรื่องมงคลคู่มาเยือนพร้อมกัน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
และในช่วงเวลาที่หวงถึงมาสร้างกระท่อมฝึกตนอยู่ที่นี่ เด็กสาวก็ เป็นผู้ฝึกตนบนทําเนียบเพียงหนึ่งเดียวของเสี่ยวหลงซิวที่หวงถิงถูก
ชะตาด้วย
ครั้งก่อนที่มีการประเมินกระดานแยนจือภูเขาฮวาเส้นในพื้นที่
มงคลถ้ําเมฆาของสกุลเจียงแห่งสํานักกุยหยก ลิงหูเจียวอวี่ก็ติด อันดับด้วย อีกทั้งยังเป็นผู้ฝึกตนหญิงที่อายุน้อยที่สุด
เดิมทีการประชุมศาลบรรพจารย์ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับนาง
เด็กสาวจึงไปเดินเล่นอยู่เพียงลําพัง
ห่างจากยอดเขาซินอี้เจียนซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลบรรพจารย์มาไม่
ไกลมีถ้ําเทพเซียนแห่งหนึ่งที่ถูกปิดผนึกเอาไว้ บนหน้าผาหิน แกะสลักเป็นตัวอักษร คําว่า “ฟ้าอีกแห่งหนึ่ง
งช่างเหรินเจ้าขุนเขาคนก่อนรับกระบี่
หนึ่งของหวงถิงไปก็เคยมาปิดด่านพักรักษาตัวอยู่ที่นี่
เดินผ่านถ้ําแห่งนั้น ลิ่งหูเจียวอวี้ไปยังจุดเล่นหมากล้อมใต้ต้นสน
เห็นว่ารอบด้านไร้ผู้คนก็เพ่งพินิจต้นสนโบราณต้นนั้นอย่างละเอียด ก่อน แล้วจึงทรุดตัวลงนั่งยอง มองไปด้านใต้โต๊ะหิน
คราวก่อนอื่นกวานหนุ่มผู้นั้นทําให้แม่นางน้อยตกใจไม่เบาจน
กลายเป็นโรคหวาดระแวงไปแล้ว มักรู้สึกว่ายันต์และกระบี่บินของอีก
ฝ่ายมีอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง
อาจารย์ปู่จากต้าหลงชิวหรือก็คืออาจารย์ของเจ้าขุนเขาคน ปัจจุบันเคยเล่นหมากล้อมไม่จบกระดานกับหันเลี้ยงซูเซียนเหรินแห่ง
สํานักว่านเหยาที่นี่ หลังจากนั้นมาผู้ฝึกตนของเสี่ยวหลงชิวและผู้ฝึก ตนบนภูเขาที่ไปๆ มาๆ ก็ไม่มีใครสามารถวางเม็ดหมากเพื่อแก้ สถานการณ์บนกระดานได้อีก กระดานหมากบนโต๊ะหินรวมไปถึง
เม็ดหมากรวมตัวกันกลายมาเป็นค่ายกลที่ลี้ลับมหัศจรรย์อย่างหนึ่ง
ซึ่งสร้างความมั่นคงให้กับรากภูเขาสายน้ํา
เพียงแต่ว่าคราวก่อนที่อิ่นกวานหนุ่มมาเป็นแขกที่นี่ได้วางหมาก ลงไปสองตา ว่ากันว่าได้เกิดภาพปรากฏการณ์ผิดปกติแห่งฟ้าดินที่ ไปชักนําดวงดาวทําให้สยบเอาชนะกระดานเดิมได้อย่างสิ้นเชิง
กลายเป็นสถานการณ์ที่แน่นอนอย่างแท้จริง
ต่อมาไม่นานก็มีบรรพจารย์โอสถทองคนหนึ่งมาเรียกให้สิ่งหู เจียวอวี่ไปเข้าร่วมการประชุม เด็กสาวนั่งลงอย่างมึนงง ในหัวมีแต่
ความว่างเปล่า
ซือถูเมิ่งจิงพูดเข้าประเด็นทันที “หลินฮุ่ยจื่อและเฉวียนชิงชิวต่าง ก็ถูกตัดชื่อออกจากทําเนียบของต้าหลงซิวแล้ว ระบบสืบทอดของ พวกเขาสองคนในเสี่ยวหลงซิวจะยังถูกเก็บรักษาเอาไว้ แต่ลําดับ อาวุโสของผู้ฝึกตนจะถูกลดระดับลงไปหนึ่งชั้น”
ตอนที่เซียนจวินท่านนี้พูดจบ ภาพแขวนสองภาพบนผนังก็พลัน
หล่นกระแทกลงพื้น
ผู้ฝึกตนทั้งหลายที่นั่งอยู่หันมามองหน้ากันเอง
มีผู้ฝึกตนหญิงสองคนที่เป็นพี่น้องกัน นอกจากคิ้วตาและท่วงท่า กิริยาที่มีความแตกต่างกันบ้างเล็กน้อยแล้ว เครื่องหน้าทั้งห้าที่เหลือ
และรูปร่างของพวกนางก็ล้วนเหมือนแกะสลักออกมาจากพิมพ์
เดียวกัน
พี่สาวน้องสาวคู่นี้ต่างก็เป็นลูกศิษย์ผู้สืบทอดของหลินฮุ่ยจื่อ แม้ว่าจะขึ้นเขามาช้า แต่ลําดับอาวุโสกลับสูง พรสวรรค์ดีเยี่ยม ทุก
วันนี้ต่างก็เป็นขอบเขตชมมหาสมุทรกันแล้ว พอพวกนางได้ยินเรื่องนี้ก็หน้าขาวซีดกันทันที
ซือถูเมิ่งจิงกล่าวต่ออีกว่า “ข้าจะมารับหน้าที่เป็นเจ้าขุนเขาของ เสี่ยวหลงซิว นี่เป็นแค่แผนรับมือชั่วคราวที่เหมาะสมที่สุดเท่านั้น ภูเขาจะถูกปิดหกสิบปี และข้าก็จะเป็นเจ้าขุนเขาของเสี่ยวหลงซิ่วห กสิบปี”
“ภายในหกสิบปี การประชุมของศาลบรรพจารย์ในวันหน้าให้
กําหนดตําแหน่งที่นั่งโดยดูจากจํานวนคนของตอนนี้ โดยทั่วไปแล้วมี
แต่จะลดไม่มีเพิ่ม เว้นเสียจากว่าข้าจะเชิญใครให้เข้ามาร่วมการ ประชุมด้วย”
“นอกจากเค่อชิงอันดับหนึ่งอย่างจางหลิวรู้ที่ยังรักษาไว้ได้แล้ว
เค่อชิงและผู้ถวายงานที่ได้รับการแขวนชื่อคนอื่นๆ ที่วันนี้ไม่ได้มา เข้าร่วมการประชุมให้หยุดจ่ายเงินเดือนทั้งหมดจากนั้นส่งจดหมาย
ไปขีดเส้นแบ่งความสัมพันธ์กับพวกเขาอย่างชัดเจน บอกพวกเขาว่า วันหน้าไม่ต้องมาที่เสี่ยวหลงชิวอีกแล้ว”
“ปิดสวนป่า ใครที่ควรฆ่าก็ฆ่าทิ้งซะ ใครที่ควรปล่อยก็ปล่อยไป สําหรับคนที่มีความเคียดแค้นต่อเสี่ยวหลงชิวแต่ไม่สมควรตายก็
ปล่อยไปให้หมด เรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกับสํานักเทียนมู่ชัดเจนแล้ว
หากเป็นเผ่าปีศาจที่ทางฝั่งของสํานักศึกษายินดีรับตัวไว้ก็ส่งตัวไปให้ แต่หากไม่ยินดีรับก็ปล่อยให้พวกมันออกไปจากอาณาเขตของเสี่ยว หลงชิว ให้ใช้ชีวิตไปตาม ยถากรรม แต่ต้องคอยจับตามองพวกมัน อย่างลับๆ ผู้ฝึกตนล่างภูเขาที่ตรวจสอบดูแลเรื่องนี้ให้หงเยี่ยนโอสถ ทองและผู้ฝึกยุทธเฉิงที่เป็นผู้นํา สามารถมองข้ามตราผนึกขุนเขาได้
หากพบว่ามีเผ่าปีศาจตนใดกล้าฝ่าฝืนกฏทําเรื่องชั่วร้ายก็ให้ฆ่าทิ้ง ได้ทันที ไม่ต้องรายงานให้ทางศาลบรรพจารย์ของเสี่ยวหลงชิวทราบ แต่หากว่าในบรรดาผู้ฝึกตนคนใดของเสี่ยวหลงชิวกล้าฆ่าเผ่าปีศาจ อย่างพร่ําเพื่อก็ต้องมีจุดจบเช่นเดียวกันกับเผ่าปีศาจ หากศาลบรรพ จารย์จับได้ก็ฆ่าทิ้งได้ทันทีโดยไม่จําเป็นต้องรายงานให้ข้าทราบ หาก ว่าผู้คุม กล้าให้รางวัลและลงโทษอย่างไม่เหมาะสม ข้าจะเป็นคนฆ่า ทิ้งเอง ซึ่งข้าเองก็ไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ทางต้าหลงชิวทราบเช่นกัน”
ใช้คําว่าฆ่าทิ้งติดต่อกันถึงสามครั้ง ทําเอาทุกคนที่อยู่ในศาล บรรพจารย์รู้สึกเหมือนตกอยู่ในอันตราย
ต่อจากนั้นซือถูเมิ่งจิงก็สั่งขังวานรเด็ดจันทร์และตะพาบเฒ่า
โดยตรง ให้ผู้ถวายงานพิทักษ์ภูเขาทั้งสองไปอยู่ในถ้ําเทพเซียนที่ “มี ฟ้าอีกแห่ง” ด้วยตัวเอง ปิดประตูทบทวนความผิดเป็นเวลาหกสิบปี ตะพาบเฒ่าลุกขึ้นยืนตัวสั่น ไม่พูดไร้สาระใดๆ เพียงแค่เอ่ยคําว่า น้อมรับคําสั่งเขียนจวินแล้วก็เดินออกไปจากศาลบรรพจารย์ ทิ้งแผ่น
หลังที่หม่นหมองไว้ให้คนมอง ส่วนวานรเด็ดจันทร์กลับมีสีหน้าเดือด ดาล กําลังคิดว่าควรจะพูดอะไรสักอย่าง ให้ตัวเองได้อธิบายอะไรบ้าง หรือไม่ก็อยากจะขอความเป็นธรรมจากเซียนจวินท่านนี้ ผลคือถูก ซือถูเมิ่งจิงสะบัดชายแขนเสื้อชัดออกไปนอกห้องทั้งคนทั้งเก้าอี้ เมื่อ
เขาดีดนิ้วไปที่นอกประตูใหญ่อีกครั้ง วานรเด็ดจันทร์ที่เผยร่างจริงซึ่ง คํารามเสียงดังลั่นก็เหมือนถูกค้อนทุบอย่างแรง ร่างปลิวลิ่วออกไป
จากยอดเขาซินอี้เจียนโดยตรง เรือนกายใหญ่โตมโหฬารกระแทกลง ในน้ําหวงสุ่ยสายนั้น จมลึกลงไปถึงกันแม่น้ํา ตามมาด้วยเลือดสดที่ แผ่กระจายนองผืนน้ํา
ส่วนหลิวเหอต้าเซิ่งกับหวงสุ่ยต้าหวังนั้นจุดจบยิ่งอนาถมากกว่า
ถูกขับไล่ออกจากสํานักโดยตรง นอกจากจะถูกตัดชื่อออกจาก
ทําเนียบขุนเขาสายน้ําของศาลบรรพจารย์แล้วซือถูเมิ่งจิงยังไม่ อนุญาตให้ผู้ฝึกตนโอสถทองที่เป็นปลาแก่ฝึกตนจนกลายเป็นภูต สองตนนี้มาปรากฏตัวอยู่ในอาณาเขตของเสี่ยวหลงชิวอีกด้วย
เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นมากมายขนาดนี้ อีกทั้งยังไม่ใช่เรื่อง
เล็กๆ แต่พวกผู้ฝึกตนทําเนียบในศาลบรรพจารย์ก็ยังไม่กล้าแม้แต่จะ หายใจแรง บรรยากาศเคร่งเครียด กระทั่งเข็มตกก็ยังได้ยิน
ภูตปลาแก่ทั้งสองตนยังคงรู้สึกซาบซึ้งในพระคุณ ประสานมือ คารวะขอบคุณเซียนจวินที่ออกคําสั่งแล้งน้ําใจผู้นั้น อีกทั้งทั้งสองต่าง ก็ตกปากรับคําว่าจะไม่พูดถึงเรื่องเก่าในวันวานเด็ดขาด หลังออกไป จากเสี่ยวหลงชิวแล้วจะเปลี่ยนรูปโฉมใหม่ ใช้นามแฝง บุกเบิกพื้นที่ ประกอบพิธีกรรมไว้ในสถานที่แห่งอื่น ยิ่งไม่กล้าเหี่ยวก่อความวุ่นวาย
ไปทั่ว หลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกคนมีใจสืบสาวเบาะแสมาถึง และไม่กล้า
ทําลายชื่อเสียงของเสี่ยวหลงชิวแม้แต่น้อยนิด
ซือถูเมิ่งจิงกล่าวด้วยน้ําเส.,
งเรียบเฉย “หวังว่าพวกเจ้าจะทําได้
อย่างที่พูด”
นี่ก็คือบารมีของเซียนเหรินจากแผ่นดินกลางท่านหนึ่งแล้ว แล้วนับประสาอะไรกับที่หลงหรานเซียนจวินยังมีแช่สกุลว่า “ซือ
ถู” อีกด้วย
นอกจากนี้อยู่ที่เสี่ยวหลงซิว เจ้าขุนเขาคนใหม่เอากฎบ้าน ออกมาใช้ก็ถูกต้องชอบธรรมอย่างยิ่ง
จากนั้นก็ถึงคราวของลิ่งหูเจียวอวี่แล้ว นางได้รับโชควาสนา
ใหญ่เทียมฟ้าสองอย่างที่มากพอจะทําให้เขียนดินก่อกําเนิดน้ําลาย
สออยากครอบครองได้เลย
ซือถูเมิ่งจิงมอบสมบัติหนักสองชิ้นให้ผู้ฝึกตนหญิงขอบเขตถ้ํา สถิตที่เพิ่งได้เข้าร่วมการประชุมศาลบรรพจารย์เป็นครั้งแรกในรวด
เดียว
น้ําเต้าฝนธัญพืชหนึ่งลูก
เคยเป็นของหลินฮุ่ยจื่อเจ้าขุนเขาคนเก่า ซึ่งก็คือของแทนตัวเจ้า ขุนเขาและสมบัติหนักสยบภูเขาของเสี่ยวหลงชิว
แต่ไหนแต่ไรมามีเพียงเจ้าขุนเขาที่จะสืบทอดต่อกันไปรุ่นแล้วรุ่น
เสี่ยวหลงซิวเล็กๆ แห่งนี้ จวนเซียนขนาดใหญ่ที่เดิมทีห่างจาก อักษรจงแค่ก้าวเดียวเนื่องจากการมาถึงของคนผู้นี้ก็ทําให้ผู้ฝึกตน
โอสถทองสองคนหายไปทันที
ในศาลบรรพจารย์วันนี้มีโอสถทองทั้งหมดห้าท่าน สองคนถูกกัก
บริเวณ สองคนถูกขับไล่ หากยังเกิดอะไรขึ้นกับหงเยี่ยนที่เป็นผู้คุม กฎแห่งศาลบรรพจารย์คนนี้อีก ถ้าอย่างนั้นเสี่ยวหลงชิวก็จะไม่เหลือ ผู้ฝึกตนเซียนดินอีกแม้แต่คนเดียวจริงๆ แล้ว
หรือว่าหลงหรานเขียนจวิน หรือควรจะพูดว่าต้าหลงชิว คิดจะละ ทิ้งเสี่ยวหลงชิวและใบถงทวีปแล้วอย่างนั้นหรือ?
ในที่สุดชื่อถูเมิ่งจิงก็ยอมเปิดปากพูด “นับแต่วันนี้เป็นต้นไปให้ เฉิงมีมารับหน้าที่เป็นผู้คุมกฎของเสี่ยวหลงชิว หงเยี่ยนได้แต่ใช้
สถานะของผู้ฝึกตนทั่วไปเข้าร่วมการจับตามองเผ่าปีศาจล่างภูเขา
คอยให้ความช่วยเหลือเฉิงมี่ ทําความดีชดใช้ความผิดเท่านั้น หาก
กลับมามือเปล่าไร้ซึ่งคุณความชอบก็ไม่ต้องมาพบหน้าข้าอีก เงินเทพเซียนก้อนหนึ่งกับอาวุธวิเศษชิ้นหนึ่งที่คลังสมบัติได้โดยตรง
ไปรับ
จะถูกตัดชื่อออกจากทําเนียบโดยอัตโนมัติ”
ดเอ่ย “เจ้าขุนเขาซือถู
เฉิงมี่ลังเลเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นกุมหมัดเ
โปรดอภัยที่ข้ามิอาจทําตามคําสั่งได้”
ซือถูเพิ่งจิงยิ้มถาม “รู้สึกว่าใช้สถานะของผู้ฝึกยุทธมารับหน้าที่
เป็นผู้คุมกฏไม่ถูกต้องตามกฎบนภูเขา? หรือรู้สึกว่าตัวเองมี
ความสามารถไม่มากพอ มิอาจเป็นผู้คุมกฏที่ดีของเสี่ยวหลงซิวได้?”
ในที่สุดหลงหรานเซียนจวินก็มีรอยยิ้มปรากฏให้เห็นบ้างแล้ว คน อีกยี่สิบคนที่เหลือรู้สึกเพียงว่าเหมือนตัวเองได้รับอภัยโทษ
เฉิงมี่มีชาติกําเนิดมาจากแม่ทัพบนสนามรบ แต่ไหนแต่ไรมาก็ เป็นคนตรงไปตรงมายามพูดจาจึงไม่อ้อมค้อม “ทั้งสองอย่าง”
ชายฉกรรจ์ร่างกํายําผู้นี้เป็นเพียงแค่ผู้ฝึกยุทธขอบเขตร่างทองที่
ได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นชั้นวางดอกไม้ชั้นหนึ่ง บางทีอยู่ในแคว้นเล็ก
บางแห่งของใบถงทวีปอาจจะยังสําแดงบารมีอํานาจ หลอกให้คนอื่น เรียกตัวเองว่าเป็นปรมาจารย์ได้อยู่บ้าง
ซื่อถูเมิ่งจิงยิ้มบางๆ เอ่ยว่า “เรื่องของกฎระเบียบ อยู่ในเสี่ยวหลง ชิว ทุกวันนี้ข้าเป็นคนตัดสินใจ จะเป็นผู้คุมกฏที่ดีของเสี่ยวหลงชิวได้ หรือไม่ เจ้าคิดว่าไม่ได้ แต่ข้ากลับรู้สึกว่าเจ้าทําได้”
เฉิงมีสะอึกอึ้งไปทันใด
มารดามันเถอะ หากเจ้าไม่ใช่เซียนเหริน ข้าผู้อาวุโสก็อยากจะ
เปิดปากด่าคนแล้วนะ
ซือถูเมิ่งจิงเอ่ยว่า “เสี่ยวหลงซิวปิดภูเขาแล้ว ไม่ต้องการหุ่นเชิด ที่ต้องคอยออกหน้าต้อนรับผู้คน
แค่ต้องการผู้คุมกฎคนหนึ่งที่มีการ
ให้รางวัลและการลงโทษอย่างชัดเจนจัดการแก้ปัญหาโดยยึดหลัก
ความเป็นธรรมเท่านั้น ส่วนบุคคลที่ต้องคอยรักษาหน้าตาของเสี่ยว หลงชิว มีแค่ข้าคนเดียวก็พอแล้ว”
“วันหน้าทุกๆ เดือนข้าจะเปิดการถ่ายทอดวิชาความรู้สามครั้ง แบ่งออกเป็นสามประเภท ประเภทแรกคือลูกศิษย์ผู้สืบทอดของศาล
บรรพจารย์และลูกศิษย์ฝ่ายในฝ่ายนอกทั้งหมด ถึงขั้นที่ว่าคนที่ไม่มี
คุณสมบัติในการฝึกตน ไม่มีสถานะก็ล้วนสามารถเข้ามาร่วมเรียนได้
ประเภทที่สองมีเพียงแค่ผู้ฝึกลมปราณห้าขอบเขตกลางเท่านั้นที่เข้า
ร่วมได้ ส่วนประเภทสุดท้าย ทุกคนที่คอขวดของขอบเขตเริ่มคลาย ออก หรือเตรียมการที่จะปิดด่านล้วนเข้าร่วมรับฟังได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!