กู้ชิวเหลิ่งหายใจเข้าลึกๆ ราวกับรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดของการที่ไม่สามารถหายใจได้ก่อนตาย มู่หรงอี๋ นางถึงจะเป็นหญิงงามใจงูพิษที่แท้จริง
น่าเสียดายที่มู่หรงอี๋ไม่ได้มางานเลี้ยงแห่งแคว้นในครั้งนี้ นางอยากจะเห็นจริงๆ ว่าผ่านไปสามปี นางที่อยู่เคียงข้างจวินฉีเซิ่งท้ายที่สุดแล้วจะมีตำแหน่งอะไร
ด้วยฝีมือของมู่หรงอี๋แล้ว จวินฉีเซิ่งน่าจะถูกหลอกอยู่ในกำมืออย่างแนบแน่นมั๊ง
มือของกู้ชิวเหลิ่งกำหมัดไว้แน่น ช่วงนี้ฮูหยินใหญ่กับกู้ชิวเซียงถูกกักบริเวณ ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับนาง
"ไปเตรียมชุด วันพรุ่งนี้จะออกไปข้างนอกเสียหน่อย"
"ออก......ออกไปข้างนอก?"
ใบหน้าของจูเอ๋อร์เต็มไปด้วยความประหลาดใจ สิบปีมานี้กู้ชิวเหลิ่งออกไปข้างนอกน้อยมาก ตั้งแต่ที่ถูกท่านอ๋องหกรังเกียจ กู้ชิวเหลิ่งก็ปรากฏตัวในวงสังคมน้อยมาก
"วางใจเถอะ ในจวนแห่งนี้ คงไม่มีใครมาห้ามพวกเราชั่วขณะ"
พระอาทิตย์อยู่เหนือศีรษะ เหมือนกับลูกไฟ แดดจ้าจนทำให้คนไม่กล้ามองโดยตรง
วันรุ่งขึ้นจูเอ๋อร์เตรียมชุดที่ไม่ค่อยโดดเด่นไว้ชุดหนึ่ง ดูเหมือนกับหญิงสาวชาวบ้านธรรมดาทั่วไป
ณ เวลานี้กู้หนานเฉิงกำลังว่าราชกิจอยู่ในท้องพระโรง ประตูด้านหลังไม่มีคนเฝ้า เป็นเวลาดีที่จะออกไปข้างนอก
ตลาดข้างนอกคึกคักเช่นเดิม จูเอ๋อร์กล่าว:"หากคุณหนูอยากซื้อเสื้อผ้า ก็ไปที่หอจูชุ่ย ของที่นั่นคุณหนูตระกูลร่ำรวยต่างก็ชอบ"
พูดแล้ว จูเอ๋อร์ก็ชี้ไปที่ร้านค้าร้านหนึ่ง กล่าวว่า:"ที่นี่แหละเจ้าค่ะ เพียงแต่ของข้างในนั้นแพงเกินไป เมื่อก่อนฮูหยินใหญ่ส่งชุดมาสองชุดไม่ใช่หรือเจ้าคะ? บ่าวเห็นว่าดูดี เหตุใดจึงลำบากมาซื้ออีก"
กู้ชิวเหลิ่งกล่าว:"รู้จักฝู้จื่อโม่หรือไม่?"
จูเอ๋อร์พยักหน้ารัวๆ:"รู้สิเจ้าคะ! ฝู้จื่อโม่ก็คือเพื่อน...รักของเซ่อเจิ้งหวาง!"
บอกว่าเป็นเพื่อนรัก แต่แท้จริงแล้วทุกคนในเมืองหลวงต่างก็เดากันว่าฝู้จื่อโม่กับอวี้ฉือจ้านมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา แน่นอนว่ากู้ชิวเหลิ่งไม่คิดเช่นนั้น แต่อย่างน้อยฝู้จื่อโม่ก็เป็นผู้ที่ได้ใจของอวี้ฉือจ้านมากที่สุด ในฐานะของหนึ่งในสามตระกูลใหญ่อย่างตระกูลฝู้ ในฐานะที่เป็นซื่อจื่อ ฝู้จื่อโม่เติบโตมาพร้อมกับอวี้ฉือจ้านมาตั้งแต่เด็ก เคยขึ้นสนามรบด้วยกัน และด้วยตัวตนในปัจจุบันของนางหากอยากจะเข้าใกล้อวี้ฉือจ้านมันเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ฝู้จื่อโม่กลับไม่เหมือนกัน
ในความทรงจำของกู้ชิวเหลิ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าฝู้จื่อโม่ชอบระบำรำฟ้อน เที่ยวหอกินเหล้า นอกจากอวี้ฉือจ้านที่เป็นเพื่อนสนิทแล้ว ที่เหลือต่างก็เป็นสาวงามที่รู้ใจ หากอยากจะเข้าใกล้ชายเช่นนี้ กู้ชิวเหลิ่งมีความมั่นใจที่จะทำสำเร็จอยู่
การค้าขายของหอจูชุ่ยเหมือนกับที่จูเอ๋อร์กล่าวไม่มีผิดเพี้ยน เมื่อครู่นี้เพิ่งจะเดินเข้ามา กู้ชิวเหลิ่งก็ได้กลิ่นหอมแบบสดชื่นอ่อนหวาน จากนั้นก็เป็นเครื่องแต่งแป้งชาด ปิ่นปักผมหินโมรา
ชาติที่แล้วกู้ชิวเหลิ่งเอาแต่ฝึกศิลปะการต่อสู้มาตลอด ไม่เคยชอบเครื่องแต่งแต้มเหล่านี้ แม้จะแต่งงานกับจวินฉีเซิ่งแล้ว ก็ไม่เคยแต่งหน้าเลยสักครั้ง ปิ่นปักผมหรือปิ่นระย้าเมื่ออยู่บนหัวของนางก็ยิ่งดูเป็นภาระ
กู้ชิวเหลิ่งไม่เหลือบมองสิ่งของที่อยู่ในตู้เลยแม้แต่น้อย นางเดินข้ามไป ไปดูผ้าไหมผ้าพับ
ผู้จัดการร้านมองไปที่กู้ชิวเหลิ่งด้วยท่าทางมึนงงเล็กน้อย หญิงสาวคนอื่นๆเดินเข้ามาสิ่งแรกที่มองเลยก็คือเครื่องแต่งแต้ม แต่กู้ชิวเหลิ่งดันเดินอ้อมไปโดยตรง เป็นสถานการณ์ที่มีน้อยมากจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลำนำยอดหญิงจอมพิษ
เสียดายได้อ่านแค่ 102 ตอน ขอแอดมินมาช่วยอัพเดทตอนเพิ่มได้ไหมคะ...