“คุณแม่คะ! สวยจังเลย!”
ขณะที่กำลังนั่งอยู่ในกระเช้าชิงช้าสวรรค์ เนลลี่ก็คุกเข่าลงกับเบาะและมองดูทัศนียภาพโดยรอบของสวนสนุก เธอปรบมืออย่างตื่นตาตื่นใจ “หนูไม่รู้มาก่อนเลยว่าสวนสนุกจะใหญ่ได้ขนาดนี้!”
เด็กน้อยซึ่งเพิ่งเคยนั่งชิงช้าสวรรค์เป็นครั้งแรกกระโดดโลดเต้นไปรอบ ๆ อย่างมีความสุข “พอเราขึ้นไปเรื่อย ๆ คนอื่นที่อยู่ในสวนสนุกก็จะตัวจิ๋วกว่ามดซะอีก!”
ลูน่าที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ลูบผมลูกสาวเบา ๆ ในใจนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกซึ่งยากจะคาดเดา
ลูก ๆ ทั้งสามต้องมาตกระกำลำบากอย่างแสนสาหัสไปพร้อมกับเธอ โดยเฉพาะเนลลี่
เธอเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายและมีเหตุมีผล ถ้าไม่ได้เกิดมาในครอบครัวนี้เธอคงจะเป็นเจ้าหญิงน้อยที่ใคร ๆ ก็รักใคร่เอ็นดู
การมาเที่ยวสวนสนุกครั้งแรกของเธอจะไม่ควรเป็นตอนที่อายุปาเข้าไปหกขวบแล้ว
และไม่ควรต้องถูกปองร้ายจากคนอย่างออร่า
เมื่อลูน่านึกถึงเรื่องนั้น ความเศร้าก็เอ่อขึ้นมาจนปริ่มในลำคอ
เธอหายใจเข้าลึก ๆ ยกมือขึ้นโอบเนลลี่ไว้ในอ้อมแขนและซบหน้าลงกับลำคอของเด็กหญิง “แม่สัญญาว่าเรื่องนี้จบเมื่อไหร่ แม่จะพาลูกไปเที่ยวให้เยอะที่สุดเท่าที่ลูกอยากไปเลย ดีไหม?”
เนลลี่หันหน้ามาทางผู้เป็นแม่ขณะที่ดวงตาใสแจ๋วจ้องไปที่ลูน่าอย่างเอาจริงเอาจัง “อาการของไนเจลจะดีขึ้นด้วย ใช่ไหมคะ?”
ลูน่าพยักหน้าจริงจัง “ใช่จ้ะ”
“คุณแม่คะ...” เนลลี่เอื้อมมือน้อย ๆ มากอดลูน่าด้วยความตื่นเต้นดีใจ ขณะที่สองแม่ลูกกำลังกอดกันอยู่ กระเช้าที่ทั้งคู่กำลังนั่งก็ขึ้นสู่จุดสูงสุดพอดี
แกร่ก!
เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว กระเช้าชิงช้าสวรรค์เริ่มส่งเสียงร้องลั่นและแกว่งไปมา
“อ๊ะ!” เนลลี่จับราวพลาดและกลิ้งลงไปกองอยู่กับพื้น ร่างบอบบางของเธอไม่อาจทนต่อแรงสั่นสะเทือนระดับเลวร้ายนี้ได้
เมื่อเห็นลูกสาวตกอยู่ในสภาพนั้น ลูน่าหวาดกลัวจนใจของเธอแทบจะหลุดออกจากอก หญิงสาวเอื้อมมือออกไปตามสัญชาตญาณและกอดเนลลี่ไว้ในอ้อมแขน
“ไม่ต้องกลัวนะลูก!”
ถึงแม้จะจับราวด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี แต่ร่างของสองแม่ลูกก็ยังคงสะบัดไปมาเพราะกระเช้าชิงช้าที่เอนเอียง หลังจากนั้นเพียงครู่เดียว ชิงช้าสวรรค์ก็หยุดหมุน
ทว่า ตัวกระเช้าก็ยังคงเอียงอยู่ท่าเดิม
ขณะที่กระเช้าชิงช้าสวรรค์ทั้งคันเอียงอยู่บนแกน บานประตูซึ่งอยู่ใต้ร่างของพวกเธอก็แกว่งไปแกว่งมาราวกับจะหลุดออกตอนไหนก็ได้
หากประตูหลุดออกแล้วละก็ พอพวกเธอหมดแรงเมื่อไหร่ ลูน่าก็จะเสียการยึดเกาะและทั้งสองก็จะตกลงไปทันที
เนลลี่ตัวสั่นเทาอยู่ในอ้อมแขนของผู้เป็นแม่ด้วยความหวาดกลัว ขณะที่ดวงตาของลูน่าเยือกเย็น
นี่สินะ แผนของออร่า!
เธอคิดว่าอย่างมากที่สุด ออร่าก็แค่อยากทำร้ายเนลลี่เพื่อเป็นการสั่งสอนและแก้แค้นเธอเท่านั้น แต่เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าออร่าจะถึงขนาดลงมือฆ่าเธอกับเนลลี่!
หัวใจของลูน่าเต้นแรงเมื่อคิดเช่นนั้น
หญิงสาวขบฟันแน่น ดึงสายสะพายเป้ที่เหนียวที่สุดมาประกอบขึ้นเป็นเข็มขัดนิรภัย เธอผูกเนลลี่ไว้กับราวหน้าต่างและในเวลาเดียวกันก็ใช้เสื้อผ้าของตัวเองผูกเป็นเชือกมัดกับข้อมือเธอเอาไว้
“คุณแม่คะ...” เสียงของเนลลี่ฟังดูแตกสลายเหมือนใกล้จะร้องไห้อยู่รอมร่อ “เราจะไม่ตกลงไปใช่ไหมคะ? ทั้งหมดเป็นความผิดหนูเอง! หนูไม่น่าพาแม่มาขึ้นชิงช้าสวรรค์เลย… แม่คะ หนูกลัว…!”
“เราจะไม่เป็นอะไรนะลูก” ลูน่าตบหลังเนลลี่เบา ๆ อย่างอ่อนโยนและหยิบโทรศัพท์ของตนออกมาด้วยมืออันสั่นเทา
ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
เธอกำมือถือไว้แน่น ตรงปลายนิ้วกลายเป็นจ้ำเขียว ๆ เพราะเลือดไม่ไหลเวียน
อีกครั้งแล้วสินะที่หญิงสาวประมาทความอำมหิตของออร่ากับความเสน่หาที่โจชัวมีต่อน้องสาวของเธอ
ตู้ม!
“ไนเจลเหรอลูก?” ลูน่าเบิกตากว้าง
“ครับผมเอง ผมดัดแปลงสร้อยของเนลลี่ สัญญาณก็เลยแรงขึ้น เราสามคนจะได้คุยกันผ่านสร้อยคอของเนลลี่เวลามีเหตุฉุกเฉิน”
เสียงจากปลายสายของหนุ่มน้อยช่างแสนเด็ดเดี่ยว “ผมแฮกระบบเฝ้าระวังของสวนสนุกได้แล้ว ตอนนี้ผมเห็นแม่แล้วครับ”
ไกลออกไปที่อีกฟากของมหาสมุทร เด็กชายร่างผอมผิวซีดเซียวนั่งอยู่บนเตียงของโรงพยาบาลในขณะที่สายตาจดจ่ออยู่กับจอคอมพิวเตอร์ซึ่งถูกแบ่งออกเป็นหน้าต่างย่อย ๆ
“นีลกับผมยังติดต่อกันอยู่ เขาออกไปที่ห้องควบคุมทันทีที่เกิดเรื่อง ไม่น่าจะใช้เวลาถึงห้านาทีถ้าแม่ยังทรงตัวไว้ได้อดทนหน่อยนะครับ”
ลูน่ากัดริมฝีปาก รู้สึกซาบซึ้งใจ “เก่งมากลูกรัก”
ไนเจลเงียบไปครู่หนึ่ง
“คุณแม่ครับ คุณแม่กลับบ้านก็เพราะผม ผมเคยบอกตั้งนานแล้วว่าผมไม่สนใจหรอกว่าตัวเองจะอยู่ได้อีกไม่กี่ปี แต่คุณแม่ก็ยังยืนยันจะกลับไป… ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณแม่ละก็...”
ลูน่ารู้สึกเจ็บแปลบอยู่ในอกเมื่อฟังเสียงของลูกชาย “อย่าพูดอย่างนั้นสิลูก”
“ไนเจล...”
เนลลี่อ่อนแรงจากการร้องไห้ เธอห้อยต่องแต่งอยู่บนหน้าต่างด้วยสายรัดเป้แต่น้ำเสียงกลับฟังดูหนักแน่น “ทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเอง ไม่ใช่ความผิดของพี่หรอกนะ ไนเจล ฉันไม่เสียใจเลยที่ได้กลับมาช่วยพี่ แต่ฉันแค่เสียใจที่พาแม่มาที่นี่...”
“เอ่อ อย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้ได้ไหม?” เสียงเหนื่อยหอบของนีลดังขึ้นจากสร้อยคอ “ไนเจล ฉันอยู่ในห้องควบคุมหลักแล้วตอนนี้ แผงควบคุมระบบชิงช้าสวรรค์อยู่ฝั่งไหนล่ะ?”
พอได้ยินเสียงนีล ไนเจลจึงนึกขึ้นได้และชี้แนะอย่างสุขุม “ฝั่งซ้าย”
“ข้างในนั้น มีคนสองคนกำลังดูวิดีโอเสียงดังใหญ่เลย ส่วนประตูปิดอยู่ นายเข้าไปไม่ได้หรอก แต่ตรงหัวมุมบันได มียามสองคนกำลังคุยกัน”
“เข้าใจแล้ว!”
นีลสูดลมหายใจเข้ายาว เขาวางสร้อยคอลง หยิบตั๋วสีแดงจากกระเป๋าแล้วรีบวิ่งขึ้นบันได “สวัสดีครับ อยากเลื่อนตำแหน่งและได้เงินเยอะ ๆ กันหรือเปล่า?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ล่าหัวใจ คุณภรรยา(เก่า)ที่รัก
นักเขียนมาโป๊ะตรงที่ทำให้นางเอกและลูกๆเกิดโง่กระทันหัน นึกไม่ออกว่าเช็คดีเอ็นเอได้ ตอนที่มีคนมาสวมรอยเป็นแม่เด็กๆ อ...