วันที่สองเดือนสอง มังกรเชิดหัว
ด้ามดาวเป่ ยโต้วชี้ไปทางทิศตะวันออก ดาวเจียวซู่ปรากฏครั้ง แรก สรรพสิ่งพลัดเปลี่ยนใบไม้ผลิกลับคืน หมื่นสรรพสิ่งกระตุ้น กาเนิดใหม่ นกและสัตว์เติบโต พืชหญ้าทิ้ง เปลือกท านาในฤดูใบไม้ ผลิเริ่มต้นขึ้น
ราชสานักของแต่ละแคว้นจะมีเจ้ากรมพิธีการและกรมกลาโหมที่ เป็ นผู้น าของร ้อยขุนนางยื่นตาราเกี่ยวกับการเกษตรให้กับผู้ครอง แคว้นในการประชุมท้องพระโรงวันนี้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เป็ น รากฐานซึ่งจาเป็ นต้องทา มีความหมายว่า “เรื่องใหญ่แห่งแคว้น อยู่ที่ การเซ่นไหว้และการสงคราม” แต่ว่า ‘รากฐานของแคว้น อยู่ที่ การเกษตรอยู่ที่ผืนนา
ฮ่องเต้จะจัดงานเลี้ยงเชื้อเชิญเหล่าขุนนางให้ร่วมกันดื่มเหล้าอี้ ชุนที่หมักด้วยกรรมวิธีโบราณ ประทานของจ าพวกมีด ไม้บรรทัด ให้กับสานักการผลิต สิ่งของเหล่านี้ล้วนทามาจากหยกขาว มี ความหมายว่าขุนนางชั้นสูงทุกท่านล้วนเป็ นวิญญูชน จาต้อง คาดคะเนลงความเห็นชั่งน้าหนักเรื่องของบ้านเมืองอย่างระมัดระวัง ฮ่องเฮารับหน้าที่ประทาน “ถุงผ้าสีเขียว” ให้กับเหล่าฮูหยินเก้ามิ่ง (เก้ามิ่งคือบรรดาศักดิ์ที่ฮ่องเต้จะแต่งตั้งให้กับภรรยาของขุนนางที่มี
ความชอบเป็ นพิเศษ) จานวนมากที่เข้าวังมาในจานวนที่ไม่เท่ากัน ในนามถือเป็ นถุงที่ฮองเฮาตัดเย็บด้วยตัวเอง ไม่ได้พึ่งฝีมือของเหล่า สนมนางก านัล ในถุงสีเขียวบรรจุธัญพืชและเมล็ดพันธ ์ผลไม้ หลากหลายสีสันเอาไว้ ให้พวกนางน าไปมอบต่อให้กับญาติมิตรและ เด็กเล็กในตระกูล เพื่อขอพรให้ผลเก็บเกี่ยวอุดมสมบูรณ์ ปีใหม่มีห้า ธัญพืชครบครันขณะเดียวกันก็มีความหมายว่าตระกูลชนชั้นสูงและ ตระกูลปัญญาชนผู้มีชื่อเสียงมีข้าวเต็มยุ้งฉางรู ้มารยาทประเพณี
ในอดีตที่อาเภอไหวหวงแห่งนี้ นับแต่โบราณมาทุกวันที่สอง เดือนสองก็จะมีประเพณีที่ทุกครัวเรือนต้องตื่นเช ้ามากินบะหมี่หนวด มังกรหนึ่งถ้วย และแผ่นแป้ งที่ย่างในวันนี้ก็ถูกตั้งชื่อว่า “เกล็ดมังกร” ในวันนี้สตรีออกเรือนแล้วและหญิงสาวที่รอการออกเรือนของเมือง เล็กล้วนจ าเป็ นต้องหยุดท างานเย็บปักถักร ้อย ตามค ากล่าวของคน รุ่นก่อน เนื่องจากวันที่มังกรเชิดหัวเป็ นครั้งแรกนี้ หากมีการร ้อยด้าย สนเข็ม กลัวจะไปท าร ้ายดวงตาของมังกรน าพาความไม่สบอารมณ์ มาให้
ชายฉกรรจ์แข็งแรงในเมืองเล็กจะนาพาพวกเด็กๆ มือหนึ่งถือ ท่อนไม้ไผ่หรือไม่ก็ไม้กระบองเคาะไปตามเสาคาน เตียงนอน ห้องครัว ฯลฯ ภาษาพื้นบ้านเรียกว่ามังกรปลุกวสันต์ และยังต้องเอ่ยถ้อยค า มงคลกับถ้อยคาโบราณที่สืบทอดต่อกันมารุ่นแล้วรุ่นเล่าอย่างเช่นว่า ยุ้งฉางใหญ่เต็มแน่นราวขุนเขา สูงเกินภูเขาฝั่งตะวันตก ยุ้งฉางเล็ก เหมือนน้าไหล ไหลอยู่ในผืนนาบ้านตัวเอง ทางฝั่งของถนนฝูลู่และ
ตรอกเถาเย่จะพูดจาสุภาพไพเราะกว่าหน่ อย เอ่ยถ้อยคาที่มี ความหมายยิ่งใหญ่กว่า ทานองว่าลมฝนตกต้องตามฤดูกาล บ้านเมืองสงบสุข งูตะขาบห้าพิษหลีกหนี อย่าได้สร ้างความเสียหาย
เมื่อสามสิบสี่สิบปี ก่อน เนื่องจากตรอกหนีผิงมีตัวชวย คาว่า ‘สงบสุขปลอดภัย” ที่เดิมทีเป็ นถ้อยคามงคล กลับกลายเป็ นข้อห้ามที่ ไม่เล็กไม่ใหญ่อย่างหนึ่ง ต่างก็ไม่มีใครยินดีจะพูดถึง กระทั่งวันนี้คา ว่าคุ้มครองให้ทุกคนสงบสุขปลอดภัยกลับค่อยๆ กลายมาเป็ นค า กล่าวที่มีน้าหนักมากและมีความหมายลึกล้าแล้ว ถึงขั้นที่ว่ายังมี ตระกูลคนรวยที่ย้ายจากเมืองเล็กไปอยู่ตัวจังหวัดจงใจให้เด็กในบ้าน ทุ่มเครื่องกระเบื้องชิ้นหนึ่งให้แตกในวันนี้ จากนั้นท่องสามรอบว่า แตกเพื่อความสงบซึ่งอ่านออกเสียงเดียวกันกับค าว่าสงบสุข ปลอดภัยทุกปี เพื่อให้เป็ นนิมิตหมายที่ดี
และสตรีออกเรือนแล้วกับเด็กสาวในตระกูลจะตื่นแต่เช ้าตรู่เพื่อ ไปตักน้าที่บ่อโซ่เหล็กดังนั้นวันนี้ก็คือวันที่ชาวบ้านของถนนฝูลู่ ตรอกเถาเย่และถนนแห่งอื่นของเมืองเล็กมารวมตัวกันมากที่สุดครั้ง หนึ่ง ฝ่ ายแรกส่วนใหญ่จะเป็ นเด็กหนุ่มร่ารวย เด็กสาวแต่งกาย หรูหราที่จับกลุ่มกันมา ฟ้ าเพิ่งจะเริ่มสว่างก็เดินถือโคมไฟออกมา จากบ้าน อีกมือหนึ่งหิ้วไหและกากระเบื้องลายครามงามประณีติ คน สองกลุ่มเดินมาเจอกันบนถนนของบ้านตัวเอง เด็กหนุ่มสองกลุ่มนั้น จะเดินเหมือนงูเลื้อย มาตักน้าที่นี่แล้วย้อนกลับไปทางเดิม เรียกว่า เป็ นการชักน าเงินมังกรเข้าประตู กวักเรียกความโชคดีกลับบ้าน
เช ้าตรู่ของวันนี้ ฟ้ าเพิ่งเริ่มสว่าง เฉินผิงอันก็พาเด็กชายชุดเขียว และเด็กหญิงชุดกระโปรงชมพู และยังมีหมี่ลี่น้อย ลงจากภูเขามา ด้วยกัน มาที่บ้านบรรพบุรุษในตรอกหนีผิง
แต่ละคนแบ่งงานกันทา เฉินผิงอันใช ้ท่อนไม้ไผ่เคาะไปตามชื่อ คานและเตียงนอนก่อนจะพาเฉินหลิงจวินออกไป ต่างคนต่างหิ้วถัง น้าคนละใบ ออกไปตักน้าที่บ่อโซ่เหล็ก ส่วนหน่วนซู่กับหมี่ลี่น้อยอยู่ ที่บ้านเริ่มก่อไฟต้มบะหมี่ย่างแผ่นแป้ ง
เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่นานที่ว่าการเจ้าเมืองฉู่โจวได้ออกคาสั่ง ที่ว่าการอาเภอไหวหวงจึงเอาประกาศไปแปะ อนุญาตให้ชาวบ้านใน พื้นที่มาตักน้าจากบ่อโซ่เหล็กที่ถูกปิดมานานกลับไปใช ้ที่บ้านได้ใน วันนี้
ช่วงนี้กวอจู๋จิ่วต้องนอนชดเชย ทุกวันนางจะนอนจนฟ้ ามืด เฉิน ผิงอันจึงไม่ได้เรียกนางไม่ใช่หลอมกระบี่ แล้วก็ไม่ได้ฝึกตน นางแค่ นอนหลับอย่างเดียวจริงๆ
เดินออกมาจากตรอกหนีผิง เฉินหลิงจวินแกว่งถังน้าในมือ ถาม เสียงเบาว่า “บ่อน้าคลายคาสั่งห้ามแล้ว เป็ นความต้องการของนาย ท่านใช่หรือไม่ เป็ นนายท่านที่ไปพูดคุยกับที่ว่าการอ าเภอ ทางราช ส านักก็เลยยอมอนุญาต?”
ราชสานักต้าหลีได้ตั้งกฎเอาไว้นานแล้ว อย่าว่าแต่ฉู่โจวเลย ต่อ ให้เป็ นตลอดทั้งแจกันสมบัติทวีปก็มีน้าหนักอย่างมาก เซียนซือบน
ภูเขาล้วนไม่มีใครกล้าละเมิดคาสั่ง ยิ่งไม่ต้อง พูดถึงเปลี่ยนแปลง กฎเกณฑ์
เฉินผิงอันส่ายหน้า “ข้าไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ เดิมทีคิดว่าวันนี้จะหา โอกาสไปพูดคุยกับทางราชสานักสักหน่ อย ปี หน้าค่อยเริ่ม ดาเนินการยกเลิกข้อห้าม เกินครึ่งนี่น่าจะเป็ นข้อเสนอแนะของจ้าว เหยาแล้วล่ะ หลายปี มานี้เขาพยายามที่จะฟื้นคืนขนบธรรมเนียม เก่าแก่ของแต่ละพื้นที่มาโดยตลอด หากสกุลซ่งต้าหลี่ไม่ได้มอบ แผ่นดินที่อยู่ทางใต้ของลาน้าใหญ่กลับคืนไป รองเจ้ากรมอาญา อย่างจ้าวเหยาก็ต้องยุ่งกว่าเดิมแล้ว แต่ทางฝ่ ายกรมครัวเรือนต้องด่า ว่าเขาเป็ นลูกล้างผลาญที่ดีแต่วางมาดเท่านั้น ส่วนทางฝั่งของที่ว่า การกรมพิธีการก็ต้องด่าว่าเขายืดมือออกมายาวเกินไป”
เฉินหลิงจวินพูดเหมือนคนแก่ว่า “นี่ไม่ใช่ทฤษฎีอย่างหนึ่งหรอก หรือ ขุนนางต้าหลีให้การสนับสนุนเรื่องคุณความชอบและลาภยศ ขนาดนั้น แต่ละคนเน้นในเรื่องการปฏิบัติจ้าวเหยาท าตัวเหลวไหล เช่นนี้ไม่เป็ นที่ชื่นชอบก็เป็ นเรื่องปกติมาก”
จาได้ว่าได้ยินคนจิ๋วควันธูปที่มาขานชื่อตามเวลาเล่าเรื่องหนึ่งให้ ฟัง หลายปีมานี้ทางที่ว่าการอาเภอ เขตและจังหวัดของต้าหลีต่างก็ เรียบเรียงอักขรานุกรมในท้องถิ่นกันขึ้นมาใหม่ และงานนี้ก็ถูกรวมให้ อยู่ในการประเมินท้องถิ่นของราชสานัก ว่ากันว่าก็เป็ นเพราะข้อเสนอ จากรองเจ้ากรมอาญาจ้าวเหยา ประเด็นส าคัญคือยังต้องรวบรวม ภาษาถิ่นและคาพังเพยของแต่ละสถานที่มาด้วย นี่ต้องได้รับความ
ร่วมมือจากผู้ฝึกลมปราณของแต่ละจังหวัด อักขรานุกรมของแต่ละ ท้องถิ่นล้วนแบ่งออกเป็ นสองส่วน ส่วนที่เก็บไว้ในเมืองหลวงมีแต่กลิ่น อายเซียน ดังนั้นในท้องถิ่นจึงมีแต่เสียงบ่นดังระงม ต่างก็รู ้สึกว่าการ กระทานี้สิ้นเปลืองกาลังคนและเงินทอง เป็ นการกระทาที่ปกปิดความ สงบสุขรุ่งเรือง
เฉินผิงอันส่ายหน้ายิ้มกล่าว “จะเห็นผลในระยะยาว เปลี่ยนจาก ทฤษฎีมาเป็ นปฏิบัติในเรื่องนี้มีความรู ้ที่ยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่ ก็เหมือนการ แลกเงินทองกับเงินเหรียญทองแดง มีทั้งราคาที่จะเพิ่มขึ้นมา แล้วก็มี ทั้งความเสียหาย หากว่าทั้งสองฝ่ ายไม่มีช่องทาง “ถ่ายเทที่ราบรื่นก็ จะกลายเป็ นปัญหาใหญ่ ราชวงศ์ต้าหลีก็จะเหมือนแคว้นแข็งแกร่งที่มี กองทัพม้าเหล็ก มีกองทัพที่ทรงพลังตามความหมายทั่วไป ยิ่งนานวัน ก็จะยิ่งเหมือนพวกเขา จากคนมีความสามารถโดดเด่นกลายมาเป็ น คนธรรมดาที่ไม่มีอะไรพิเศษ ไม่ใช่ต้าหลีที่พิเศษที่สุดไม่เหมือนใคร” ที่สุดของแจกันสมบัติทวีป หรือกระทั่งของทั่วทั้งใต้หล้าไพศาล หาก ว่าศิษย์พี่ชุยยังดารงตาแหน่ง สิ่งที่จ้าวเหยาทาในวันนี้อันที่จริงก็คือ สิ่งที่ราชครูของแคว้นหนึ่งจะท า”
เฉินหลิงจวินเอ่ยตามตรงว่า “นายท่าน ข้าไม่เข้าใจหรอก แต่เอา เป็ นว่ารู ้สึกว่ามีความรู ้อย่างมากก็แล้วกัน นี่แสดงให้เห็นว่าจ้าวเหยาก็ เป็ นคนที่พอจะมีความสามารถที่แท้จริงอยู่บ้าง?”
เฉินผิงอันยิ้มเอ่ย “มีความสามารถที่แท้จริง”
ไม่อย่างนั้นก็มิอาจกลายเป็ นลูกศิษย์ที่ไม่ได้รับการบันทึกชื่อ ของป๋ ายเหย่ ตอนเป็ นเด็กหนุ่มจ้าวเหยาออกจากบ้านเกิด ท่อง มหาสมุทรเดินทางไกล บังเอิญพลัดหลงไปยังเกาะแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ อย่างโดดเดี่ยวกลางมหาสมุทร ซึ่งก็คือสถานที่ฝึกตนของป๋ ายเหย่
ภายหลังป้ ายเหย่ที่เดินทางไปเยือนฝูเหยาทวีปเพียงลาพังได้แบ่ง กระบี่เซียน ไท่ป๋ าย ที่ปริแตกให้กับคนสี่คน จ้าวเหยาก็คือคนหนึ่งใน นั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!