ที่อาพาร์ตเมนต์ห้องเช่า
ลูน่านอนอยู่บนโซฟาด้วยรอยยิ้มเยือกเย็นขณะมองดูชายที่กำลังยุ่งอยู่ในห้องครัวผ่านหน้าจอโทรศัพท์
เมื่อตอนที่พวกเขายังอยู่ด้วยกัน เมื่อไหร่ก็ตามที่โจชัวบอกว่าหิว เธอจะลุกขึ้นไปทำอาหารให้เขาเสมอไม่ว่าจะกี่โมงกี่ยาม ไม่ว่าจะเป็นกลางดึกหรือตีสองก็ตาม
เขาไม่เคยทำอาหารมาก่อนเลย เขาไม่เคยคิดจะเดินเข้าห้องครัวด้วยซ้ำ แต่ในตอนนี้เขากลับกำลังตั้งใจทำอาหารอย่างจริงจัง ทั้งหมดเพียงเพื่อเนลลี่ที่เขาเพิ่งจะได้เจอเพียงแค่ครึ่งวัน
เธอหลังตาลง
ดูเหมือนว่าเขาจะทำอาหารเป็น แต่เป็นเพราะว่าเธอไม่ได้มีค่ามากพอสำหรับเขา เขาถึงไม่เคยทำมันให้เธอทานเลย
โชคดีที่ทัศนคติของเขาที่มีต่อเนลลี่นั้นค่อนข้างดี
อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้เลือดเย็นและโหดเหี้ยมเหมือนที่เขาเคยทำกับเธอในตอนนั้น
…
ณ บลูเบย์วิลล่า
ในขณะที่เด็กหญิงนั่งอยู่บนเก้าอี้เด็ก เนลลี่ก็มองไปยังอาหารหน้าตาดูแย่ที่อยู่ตรงหน้าเธอ เธอเขยิบชามคุกกี้ที่ลูน่าทำไว้ให้มาตรงหน้าอย่างเงียบ ๆ “หนูไม่ค่อยหิวแล้วค่ะ คุณพ่อ หนูจะทานแค่นี้พอ”
โจชัวขมวดคิ้วในขณะที่เขามองดูคุกกี้ที่มีขนาดใหญ่กว่าเมล็ดถั่วเล็กน้อยเหล่านั้น “แค่นั้นมันจะพอเหรอ?”
เนลลี่เม้มปากด้วยความกังวลว่าเขาจะบังคับให้เธอทานอาหารที่น่าสยดสยองพวกนั้น เธอจึงรีบปิดจานของเธอเอาไว้ “หนูเป็นแค่เด็กตัวเล็ก ๆ หนูไม่ได้กินเยอะขนาดนั้น เพราะฉะนั้นแค่นี้ก็พอแล้วค่ะ!”
จากนั้นเธอก็เหลือบมองอาหารสีคล้ำในจานโดยไม่ได้ตั้งใจขณะเดียวกันความกลัวก็แวบผ่านแววตาของเธอ
โจชัวอ่านทุกการเคลื่อนไหวและการแสดงออกที่ละเอียดอ่อนของเธอออก ไม่นานร่องรอยของความฉุนเฉียวก็เกิดขึ้นระหว่างคิ้วของชายผู้นั้น
เพียงไม่กี่นาที่หลังจากนั้น เด็กหญิงตัวน้อยก็ได้จัดการคุกกี้จนเกลี้ยงชาม
เธอวางจานลงก่อนที่จะยิ้มและเงยหน้าขึ้นมองชายรูปร่างสูง “คุณพ่อคะ หนูจะขึ้นไปนอนข้างบนค่ะ!”
โจชัวลุกขึ้นยืนและอุ้มเธอขึ้นไปที่ชั้นบน
“หนูอยากฟังนิทานเรื่องนางเงือกน้อยค่ะ” ในขณะที่เธอนอนอยู่บนเตียงสีชมพูเล็ก ๆ ดวงตาที่กลมโตของเนลลี่ก็กะพริบให้ชายที่นอนอยู่ข้างเธอ “คุณพ่อเล่านิทานเก่งไหมคะ?”
โจชัวพลิกผ่านหนังสือนิทาน “ก็อาจจะ”
หลังจากนั้นไม่นาน ชายผู้นั้นก็ขมวดคิ้วและเริ่มเล่า “กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในทะเลน้ำลึก มีกลุ่มของนางเงือกแสนสวยอาศัยอยู่…”
“คุณพ่อ” เด็กหญิงตัวน้อยเงยหน้าขึ้นมองเขา “เสียงของคุณพ่อดุมากเลยค่ะ!”
โจชัวตกใจเล็กน้อย
เขาพยายามทำให้น้ำเสียงที่เย็นชาและทุ้มของเขาอ่อนลง ดังนั้นเขาจึงลองใหม่อีกครั้ง “อยู่มาวันหนึ่ง นางเงือกน้อย…”
“คุณพ่อเล่านิทานไม่เป็นใช่ไหมคะ?”
เด็กหญิงตัวน้อยเม้มริมฝีปากและเริ่มพึมพำอย่างไม่พอใจ “คุณพ่อของเนลลี่ยิ่งใหญ่มาก แต่เขาเล่านิทานไม่เป็น…”
โจชัวนิ่งเงียบ เขาสูดลมหายใจเข้ายาว “ไม่ต้องฟังนิทานหรอกลูก นอนเถอะ ตกลงไหม?”
“ไม่ตกลงค่ะ…”
น้ำตาเริ่มไหลรินอาบแก้มของเจ้าหญิงน้อย “ถ้าหนูไม่ได้ฟังนิทาน หนูจะฝันร้าย…”
หัวใจของโจชัวละลายเป็นแอ่งน้ำในขณะที่เขาจ้องมองใบหน้าที่มีน้ำตาคลอเบ้าของเด็กหญิงตัวน้อย
เขาลูบผมเด็กหญิงด้วยความรัก “พ่อจำได้ว่าแม่ของลูกไม่ได้ชอบร้องไห้ซะหน่อย บ่อน้ำตาตื้นแบบนี้ลูกไปได้มาจากใครนะ?”
เนลลี่ทำหน้ามุ่ย “คุณแม่ก็ชอบร้องไห้เหมือนกัน ตอนที่หนูยังเด็กกว่านี้ เวลาที่หนูตื่นขึ้นมากลางดึก หนูจะเห็นคุณแม่แอบเช็ดน้ำตาอยู่เสมอ”
คำพูดเหล่านั้นของเด็กหญิงทำให้เขาจุกราวกับว่าเขาโดนทุบเข้าที่หน้าอก
เขาจ้องมองเธออย่างเหม่อลอยและถามด้วยน้ำเสียงที่แหบเล็กน้อย “คุณแม่ของลูก… เธอร้องไห้บ่อยมากหรือเปล่า?”
“บ่อยค่ะ”
เนลลี่เม้มริมฝีปาก “แต่ในเมื่อคุณพ่อบอกว่าคุณแม่ไม่ชอบร้องไห้ บางที่คุณพ่ออาจจะพูดถูก เพราะบางทีการที่หนูบ่อน้ำตาตื้นหนูอาจจะได้มันมาจากคุณพ่อก็ได้นะคะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ล่าหัวใจ คุณภรรยา(เก่า)ที่รัก
นักเขียนมาโป๊ะตรงที่ทำให้นางเอกและลูกๆเกิดโง่กระทันหัน นึกไม่ออกว่าเช็คดีเอ็นเอได้ ตอนที่มีคนมาสวมรอยเป็นแม่เด็กๆ อ...