กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 991

และในช่วงเวลาที่หวงถึงมาสร้างกระท่อมฝึกตนอยู่ที่นี่ เด็กสาวก็ เป็นผู้ฝึกตนบนทําเนียบเพียงหนึ่งเดียวของเสี่ยวหลงซิวที่หวงถิงถูก

ชะตาด้วย

ครั้งก่อนที่มีการประเมินกระดานแยนจือภูเขาฮวาเส้นในพื้นที่

มงคลถ้ําเมฆาของสกุลเจียงแห่งสํานักกุยหยก ลิงหูเจียวอวี่ก็ติด อันดับด้วย อีกทั้งยังเป็นผู้ฝึกตนหญิงที่อายุน้อยที่สุด

เดิมทีการประชุมศาลบรรพจารย์ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับนาง

เด็กสาวจึงไปเดินเล่นอยู่เพียงลําพัง

ห่างจากยอดเขาซินอี้เจียนซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลบรรพจารย์มาไม่

ไกลมีถ้ําเทพเซียนแห่งหนึ่งที่ถูกปิดผนึกเอาไว้ บนหน้าผาหิน แกะสลักเป็นตัวอักษร คําว่า “ฟ้าอีกแห่งหนึ่ง

งช่างเหรินเจ้าขุนเขาคนก่อนรับกระบี่

หนึ่งของหวงถิงไปก็เคยมาปิดด่านพักรักษาตัวอยู่ที่นี่

เดินผ่านถ้ําแห่งนั้น ลิ่งหูเจียวอวี้ไปยังจุดเล่นหมากล้อมใต้ต้นสน

เห็นว่ารอบด้านไร้ผู้คนก็เพ่งพินิจต้นสนโบราณต้นนั้นอย่างละเอียด ก่อน แล้วจึงทรุดตัวลงนั่งยอง มองไปด้านใต้โต๊ะหิน

คราวก่อนอื่นกวานหนุ่มผู้นั้นทําให้แม่นางน้อยตกใจไม่เบาจน

กลายเป็นโรคหวาดระแวงไปแล้ว มักรู้สึกว่ายันต์และกระบี่บินของอีก

ฝ่ายมีอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง

อาจารย์ปู่จากต้าหลงชิวหรือก็คืออาจารย์ของเจ้าขุนเขาคน ปัจจุบันเคยเล่นหมากล้อมไม่จบกระดานกับหันเลี้ยงซูเซียนเหรินแห่ง

สํานักว่านเหยาที่นี่ หลังจากนั้นมาผู้ฝึกตนของเสี่ยวหลงชิวและผู้ฝึก ตนบนภูเขาที่ไปๆ มาๆ ก็ไม่มีใครสามารถวางเม็ดหมากเพื่อแก้ สถานการณ์บนกระดานได้อีก กระดานหมากบนโต๊ะหินรวมไปถึง

เม็ดหมากรวมตัวกันกลายมาเป็นค่ายกลที่ลี้ลับมหัศจรรย์อย่างหนึ่ง

ซึ่งสร้างความมั่นคงให้กับรากภูเขาสายน้ํา

เพียงแต่ว่าคราวก่อนที่อิ่นกวานหนุ่มมาเป็นแขกที่นี่ได้วางหมาก ลงไปสองตา ว่ากันว่าได้เกิดภาพปรากฏการณ์ผิดปกติแห่งฟ้าดินที่ ไปชักนําดวงดาวทําให้สยบเอาชนะกระดานเดิมได้อย่างสิ้นเชิง

กลายเป็นสถานการณ์ที่แน่นอนอย่างแท้จริง

ต่อมาไม่นานก็มีบรรพจารย์โอสถทองคนหนึ่งมาเรียกให้สิ่งหู เจียวอวี่ไปเข้าร่วมการประชุม เด็กสาวนั่งลงอย่างมึนงง ในหัวมีแต่

ความว่างเปล่า

ซือถูเมิ่งจิงพูดเข้าประเด็นทันที “หลินฮุ่ยจื่อและเฉวียนชิงชิวต่าง ก็ถูกตัดชื่อออกจากทําเนียบของต้าหลงซิวแล้ว ระบบสืบทอดของ พวกเขาสองคนในเสี่ยวหลงซิวจะยังถูกเก็บรักษาเอาไว้ แต่ลําดับ อาวุโสของผู้ฝึกตนจะถูกลดระดับลงไปหนึ่งชั้น”

ตอนที่เซียนจวินท่านนี้พูดจบ ภาพแขวนสองภาพบนผนังก็พลัน

หล่นกระแทกลงพื้น

ผู้ฝึกตนทั้งหลายที่นั่งอยู่หันมามองหน้ากันเอง

มีผู้ฝึกตนหญิงสองคนที่เป็นพี่น้องกัน นอกจากคิ้วตาและท่วงท่า กิริยาที่มีความแตกต่างกันบ้างเล็กน้อยแล้ว เครื่องหน้าทั้งห้าที่เหลือ

และรูปร่างของพวกนางก็ล้วนเหมือนแกะสลักออกมาจากพิมพ์

เดียวกัน

พี่สาวน้องสาวคู่นี้ต่างก็เป็นลูกศิษย์ผู้สืบทอดของหลินฮุ่ยจื่อ แม้ว่าจะขึ้นเขามาช้า แต่ลําดับอาวุโสกลับสูง พรสวรรค์ดีเยี่ยม ทุก

วันนี้ต่างก็เป็นขอบเขตชมมหาสมุทรกันแล้ว พอพวกนางได้ยินเรื่องนี้ก็หน้าขาวซีดกันทันที

ซือถูเมิ่งจิงกล่าวต่ออีกว่า “ข้าจะมารับหน้าที่เป็นเจ้าขุนเขาของ เสี่ยวหลงซิว นี่เป็นแค่แผนรับมือชั่วคราวที่เหมาะสมที่สุดเท่านั้น ภูเขาจะถูกปิดหกสิบปี และข้าก็จะเป็นเจ้าขุนเขาของเสี่ยวหลงซิ่วห กสิบปี”

“ภายในหกสิบปี การประชุมของศาลบรรพจารย์ในวันหน้าให้

กําหนดตําแหน่งที่นั่งโดยดูจากจํานวนคนของตอนนี้ โดยทั่วไปแล้วมี

แต่จะลดไม่มีเพิ่ม เว้นเสียจากว่าข้าจะเชิญใครให้เข้ามาร่วมการ ประชุมด้วย”

“นอกจากเค่อชิงอันดับหนึ่งอย่างจางหลิวรู้ที่ยังรักษาไว้ได้แล้ว

เค่อชิงและผู้ถวายงานที่ได้รับการแขวนชื่อคนอื่นๆ ที่วันนี้ไม่ได้มา เข้าร่วมการประชุมให้หยุดจ่ายเงินเดือนทั้งหมดจากนั้นส่งจดหมาย

ไปขีดเส้นแบ่งความสัมพันธ์กับพวกเขาอย่างชัดเจน บอกพวกเขาว่า วันหน้าไม่ต้องมาที่เสี่ยวหลงชิวอีกแล้ว”

“ปิดสวนป่า ใครที่ควรฆ่าก็ฆ่าทิ้งซะ ใครที่ควรปล่อยก็ปล่อยไป สําหรับคนที่มีความเคียดแค้นต่อเสี่ยวหลงชิวแต่ไม่สมควรตายก็

ปล่อยไปให้หมด เรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกับสํานักเทียนมู่ชัดเจนแล้ว

หากเป็นเผ่าปีศาจที่ทางฝั่งของสํานักศึกษายินดีรับตัวไว้ก็ส่งตัวไปให้ แต่หากไม่ยินดีรับก็ปล่อยให้พวกมันออกไปจากอาณาเขตของเสี่ยว หลงชิว ให้ใช้ชีวิตไปตาม ยถากรรม แต่ต้องคอยจับตามองพวกมัน อย่างลับๆ ผู้ฝึกตนล่างภูเขาที่ตรวจสอบดูแลเรื่องนี้ให้หงเยี่ยนโอสถ ทองและผู้ฝึกยุทธเฉิงที่เป็นผู้นํา สามารถมองข้ามตราผนึกขุนเขาได้

หากพบว่ามีเผ่าปีศาจตนใดกล้าฝ่าฝืนกฏทําเรื่องชั่วร้ายก็ให้ฆ่าทิ้ง ได้ทันที ไม่ต้องรายงานให้ทางศาลบรรพจารย์ของเสี่ยวหลงชิวทราบ แต่หากว่าในบรรดาผู้ฝึกตนคนใดของเสี่ยวหลงชิวกล้าฆ่าเผ่าปีศาจ อย่างพร่ําเพื่อก็ต้องมีจุดจบเช่นเดียวกันกับเผ่าปีศาจ หากศาลบรรพ จารย์จับได้ก็ฆ่าทิ้งได้ทันทีโดยไม่จําเป็นต้องรายงานให้ข้าทราบ หาก ว่าผู้คุม กล้าให้รางวัลและลงโทษอย่างไม่เหมาะสม ข้าจะเป็นคนฆ่า ทิ้งเอง ซึ่งข้าเองก็ไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ทางต้าหลงชิวทราบเช่นกัน”

ใช้คําว่าฆ่าทิ้งติดต่อกันถึงสามครั้ง ทําเอาทุกคนที่อยู่ในศาล บรรพจารย์รู้สึกเหมือนตกอยู่ในอันตราย

ต่อจากนั้นซือถูเมิ่งจิงก็สั่งขังวานรเด็ดจันทร์และตะพาบเฒ่า

โดยตรง ให้ผู้ถวายงานพิทักษ์ภูเขาทั้งสองไปอยู่ในถ้ําเทพเซียนที่ “มี ฟ้าอีกแห่ง” ด้วยตัวเอง ปิดประตูทบทวนความผิดเป็นเวลาหกสิบปี ตะพาบเฒ่าลุกขึ้นยืนตัวสั่น ไม่พูดไร้สาระใดๆ เพียงแค่เอ่ยคําว่า น้อมรับคําสั่งเขียนจวินแล้วก็เดินออกไปจากศาลบรรพจารย์ ทิ้งแผ่น

หลังที่หม่นหมองไว้ให้คนมอง ส่วนวานรเด็ดจันทร์กลับมีสีหน้าเดือด ดาล กําลังคิดว่าควรจะพูดอะไรสักอย่าง ให้ตัวเองได้อธิบายอะไรบ้าง หรือไม่ก็อยากจะขอความเป็นธรรมจากเซียนจวินท่านนี้ ผลคือถูก ซือถูเมิ่งจิงสะบัดชายแขนเสื้อชัดออกไปนอกห้องทั้งคนทั้งเก้าอี้ เมื่อ

เขาดีดนิ้วไปที่นอกประตูใหญ่อีกครั้ง วานรเด็ดจันทร์ที่เผยร่างจริงซึ่ง คํารามเสียงดังลั่นก็เหมือนถูกค้อนทุบอย่างแรง ร่างปลิวลิ่วออกไป

จากยอดเขาซินอี้เจียนโดยตรง เรือนกายใหญ่โตมโหฬารกระแทกลง ในน้ําหวงสุ่ยสายนั้น จมลึกลงไปถึงกันแม่น้ํา ตามมาด้วยเลือดสดที่ แผ่กระจายนองผืนน้ํา

ส่วนหลิวเหอต้าเซิ่งกับหวงสุ่ยต้าหวังนั้นจุดจบยิ่งอนาถมากกว่า

ถูกขับไล่ออกจากสํานักโดยตรง นอกจากจะถูกตัดชื่อออกจาก

ทําเนียบขุนเขาสายน้ําของศาลบรรพจารย์แล้วซือถูเมิ่งจิงยังไม่ อนุญาตให้ผู้ฝึกตนโอสถทองที่เป็นปลาแก่ฝึกตนจนกลายเป็นภูต สองตนนี้มาปรากฏตัวอยู่ในอาณาเขตของเสี่ยวหลงชิวอีกด้วย

เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นมากมายขนาดนี้ อีกทั้งยังไม่ใช่เรื่อง

เล็กๆ แต่พวกผู้ฝึกตนทําเนียบในศาลบรรพจารย์ก็ยังไม่กล้าแม้แต่จะ หายใจแรง บรรยากาศเคร่งเครียด กระทั่งเข็มตกก็ยังได้ยิน

ภูตปลาแก่ทั้งสองตนยังคงรู้สึกซาบซึ้งในพระคุณ ประสานมือ คารวะขอบคุณเซียนจวินที่ออกคําสั่งแล้งน้ําใจผู้นั้น อีกทั้งทั้งสองต่าง ก็ตกปากรับคําว่าจะไม่พูดถึงเรื่องเก่าในวันวานเด็ดขาด หลังออกไป จากเสี่ยวหลงชิวแล้วจะเปลี่ยนรูปโฉมใหม่ ใช้นามแฝง บุกเบิกพื้นที่ ประกอบพิธีกรรมไว้ในสถานที่แห่งอื่น ยิ่งไม่กล้าเหี่ยวก่อความวุ่นวาย

ไปทั่ว หลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกคนมีใจสืบสาวเบาะแสมาถึง และไม่กล้า

ทําลายชื่อเสียงของเสี่ยวหลงชิวแม้แต่น้อยนิด

ซือถูเมิ่งจิงกล่าวด้วยน้ําเส.,

งเรียบเฉย “หวังว่าพวกเจ้าจะทําได้

อย่างที่พูด”

นี่ก็คือบารมีของเซียนเหรินจากแผ่นดินกลางท่านหนึ่งแล้ว แล้วนับประสาอะไรกับที่หลงหรานเซียนจวินยังมีแช่สกุลว่า “ซือ

ถู” อีกด้วย

นอกจากนี้อยู่ที่เสี่ยวหลงซิว เจ้าขุนเขาคนใหม่เอากฎบ้าน ออกมาใช้ก็ถูกต้องชอบธรรมอย่างยิ่ง

จากนั้นก็ถึงคราวของลิ่งหูเจียวอวี่แล้ว นางได้รับโชควาสนา

ใหญ่เทียมฟ้าสองอย่างที่มากพอจะทําให้เขียนดินก่อกําเนิดน้ําลาย

สออยากครอบครองได้เลย

ซือถูเมิ่งจิงมอบสมบัติหนักสองชิ้นให้ผู้ฝึกตนหญิงขอบเขตถ้ํา สถิตที่เพิ่งได้เข้าร่วมการประชุมศาลบรรพจารย์เป็นครั้งแรกในรวด

เดียว

น้ําเต้าฝนธัญพืชหนึ่งลูก

เคยเป็นของหลินฮุ่ยจื่อเจ้าขุนเขาคนเก่า ซึ่งก็คือของแทนตัวเจ้า ขุนเขาและสมบัติหนักสยบภูเขาของเสี่ยวหลงชิว

แต่ไหนแต่ไรมามีเพียงเจ้าขุนเขาที่จะสืบทอดต่อกันไปรุ่นแล้วรุ่น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!