กู้ชิวเหลิ่งเอ่ยเรื่องความฉลาดและเด็ดขาดของกู้หนานเฉิง ยังแอบบอกกู้หนานเฉิงเป็นนัยๆว่า กู้ชิวเซียงจะใช้การตายเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนางกับฮูหยินใหญ่ว่าถูกใส่ร้าย
เมื่อกู้หนานเฉิงได้ยินคำนี้ ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย แล้วก็ตบเข้าที่ใบหน้าด้านซ้ายของกู้ชิวเซียง แก้มทางสองข้างของกู้ชิวเซียงมีแต่รอยแดง บวมแดงมาก หน้าซีดเผือดเหมือนกับฮูหยินใหญ่น่าเวทนาเกินกว่าที่จะทนดูได้
กู้ชิวเหลิ่งจ้องมองเงียบๆอยู่ด้านข้าง ความโกรธของกู้หนานเฉิงมันมากเกินกว่าที่กู้ชิวเหลิ่งคิดเอาไว้ คาดว่าคงเป็นเพราะอี๋เหนียงสามผู้นี้เป็นหญิงงามที่ไม่เหมือนกับคนทั่วไป ไม่เช่นนั้นจะได้รับความคิดถึงที่มากมายขนาดนี้ของกู้หนานเฉิงทั้งที่นางได้ตายไปแล้วได้อย่างไร?
เพื่ออี๋เหนียงสามแล้วกู้หนานเฉิงไม่ลังเลที่จะปฏิบัติรุนแรงต่อภรรยาและบุตรสาวของเขา ในสายตาของกู้ชิวเหลิ่งมีรอยยิ้มจางๆ เป็นเช่นนี้ก็ดี มันจะยิ่งมีประโยชน์กับนางในอนาคต
แต่ความสงสัยลึกๆก็ได้ประทับอยู่หัวสมองของกู้ชิวเหลิ่งอีกครั้ง ในเมื่ออี๋เหนียงสามได้รับความรักจากกู้หนานเฉิงมากขนาดนี้ เช่นนั้นแม้ว่าร่างๆนี้จะเป็นเพียงบุตรีของอนุ ก็ควรจะได้รับความรักจากกู้หนานเฉิง แต่ความเป็นจริงกู้หนานเฉิงกลับปล่อยปละละเลยไม่สนใจกู้ชิวเหลิ่งเป็นเวลานานถึงสิบปี สิ่งนี้ทำให้คนคิดไม่ออกจริงๆ
และในตอนที่กู้ชิวเหลิ่งกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น กู้หนานเฉิงก็ได้โกรธขึ้นมาอย่างฮึดฮัดแล้วกล่าวขึ้นว่า:"เด็กๆ! พาตัวฮูหยินใหญ่กลับเรือน! หากไม่มีคำอนุญาตของข้า ห้ามออกจากห้องแม้แต่ก้าวเดียว!"
ร่างกายของฮูหยินใหญ่อ่อนแรงจนนั่งอยู่กับพื้น เป็นสามีภรรยาร่วมกันมาสิบกว่าปี ความสัมพันธ์ปรองดองกันมาตลอด แม้ว่าจะมีบางครั้งที่ทำให้กู้หนานเฉิงไม่พอใจ แต่เนื่องด้วยเรื่องของตระกูลฉินกับกู้ชิวถาง กู้หนานเฉิงจึงไม่เคยลงโทษนาง การกักบริเวณก็ยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อน
เรื่องของอี๋เหนียงสามในครั้งนี้ เป็นการสัมผัสเข้าที่จุดอ่อนของกู้หนานเฉิง ไม่มีใครสามารถช่วยนางได้
กู้ชิวเซียงกุมหน้าครึ่งหนึ่งเอาไว้ ร้องไห้และกล่าวว่า:"ท่านพ่อ! ท่านจะกักบริเวณท่านแม่ไม่ได้! ท่านไม่ไว้หน้าท่านแม่ต่อหน้าคนรับใช้เลยแม้แต่น้อย เช่นนี้แล้วต่อไปจะให้ท่านแม่จัดการดูแลเรื่องในจวนอีกได้อย่างไร? นางเป็นฮูหยินใหญ่ของจวนโหวนะเจ้าคะ!"
กู้หนานเฉิงมองดูกู้ชิวเซียงด้วยสายตาเย็นชา กล่าวด้วยเสียงนิ่งๆว่า:"ข้ายังไม่ได้จัดการกับเจ้า! ข้าไม่สนใจว่าเมื่อก่อนเจ้าจะคิดอย่างไร บุตรสาวของข้ากู้หนานเฉิงจะต้องไม่ใช่หญิงสาวที่ไปยั่วยวนคู่หมั้นของน้องสาวตัวเอง! เจ้าจะให้ข้าเอาหน้าใบนี้ไปมุดไว้ที่ใด! ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หากไม่มีคำอนุญาตของข้า เจ้าห้ามเข้าใกล้ท่านอ๋องหกอีก! ได้ยินหรือไม่?"
กู้ชิวเหลิ่งที่อยู่ข้างๆกล่าวขึ้นมาว่า:"ท่านพ่อเองก็อย่าได้โกรธมากเกินไป พี่ใหญ่กับท่านอ๋องหกทั้งสองคนมีใจให้กัน ก่อนนี้เป็นข้าที่คิดเข้าข้างตัวเอง ตอนนี้เรื่องงานแต่งของข้ากับท่านอ๋องหกก็ได้ถูกถอนไปแล้ว ข้าหวังว่าท่านพ่อจะทำให้พี่ใหญ่กับท่านอ๋องหกได้สมปรารถนา......หากต่อไปท่านพ่อไม่อนุญาตให้พี่ใหญ่กับท่านอ๋องหกได้พบหน้ากัน ข้ากลัวจริงๆว่าท่านอ๋องหกเขาจะ......"
กู้ชิวเหลิ่งไม่ได้พูดต่อ ก่อนหน้านี้เรื่องที่อวี่เหวินหวายพุ่งเข้ามาในจวนโหวเพื่อทุบตีนางได้ก่อให้เกิดความโกลาหลมาแล้ว ผู้คนข้างนอกต่างก็รู้กันหมดแล้วว่าอวี่เหวินหวายลงมือกับนางเพราะปกป้องกู้ชิวเซียง ข่าวลือดังกล่าวมีมากจนนับไม่ถ้วน ไม่ว่ารูปแบบใดก็มี กู้หนานเฉิงเองก็ได้ยินมาบ้างแล้ว
ตอนนี้กู้ชิวเหลิ่งเตือนเขาอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้สีหน้าของกู้หนานเฉิงค่อยๆเย็นลง กล่าวกับกู้ชิวเซียงอย่างเย็นชาว่า:"บุตรสาวของกู้หนานเฉิงแม้จะเกิดจากสนม แต่ก็ไม่สามารถถูกผู้อื่นรังแกได้! ส่วนเซียงเอ๋อร์ ข้าไม่สนใจว่าแม่ของเจ้าจะพูดกับเจ้าอย่างไร แต่บุตรสาวของข้ากู้หนานเฉิง ห้ามทำเรื่องที่จะให้ตระกูลอับอายขายหน้าเด็ดขาด! ในช่วงระยะเวลาก่อนจะถึงงานเลี้ยงแห่งแคว้นนี้เจ้าก็อยู่แต่ในเรือนของเจ้าซะ ไม่ว่าใครก็ห้ามมาเยี่ยม หากเจ้ายังมีความคิดที่ไม่ถูกต้องกับท่านอ๋องหกอีก ก็อย่าโทษข้าจัดงานแต่งงานให้เร็วๆ!"
สีหน้าของกู้ชิวเซียงซีดเซียว คุกเข่าลงไปบนพื้น
"นำของดูต่างหน้าทั้งหมดของอี๋เหนียงสามเก็บเอาไว้ให้ดี ย้ายไปไว้ที่เรือนของคุณหนูรอง ห้ามมีข้อบกพร่องใดๆทั้งสิ้น!"
กู้หนานเฉิงเดินอ้อมกู้ชิวเซียงสะบัดแขนเสื้อแล้วจากไป ไม่มีท่าทางจะไว้หน้าเลยแม้แต่น้อย
กู้ชิวเหลิ่งยืนอยู่ข้างกายกู้ชิวเซียง กล่าวเสียงเบาว่า:"ใบหน้านี้ของพี่ใหญ่ทิ้งรอยแดงไว้ขนาดนี้ ไม่รู้ว่าจะหายทันก่อนงานเลี้ยงหรือไม่? ข้าเองก็คิดไม่ถึงว่าท่านพ่อจะลงมือหนักขนาดนี้ ช่างน่าเสียดายจริงๆ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลำนำยอดหญิงจอมพิษ
เสียดายได้อ่านแค่ 102 ตอน ขอแอดมินมาช่วยอัพเดทตอนเพิ่มได้ไหมคะ...