"ร้อง! เจ้าทำได้แค่ร้องไห้! คนใบ้ควรจะทำตัวให้เหมือนคนใบ้..."
"เนื้อตัวเจ้ามีตรงไหนบ้างที่เหมือนพี่สาวของเจ้า แค่จะถือรองเท้าของนาง เจ้ายังไม่คู่ควรด้วยซ้ำ!"
"กู้ชิวเหลิ่ง เจ้าเกิดมาเป็นใบ้ตั้งแต่กำเนิดรึ"
"....."
มู่หรงชิวรู้สึกว่าร่างกายของนางเย็นเยียบราวกับถูกแช่อยู่ในสระน้ำอันเย็นเยือก กระดูกตามร่างกายส่งเสียงกรอบแกรบและรู้สึกเจ็บปวดจนเหลือทน
เสียงก่นด่าของผู้ชายยังดังขึ้นมาไม่หยุด นางฝืนทนและลืมตาขึ้นมาเล็กน้อยอย่างยากลำบาก สิ่งที่เห็นมีเพียงภาพอันเลือนรางของชายผู้หนึ่งที่ดูเหมือนจะสะบัดแขนเสื้อเดินจากไป
นางตายแล้วหรือ หรือว่ายังมีชีวิตอยู่? กู้ชิวเหลิ่งคือใคร
สติของนางเริ่มเลือนรางขึ้นทุกที มีใบหน้าของเด็กสาวผู้หนึ่งปรากฏขึ้นมาในความคิดของมู่หรงชิว ความทรงจำที่กระจัดกระจายเป็นเหมือนกระบองหนักๆ ที่ปลุกให้นางตื่นขึ้นมา
มู่หรงชิวนอนเอนกายบนตั่งนุ่มตรงส่วนโค้งของระเบียงทางเดิน นางลืมตาขึ้นมาอย่างฉับพลันจนรู้สึกแสบตาเพราะแสงสว่าง
เกิดความเจ็บปวดไปทั่วร่างกายราวกับว่าร่างกายของนางถูกคมมีดเชือดเฉือน คอยย้ำเตือนทุกขณะว่านางยังมีชีวิตอยู่
นับตั้งแต่วินาทีที่นางลืมตาตื่น นางคิดถึงความเป็นไปได้นับไม่ถ้วน สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดตอนนี้ก็คือนางยังมีชีวิต หรือไม่ก็ยังมีชีวิตอยู่ในร่างของคนอื่น
บางทีตอนยังมีชีวิต นางคงจะฆ่าคนมากเกินไป มือของนางเต็มไปด้วยเลือด แม้แต่พญายมก็ยังไม่กล้ารับนางไว้และอนุญาตให้นางมีชีวิตต่อ
แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน การเปลี่ยนตัวตนใหม่คงมีประโยชน์มากกว่าที่นางจะเข้าหาจวินฉีเซิ่ง
ตั้งแต่นี้ต่อไปนางคือกู้ชิวเหลิ่ง
จูเอ๋อร์ยกอ่างน้ำเข้ามาอย่างระมัดระวัง ตั้งแต่คุณหนูของนางฟื้นขึ้นมาเมื่อวาน นางก็ไม่พูดอะไรสักคำ หนำซ้ำยังไม่ยอมหลับตาลงเลย นางแค่เดินเท้าเปล่าอยู่ในลานบ้านอยู่เป็นนาน เอาแต่อ่านหนังสือโดยไม่พูดอะไร
จูเอ๋อร์นำผ้ามาชุบน้ำจนเปียกและเอื้อมมือไปเพื่อจะสัมผัสเท้าของกู้ชิวเหลิ่ง แต่กู้ชิวเหลิ่งกลับชักเท้ากลับอย่างระวังตัวและมองจูเอ๋อร์อย่างเย็นชา
จูเอ๋อร์เอ่ยอย่างขลาดกลัวว่า "คุณหนู เท้าของท่านสกปรก บ่าวจะทำความสะอาดให้เจ้าค่ะ"
น้ำเสียงของกู้ชิวเหลิ่งน่าฟังจนเกินจะเอื้อนเอ่ยและเย็นเยียบราวกับไข่มุกหยก "จูเอ๋อร์?"
จูเอ๋อร์พยักหน้าอย่างระมัดระวัง นางไม่เคยได้ยินคุณหนูของนางพูดมาก่อนและไม่คิดว่าเสียงของนางจะไพเราะขนาดนี้ ใบหน้าที่ไร้การแต่งแต้มยิ่งดูงดงามขึ้นกว่าเดิม
กู้ชิวเหลิ่งวางเท้าของตนลงในอ่างน้ำ นางวางม้วนหนังสือในมือลงและเอ่ยว่า "ขอถามเจ้าหน่อย ปีนี้ข้าอายุเท่าไรแล้ว"
"สิบ... สิบสี่เจ้าค่ะ"
กู้ชิวเหลิ่งบีบคางของจูเอ๋อร์เบาๆ และถามว่า "เจ้ากลัวข้าหรือ"
จูเอ๋อร์ไม่ได้กลัว ก่อนหน้านี้คุณหนูไม่เคยพูดเลยสักคำ นางเป็นคนขี้ขลาดและไม่เคยมีสายตาที่เย็นชาขนาดนี้
"เจ้าจำได้หรือไม่ว่าข้าได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร"
จูเอ๋อร์ตัวสั่น ไม่กล้าสบตากู้ชิวเหลิ่ง "ปะ... เป็นท่านอ๋องหกเจ้าค่ะ! ท่านอ๋องหกถีบคุณหนูตกลงไปในสระบัว..."
กู้ชิวเหลิ่งเลิกคิ้ว "ไม่มีใครห้าม?"
"บ่าวมิได้ตั้งใจเจ้าค่ะ!"
กู้ชิวเหลิ่งเหลือบมองอย่างเย็นชา ทันใดนั้นนางจึงยิ้ม ยันกายขึ้นมาครึ่งหนึ่งและลุกขึ้นมาจากตั่งนุ่ม นางนอนอาบแดดอยู่ครึ่งวันจนร่างกายอุ่นขึ้นแล้ว ต่อให้เดินเท้าเปล่าไปตามระเบียงทางเดินก็ไม่รู้สึกเย็นเลยสักนิด
ปี้เถาไม่ทันสังเกตว่ามีคนอยู่ข้างหลังนาง นางคิดจะลงมือกับเด็กสาวที่คุกเข่าอยู่บนพื้น แต่มือของนางกลับค้างเติ่งอยู่กลางอากาศ ทำอย่างไรก็ตบลงไปไม่ได้
ปี้เถาหันกลับไปมองและพบกับสายตาที่เย็นชาคู่หนึ่ง ภายในใจเกิดความรู้สึกหนาวเหน็บขึ้นมาอย่างฉับพลัน แต่เมื่อเห็นรอยช้ำที่มุมปากของกู้ชิวเหลิ่ง นางจึงนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานขึ้นมาได้ เดิมทีนางไม่เคยเห็นคุณหนูผู้นี้อยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ นางยื่นมือออกไปหวังจะตบ แต่กู้ชิวเหลิ่งแข็งแรงมากพอจนปี้เถาดึงมือให้หลุดไม่ได้ นางเอ่ยอย่างโมโหว่า "คุณหนู! คุณ... กู้ชิวเหลิ่ง! เจ้าคนใบ้! ปล่อยมือข้านะ!"
เสียงตบดังกังวานชัดเจน ฝ่ามือตกลงไปที่แก้มของปี้เถาอย่างแม่นยำ
น้ำเสียงของกู้ชิวเหลิ่งไพเราะน่าฟังราวกับไข่มุกที่เย็นสบาย แต่คนฟังกลับรู้สึกถึงความหนาวเหน็บ "ดีนะที่เจ้ายังจำได้ว่าข้าคือคุณหนู จำได้ว่าสกุลของข้าคืออะไร จำได้ว่าข้าเป็นใคร แต่ข้าไม่รู้ว่าเจ้าของเรือนจั๋วยู่เปลี่ยนไปเป็นปี้เถาตั้งแต่เมื่อไร ต่อหน้าข้ายังกล้ายื่นมือออกไปสั่งสอนสาวใช้ ช่างกล้าหาญยิ่งนัก"
ปี้เถาจ้องมองกู้ชิวเหลิ่งอย่างไม่เชื่อสายตา นางเอ่ยอย่างโหดเหี้ยมว่า "เจ้า? เจ้ากล้าตบข้ารึ! เจ้ามันก็แค่ลูกของอนุที่ไม่มีใครต้องการ! ยังเทียบกับบ่าวอย่างข้าไม่ได้ด้วยซ้ำ!"
สายตาของกู้ชิวเหลิ่งเปลี่ยนไปเป็นเย็นชาอย่างฉับพลัน นางหยิบถาดน้ำล้างเท้าในมือจูเอ๋อร์ขึ้นมาและสาดลงบนใบหน้าของปี้เถาอย่างง่ายดาย
ก่อนที่ปี้เถาจะทันตอบโต้ กู้ชิวเหลิ่งก็ถีบนางลงไปในสระบัวแล้ว
จูเอ๋อร์คุกเข่าอยู่แทบเท้าของกู้ชิวเหลิ่งและเอ่ยอย่างกังวลว่า "คุณหนูรีบช่วยพี่ปี้เถาขึ้นมาเถิดเจ้าค่ะ! อีกเดี๋ยวแม่นมฉีก็จะกลับมาแล้ว! ถึงตอนนั้นคุณหนูจะถูกลงโทษนะเจ้าคะ!"
แววตาของกู้ชิวเหลิ่งเยือกเย็น นางมองปี้เถาที่กระเสือกกระสนอย่างไร้ความช่วยเหลือในสระน้ำ ไม่ได้สนใจคำพูดของจูเอ๋อร์เลยแม้แต่น้อย นางเอ่ยเรียบๆ ว่า "ตายไปก็สงบดี ไม่ต้องสนใจนาง"
"ดี! ตายไปสักคนก็สงบดี!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลำนำยอดหญิงจอมพิษ
เสียดายได้อ่านแค่ 102 ตอน ขอแอดมินมาช่วยอัพเดทตอนเพิ่มได้ไหมคะ...