กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 994

เดินไปที่เรือนด้วยกัน เจิ้งต้าเฟิงพลันเอ่ยว่า “ตอนอยู่ใต้หล้าห้าสี

ชุยตงซานไปหาข้าเชื้อเชิญให้ข้ากลับไปทาอาชีพเก่าที่ภูเขาเซียนตู

ท าหน้าที่เป็นคนเฝ้าประตูต่ออีกครั้ง เขาบอกว่าที่ภูเขาลั่วพั่วมี

นักพรตเซียน เว่ยแล้ว คุณความเหนื่อยยากสูงมาก มีความ

รับผิดชอบอย่างมาก ข้าจึงคิดว่าเรื่องนี้สามารถพิจารณาได้ หากว่า

เจ้าขุนเขายินดีปล่อยข้าไป รอให้เรือเฟิงยวนกลับมาจากอุตรกุรุทวีป

ข้าก็จะถือโอกาสติดเรือไปลงหลักปักฐานอยู่ที่สานักกระบี่ชิงผิงเลย”

ชุยตงซานตบอกรับรองกับเจิ้งต้าเฟิงว่าขอแค่ไปถึงที่ภูเขาเขียน

ตูจะทาให้เขาได้รู้ว่าอะไรที่เรียกว่าภูเขาของข้ามีคนงามอยู่มากมาย

สาวงามรูปโฉมเหมือนหยกที่แท้จริงเป็นอย่างไร

เจิ้งต้าเฟิงถามแค่ค าถามเดียว รอบภูเขาเซียนตูมีพรรคอย่าง

พวกเกาะจูไชภูเขาหลังอ๋าว จวนไช่เฉวียนแห่งอุตรกุรุทวีปอยู่บ้าง

หรือไม่?

ซุยตงชานพูดอย่างน่าเชื่อถือว่า ขอแค่รับปากว่าจะไปเป็นคน

เฝ้าประตูที่ภูเขาเซียนตูก็จะเสกมาให้เจิ้งต้าเฟิงให้ได้!

เฉินผิงอันนวดคลึงหว่างคิ้ว ลูกศิษย์ผู้เป็นที่ภาคภูมิใจที่ขุดมุม

กาแพงไปถึงใต้หล้าห้าสีผู้นี้ หากว่าตอนนี้มายืนอยู่ตรงหน้าตน เขา

จะต้องชัดให้ห่านขาวใหญ่กลายเป็นนกกระจอกด าเลยทีเดียว

เจิ้งต้าเฟิงทอดถอนใจ “เมื่อเป็นเช่นนี้ก็คงได้แต่ปล่อยให้ความ

รักของแม่นางเฉินกลายเป็นความว่างเปล่าแล้ว”

เฉินผิงอันเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “อย่าทาร้ายชื่อเสียงของแม่

นางดีๆ คนหนึ่งสิ”

เจิ้งต้าเฟิงพยักหน้ารับบอกว่าใช่ จากนั้นก็ยกเท้าถีบไปบนก้น

เฉินหลิงจวินที่ชายแขนเสื้อสะบัดราวกับบิน “เป็นถุงข้าวไร้ประโยชน์

หรือไร ท าไมยังไม่ใช่ขอบเขตหยกดิบอีก”

เฉินหลิงจวินเซถลา เอ่ยอย่างเดือดดาล “เจ้าคิดว่าขอบเขตหยก

ดิบคืออะไร นึกอยากจะได้ก็ได้ บอกว่าจะมีก็มีหรือ?!”

เจิ้งต้าเฟิงหลุดหัวเราะพรืด “ตอนอยู่กับหน่วนซู่ เจ้าโม้ไว้ว่า

อย่างไรล่ะ? ขอบเขตหยกดิบเล็กๆ แค่กวักมือเรียกก็ได้มา ง่าย

เหมือนพลิกฝ่ามือไม่ใช่หรือไง?”

เฉินหลิงจวินสะอึกอึ้ง ถามหยั่งเชิงว่า “เรื่องนี้หมี่ลี่น้อยก็เล่าให้

เจ้าฟังด้วยหรือ? เฮ้อ สมกับเป็นเทพรายงานข่าวจริงๆ”

เจิ้งต้าเฟิงยกเท้าขึ้นอีกครั้ง “ยังต้องให้หมี่ลี่น้อยเล่าหรือไร? พ่อ

ครัวเฒ่าใช้หัวเข่าก็ยังคิดได้”

เฉินหลิงจวินจะไปจับประคองเจิ้งต้าเฟิงตามจิตใต้สานึก เพียงแต่

เห็นว่าพี่น้องต้าเฟิงยกเท้าเก็บเท้า ระหว่างที่ก้าวเดินฝีเท้าแข็งแรงราว

กับบิน ทาทุกอย่างเสร็จในรวดเร็ว เด็กชายชุดเขียวก็พลันรู้สึกเขิน

อาย หัวเราะหึหึ

เจิ้งต้าเฟิงเองก็รู้สึกอบอุ่นใจ ก่อนหน้านี้ที่บอกว่าคิดถึงบ้าน เขา

พูดความจริง ไม่ได้เสแสร้งเลยสักนิด เซียนเว่ยย้ายเข้ามาอยู่ในเรือน

ก็ไม่ได้ยึดห้องหลักของเจิ้งต้าเฟิง นักพรตตัวปลอมผู้นี้พักอาศัยอยู่

ในห้องด้านข้าง

ได้ยินว่าที่ห้องของเซียนเว่ยมีเหล้า เจิ้งต้าเฟิงก็เก็บกุญแจของ

ห้องหลัก บอกว่าไม่สู้ไปนั่งที่ห้องของนักพรตเซียนเว่ย ดื่มเหล้าพลาง

คุยกันไป

เซียนเว่ยรู้สึกล าบากใจเล็กน้อย บอกว่าในห้องค่อนข้างรกรุงรัง

ห้องด้านข้างห้องนี้เป็นทั้งที่พักของเซียนเว่ย แล้วก็ถือว่าเป็นห้อง

หนังสือด้วย คนเฝ้าประตูคืองานสบายที่ว่างงานมากที่สุดแล้ว อีกทั้ง

เซียนเว่ยยังเป็นคนขยันอ่านตาราหลากหลาย เรียกได้ว่ามือไม่เคย

ว่างจากตารา บวกกับที่ยังชอบเขียนอะไรลงไป เป็นเหตุให้ข้าวของ

เครื่องใช้ในห้องหนังสืออย่างพวกแท่นฝนหมึกที่อยู่บนโต๊ะวางตั้ง

ปะปนกับหนังสือ อีกทั้งเซียนเว่ยอ่านตาราก็มักจะทาเหมือนการไป

เยี่ยมญาติ เปลี่ยนหนังสือเล่มใหม่อ่านไปเรื่อย อ่านเสร็จแล้วก็จะวาง

ไว้ด้านข้างง่ายๆ เป็นเหตุให้บนโต๊ะมีหนังสือมากมายวางกอง

ระเกะระกะ รกมากจริงๆ

บวกกับที่เซียนเว่ยเคยชินกับชีวิตยากจนแล้ว และเป็นคนที่เห็น

แก่ความสัมพันธ์ในวันวานมากที่สุด พู่กันทั้งหลายที่เคยใช้ล้วนตัด

ใจทิ้งไม่ลง เขาจึงขอให้เฉินหลิงจวินช่วยเหลือให้ไปช่วยซื้อแจกัน

กระเบื้องลายครามที่ลักษณะเหมือนไหใบหนึ่งมาจากที่ร้านของเมือง

เล็กเอาไว้เก็บพู่กันที่ไม่ใช้แล้วโดยเฉพาะ สะสมนานวันเข้า พู่กันเก่า

ก็เริ่มสูงพ้นแจกัน มีกลิ่นอายเหมือนเป็นสุสานแจกันอย่างไรอย่างนั้น

เฉินผิงอันที่เป็นเจ้าขุนเขา อันที่จริงก็เพิ่งเข้ามาในห้องนี้เป็นครั้ง

แรก ดังนั้นพอเห็นแจกันกระเบื้องใบนั้น เขาจึงประหลาดใจอย่างมาก

เซียนเว่ยชอบอ่านหนังสือ ขอแค่ไม่ใช่คนตาบอดก็ล้วนรู้ชัดเจนดี

เพียงแต่เฉินผิงอันก็ยังคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเซียนเว่ยจะใช้พู่กันไปเยอะ

ขนาดนี้ แต่ว่าเขาเอาไปเขียนอะไรล่ะ? คงไม่ใช่เขียนนิยายรัก

ประโลมโลกหรอกกระมัง หรือว่ายังคิดอยากจะหาร้านหนังสือมาช่วย

จัดพิมพ์เป็นรูปเล่ม เอาไปขายเพื่อหาเงินมา? นี่จึงเป็นเหตุให้พอสอด

ส่ายสายตาไปรอบหนึ่ง นอกจากที่กระจาดถักจากไม้ไผ่สองสามใบที่

วางไว้ในมุมห้อง ใส่ “ตารา” จานวนไม่น้อยที่รวมเป็นรูปเล่มแล้ว บน

โต๊ะก็ยังมีกระดาษต้นฉบับแบบร่างที่วางระเกะระกะ คงจะเขียน

ประสบการณ์แง่คิดที่ได้จากตอนอ่านตารา หรือไม่ก็คัดลอกมาจาก

ตาราเล่มใดกระมัง? เฉินผิงอันดึงต้นฉบับเขียนมือที่วางอยู่ใต้สมุด

แผ่นหนึ่งออกมา ตัวอักษรธรรมดา ก็แค่เป็นระเบียบเรียบร้อยเท่านั้น

ส่วนเนื้อหา…ทาเอาเฉินผิงอันพูดไม่ออก ไม่กี่ประโยคบนกระดาษนั้น

คือ เรียนรู้ดั่งภูเขาลึกตัวข้าแก่ชรา ค ากล่าวนี้ชวนให้หงุดหงิดใจ

หากดึงเอาประโยค ปิ่นระย้าวางทอดบนหมอนผลึก” ออกมาจากใน

ต าราได้ก็จะยอดเยี่ยมยิ่งนัก

เจิ้งต้าเฟิงยึดคอยาวไปมองเนื้อหาในกระดาษแล้วพยักหน้าเบาๆ

จากนั้นส่ายหน้าน้อยๆ ชายฉกรรจ์คล้ายอริยะปราชญ์แห่งลัทธิขงจื๊อ

ที่ได้พิทักษ์ฟ้าดินแห่งหนึ่ง สีหน้าเปลี่ยนมาเป็นเฉยเมย เริ่มให้ค า

ชี้แนะเด็กรุ่นเยาว์ว่า “สมมติว่าเพิ่มประโยค ปิ่นเดี่ยวกับหมอนสอง

ใบ” จะทาให้คนอ่านเกิดจินตนาการบรรเจิดไปได้ไกลมากกว่า เวลา

นี้ทัศนียภาพนี้ก็จะมีกลิ่นอายของ ไร้เสียงเหนือกว่ามีเสียง’ ได้แล้ว”

เซียนเว่ยใช้หมัดทุบฝ่ามือ พูดด้วยสีหน้ามีชีวิตชีวาว่า “พี่ต้าเฟิง

สมกับเป็นยอดฝีมือผู้อาวุโสจริงๆ ด้วย!”

เจิ้งต้าเฟิงหัวเราะร่วน “ค าอธิบายเหนือค าอธิบาย เพิ่มไปอีก

ประโยคว่า เหนือหมอนสองใบล้วนมีชาดแต่งแต้ม”

เฉินหลิงจวินหัวเราะหึหึอย่างชั่วร้าย เซียนเว่ยครุ่นคิดอยู่เล็กน้อย

ก็เข้าใจได้ทันทีดวงตาพลันเป็นประกาย หันไปสบตากับเจิ้งต้าเฟิง

ต่างคนต่างพยักหน้า

หากไม่เป็นเพราะท่องอยู่ในมหาสมุทรตาราของเรือนหลังนี้มา

นานมากแล้ว และเซียนเว่ยก็ได้เปิดโลกทัศน์ ความรู้กว้างขวางขึ้น

แล้ว หาไม่ก็คงฟังไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเจิ้งต้าเฟิงพูดเรื่องอะไรอยู่

เฉินผิงอันหยิบตาราที่ทาเป็น ‘ที่ทับกระดาษ’ บนโต๊ะขึ้นมา คิด

ว่าจะวางกระดาษแผ่นนั้นกลับไปตาแหน่งเดิม วางไว้ใต้หนังสืออีกครั้ง

เอ่ยอย่างอ่อนใจว่า “พวกเจ้าแค่พอสมควรก็พอแล้วนะ”

เริ่มรู้สึกเสียใจภายหลังแล้วที่มีความคิดก่อนหน้านี้ ตอนนั้นใน

ศาลบรรพจารย์ยอดเขาจี้เซ่อ หลังจากได้รับกระบี่บินแจ้งข่าวของ

บทที่ 994.2 ในภูเขาช่างงดงาม 1

บทที่ 994.2 ในภูเขาช่างงดงาม 2

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!