“อยากให้ฉันตอบยังไงล่ะคะ” เธอไม่รู้ว่าจริง ๆ ว่าควรจะตอบกลับคำพูดของดวงเดือนยังไง
ฉันควรจะขอโทษเธอและบอกว่าฉันไม่น่าแต่งงานกับธีรสิทธิ์และพรากคุณทั้งสองออกจากกันเลยงั้นเหรอ?
มันก็ดูจะตอแหลเกินไปหน่อย!
ที่สำคัญ คนที่จัดการเรื่องการแต่งงานครั้งนี้ก็เป็นผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย แล้วฉันจะไปทำอะไรได้?
ธีรสิทธิ์จ้องเขม็งมาที่เธอ เขาเริ่มเดินด้วยย่างก้าวที่ไม่รีบร้อนหรือช้าเกินไป แล้วทันใดนั้นบรรยากาศในห้องก็เริ่มอึดอัด รินลดาอดไม่ได้ที่จะก้าวถอยหลังไป “ฉันไม่ได้ตั้งใจที่ยั่วโมโหคุณนะคะ”
ดวงเดือนรั้งแขนของธีรสิทธิ์ไว้ “ธีคะ อย่าอารมณ์เสียเลยนะ มันเป็นความผิดของฉันเอง ฉันไม่ควรพูดเรื่องนี้ เธอเพิ่งจะแต่งงานกับคุณ จริง ๆ แล้วฉันไม่ควรมาด้วยซ้ำ คุณไปพักผ่อนเถอะค่ะ ฉันจะกลับแล้ว”
“คุณไม่ใช่คนที่ควรออกไป!” ธีรสิทธิ์จับข้อมือของเธอและพาเธอขึ้นไปชั้นบน
ดวงเดือนดีใจมาก เพราะถึงแม้ว่าธีรสิทธิ์จะยืนยันหนักแน่นว่าเขาจะอยู่กับเธอ แต่เขาไม่เคยแสดงความต้องการเชิงชู้สาวกับเธอเลย
สิ่งที่เขาแสดงออกในคืนนี้ทำให้เธอดีใจแทบบ้า
เพราะเธอเท่านั้นที่รู้ว่าผู้หญิงคืนนั้นไม่ใช่เธอ เธอจะมัดใจเขาไว้ได้อยู่หมัดก็ต่อเมื่อพวกเขามีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นต่อกันแล้วเท่านั้น
รินลดาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง เธอเพียงแค่หันหลังกลับเข้าห้องของเธออย่างเงียบ ๆ
ดวงเดือนหันกลับไปมอง เธอเห็นเพียงด้านหลังของรินลดาตอนที่กำลังจะเดินเข้าห้องเท่านั้น รูปร่างของเธอดูอ่อนแอและเพรียวบาง และทันใดนั้นดวงเดือนก็นึกขึ้นได้ว่ารูปร่างแบบนี้คล้ายกับด้านหลังของหญิงสาวในคืนนั้นราวกับว่าเป็นคนเดียวกัน
คืนนั้นเธอต้องสะกดอารมณ์หึงหวงและความเกลียดชังในใจของเธออย่างหนัก เพื่อยอมให้สาวบริสุทธิ์หลับนอนกับธีรสิทธิ์ ซึ่งมันก็เป็นความอดทนที่ถึงขีดสุดแล้วจริง ๆ เธอไม่ต้องการเห็นผู้หญิงที่ร่วมรักกับธีรสิทธิ์อีกไม่ว่าวันนี้หรือวันไหน
คืนนั้น เธอทันได้เห็นด้านหลังที่ผอมบางของผู้หญิงคนนั้นเพียงแวบเดียวตอนที่เธอกำลังเดินออกจากห้องไป
มิน่าล่ะ เธอถึงได้รู้สึกคุ้นเหมือนเคยเห็นรินลดาที่ไหนมาก่อน
และตอนนี้มันก็ชัดเจนแล้วว่าเธอเคยเห็นผู้หญิงคนนี้มาก่อนจริง ๆ
ความคิดที่ว่ารินลดาอาจเป็นคนเดียวกันกับผู้หญิงในคืนนั้นทำให้ดวงเดือนเริ่มหวาดระแวง
เธอจะปล่อยให้รินลดาได้มีเวลาอยู่กับธีรสิทธิ์ไม่ได้แล้ว
เธอจะต้องเฝ้าธีรสิทธิ์ไว้ไม่ให้คลาดสายตา เธอจะให้ธีรสิทธิ์รู้ความจริงไม่ได้
เพราะนี่คือผู้หญิงที่เขาเคยมีความสัมพันธ์แนบแน่นด้วย
เมื่อพวกเขาเข้าไปในห้อง ดวงเดือนไม่รอช้า เธอกอดเอวที่กระชับแน่นของธีรสิทธิ์แล้วซุกหน้าไว้ในอ้อมแขนของเขา พร้อมเอ่ยปากชวนอย่างยั่วยวน “ธีคะ ให้ฉันได้เป็นผู้หญิงของคุณอีกครั้งนะคะ”
ขณะที่พูดเธอเขย่งปลายเท้าขึ้นจูบเขา ธีรสิทธิ์พยายามตั้งใจจดจ่ออยู่กับผู้หญิงตรงหน้า แต่ยังไงเขาก็ไม่รู้สึกถึงแรงดึงดูดจากท่าทางอันยั่วยวนของดวงเดือนเอาซะเลย
เขาไม่มีความต้องการในตัวเธอเลย ยกเว้นในคืนนั้น!
เมื่อริมฝีปากของดวงเดือนกำลังจะสัมผัสกับเขา เขาก็หันหน้าหนี ดวงเดือนจูบพลาด
“มันดึกแล้ว นอนเถอะ” ธีรสิทธิ์ขยับคอเสื้อของเขาทั้งที่จริง ๆ แล้วมันก็ไม่ได้แน่นอะไร เขารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย
เขาไม่รู้ว่าหงุดหงิดเรื่องอะไร แต่ตอนนี้เขาโกรธตัวเองที่ไม่มีอารมณ์ทางเพศแบบที่ผู้ชายธรรมดาควรมีต่อหญิงสาว มันทำให้เขารู้สึกผิดปกติ
ดวงเดือนกำมือแน่น ใบหน้าของเธอแสดงความรู้สึกขุ่นเคือง “ธีคะ คุณไม่ชอบฉันแล้วเหรอ-”
“อย่าคิดมากหน่า” เขาลดเสียงลงและโอบไหล่ของเธอ “คืนนี้นอนที่นี่แล้วกัน”
ดวงเดือนเป็นผู้หญิงและเธอรู้ดีว่าการที่ผู้ชายไม่สนใจในตัวเธอนั้นหมายความว่าอะไร
เธอนอนลงบนเตียงอย่างเชื่อฟัง ดวงตาของเธอเป็นสีแดง น้ำตาคลอเบ้า แต่ไม่มีน้ำตาหยดลงมาแม้แต่หยดเดียว
แววตาแห่งความเสียใจฉายชัด แม้จะพยายามสะกดกลั้นไว้แล้วก็ตาม
หัวใจของธีรสิทธิ์สั่นไหวเล็กน้อย คืนนั้นเธอก็คงสะกดกลั้นความเจ็บปวดไว้มากเช่นกัน ไม่ว่าเขาจะทำเธอเสียใจสักแค่ไหน แต่เธอก็ไม่เคยปริปาก
เขาอ่อนโยนกับเธอเมื่อคลุมผ้าห่มให้เธอแล้วนั่งลงที่ข้างเตียง “อย่าคิดมากนะ เมื่อเราแต่งงานกันแล้ว ผม... ผมจะต้องการคุณแน่นอน”
ดวงเดือนพยักหน้า เธอใกล้ชิดธีรสิทธิ์มานานพอจะเข้าใจอารมณ์ของเขาอยู่บ้าง แม้ว่าเขาจะไม่ได้รักเธอเลย แต่เขาก็พร้อมที่จะรับผิดชอบด้วยมีความสำนึกในความผิดชอบชั่วดี
ธีรสิทธิ์ถอดเสื้อแจ็คเก็ตและก้าวออกจากห้อง จากนั้นเขาก็ลงไปชั้นล่าง โยนแจ็คเก็ตลงบนโซฟาแล้วทรุดตัวลงบนโซฟา พาดขาเรียวยาวไว้บนโต๊ะกาแฟ หัวของเขาเอนหลังพิงโซฟา เขาดูเหนื่อยเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กว่าจะรู้ว่ารัก