กว่าจะรู้ว่ารัก นิยาย บท 10

เธอพูดภาษาซวาลาได้งั้นเหรอ?

ถ้าก่อนหน้านี้เธอยังไม่แน่ใจว่ารินลดาใช้หญิงสาวในคืนนั้นหรือเปล่า ตอนนี้เธอก็มั่นใจได้แล้ว!

"คุณเดือนคะ?” ลูกน้องไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงหยุดกะทันหันและเตือนว่า “การประชุมกำลังจะเริ่มแล้วนะคะ”

ดวงเดือนยื่นเอกสารให้ลูกน้องของเธอ “เธอเอาเอกสารไปส่งให้ท่านประธานก่อน อีกเดี๋ยวฉันจะตามไป”

“งั้นพรุ่งนี้คุณมาทำงานได้เลย” มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ภาษาซวาลา แม้ว่ารินลดาจะไม่มีประสบการณ์การทำงาน อะไรเลย แต่คุณสมบัติเพียงข้อเดียวก็พอแล้ว เธอรู้จักภาษาซวาลา

รินลดาลุกขึ้นจากเก้าอี้และโค้งไปข้างหน้าเล็กน้อย “ขอบคุณมากนะคะ”

เธอเดินออกจากห้องสัมภาษณ์อย่างมีความสุข ทันทีที่เธอออกไป ดวงเดือนก็เดินเข้าไปในห้องสัมภาษณ์นั้นทันที

“ผู้หญิงคนนั้นที่คุณเพิ่งสัมภาษณ์ไป มีคุณสมบัติไม่ตรงตามข้อกำหนดของบริษัท เราจึงไม่สามารถรับเธอเข้าทำงานได้”

“ถึงเธอจะไม่มีประสบการณ์การทำงาน แต่เธอก็รู้-”

“ไม่เข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม” ดวงเดือนตะคอก

เธอเป็นเลขาและแฟนสาวของท่านระธาน ในอนาคตเธออาจได้แต่งงานเข้าไปเป็นหนึ่งในคนของครอบครัว วิสุทธิภักดิ์ก็ได้ ใครล่ะจะกล้าขัดคำสั่งเธอ

แม้วจะรู้สึกเสียดาย แต่เขาก็ต้องเชื่อฟัง "ครับผม"

รินลดาออกจากอาคารด้วยความยินดี เธอรู้สึกว่าเธอเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์บ้างแล้ว

ชีวิตของเธอเริ่มมีความหวังแล้ว

เธอเรียกแท็กซี่ไปบ้านโชคอนันต์

ไม่นานนัก รถก็มาจอดที่หน้าบ้านหรือจะเรียกว่าคฤหาสน์โชคอนันต์ก็คงไม่ผิด เธอจ่ายเงินและลงจากรถแท็กซี่

เธอเดินเข้าไปในด้วยย่างก้าวที่เบาและมั่นคง

ในห้องนั่งเล่น มนฤดีสวมชุดนอนผ้าไหมและนั่งเล่นอยู่บนโซฟาอย่างสง่างาม

เมื่อเห็นรินลดาเธอเลิกคิ้วเรียวสวยของเธอขึ้นเล็กน้อย “โอ้ นี่ใช่ไหม รินลดา?”

รินลดาจ้องมองไปที่กำไลหยกที่มนฤดีสวมอยู่

เธอเคยเห็นมันในกล่องเครื่องประดับของแม่ตอนที่เธอยังเป็นเด็ก และแม่ของเธอบอกว่ามันเป็นของคุณยายของเธอ

แต่ตอนนี้มันตกไปอยู่บนข้อมือของมนฤดีแล้ว

รินลดาพยายามระงับอารมณ์โกรธ “ฉันมาหาคุณจตุเทพ”

มนฤดีกรีดนิ้วที่ทาสีเล็บไว้อย่างสวยงามและพูดต่อโดยไม่เงยหน้า “แต่งงานกับผู้ชายง่อยเปลี้ยเสียขา ชีวิตมันก็คงจะทุกข์ทรมานหน่อยล่ะจริงไหม?”

“อืม คุณไม่ต้องมาสนใจฉันหรอก” รินลดาพูดเบา ๆ และถามอีกครั้งว่า “คุณจตุเทพอยู่ไหม”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กว่าจะรู้ว่ารัก