วันนี้อากาศดีมาก ตอนกลางวันบนเรือมีเสียงขลุ่ย เสียงกลองและเสียงหัวเราะล่องลอยออกมา
หากเป็นชาวบ้านในเมืองหลวง แค่มองก็รู้แล้วว่าที่อยู่บนเรือนั้นคือใคร
เป็นซื่อจื่อฝู้จื่อโม่แห่งตระกูลฝู้ซึ่งเป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ในตอนนี้ และเป็นเพื่อนสนิทชนิดไม่อาจแยกจากกันได้ของเซ่อเจิ้งหวางคนปัจจุบัน
บนเรือมีตราประจำตระกูลของตระกูลฝู้ประดับอยู่ ราวกับมังกรที่กำลังเล่นน้ำ ตราประจำตระกูลซึ่งมีนกนางแอ่นขนาดใหญ่เป็นสัญลักษณ์นี้ไม่มีใครเหมือนแน่นอน
หญิงสาวคนหนึ่ง รูปร่างเล็กกว่าหญิงสาวทั่วไปเล็กน้อย แต่กลับมีท่าทางอ่อนช้อยสง่างาม นางสวมชุดกระโปรงยาวสีแดงสีใส เผยให้เห็นไหล่นวลครึ่งหนึ่ง ผิวพรรณอ่อนนุ่มขาวผ่องกับกระดูกไหปลาร้าที่ดูงดงาม สวมผ้าคลุมใบหน้าสีแดงเข้ม ปิดบังใบหน้าไว้กึ่งหนึ่ง เผยให้เห็นแต่ดวงตาที่มีเสน่ห์เย้ายวนใจ ดวงตาสีนิลดูล้ำลึกราวกับบ่อน้ำ แทบจะดูดกลืนคนเข้าไปได้ในทันที
ฝู้จื่อโม่โอบสาวงามไว้ทางซ้ายมือหนึ่งคน ขวามือหนึ่งคน เขาสวมชุดยาวสีเทาเข้มทั้งตัว เผยให้เห็นกล้ามเนื้อหน้าอกที่ขาวสะอาด มีผมยากปรกลงมา ในดวงตาเรียวเล็กแฝงความเย้ายวนที่ยากจะเอ่ยออกมาได้
"พวกเจ้าทั้งหมดออกไปก่อน ข้าจะให้แม่นางผู้นี้อยู่เป็นเพื่อน"
น้ำเสียงน่าฟังมาก ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งของเขา ผ่านไปชั่วครู่ในเรือก็เหลือแค่กู้ชิวเหลิ่งกับฝู้จื่อโม่สองคนเท่านั้น
ฝู้จื่อโม่ลุกขึ้นยืน เป็นเพราะเพิ่งจะดื่มเหล้าไป ฉะนั้นร่างกายจึงทรงตัวไม่มั่นคงโอนเอนไปมา ในขณะที่เข้าไปใกล้กู้ชิวเหลิ่ง บนร่างก็มีแต่กลิ่นเหล้าคละคลุ้งไปหมดแล้ว
"แม่นางคนสวย เจ้าชื่ออะไร"
ในแววตาของกู้ชิวเหลิ่งไม่แฝงแววหยอกล้อเลยแม้แต่น้อย แต่น้ำเสียงกลับสดใสน่าฟังยิ่งนัก "ข้าน้อยชื่อฮั่วผิง"
ฝู้จื่อโม่เข้าใกล้กู้ชิวเหลิ่งมากขึ้น แทบจะใช้ร่างกายของตนเองทับทาบไปบนร่างของกู้ชิวเหลิ่งอยู่แล้ว ริมฝีปากเลื่อนเข้าไปใกล้ใบหูของกู้ชิวเหลิ่ง เอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่แฝงด้วยความคลั่งไคล้ว่า "ฮั่วตัวไหน ผิงตัวไหน"
กู้ชิวเหลิ่งไม่ได้ผลักฝู้จื่อโม่ออก ดวงตามีเกิดรอยยิ้มโค้งสวยราวกับพระจันทร์เสี้ยว "หยินจู๋ชิวกวงเหลิ่งฮั่วผิง ข้าน้อยแซ่เหลิ่ง ชื่อฮั่วที่มาจากคำว่าวาด ผิงที่มาจากคำว่าฉากกั้น"
"เสียงของเจ้าน่าฟังจริงๆ ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยเห็นเจ้าบนเรือลำนี้มาก่อน ถ้าหากเจอเจ้าตั้งแต่แรก ข้าจะสรรหาหญิงสาวที่เอาแต่แต่งหน้าแต่งตัวแต่ไร้ซึ่งการอบรมสั่งสอนเหล่านี้มาทำไมกัน"
กู้ชิวเหลิ่งเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้ฝู้จื่อโม่ด้วยตนเอง ดวงตาแฝงรอยยิ้ม "ข้าน้อยได้ยินว่า งานเลี้ยงของแคว้นครั้งนี้ ฮ่องเต้ของแคว้นฉีได้นำองครักษ์ลับที่มีฝีมือเก่งกาจที่สุดมาด้วยสองกลุ่ม ทำไมฝู้ซื่อจื่อจึงดูไม่ร้อนใจเลย ยังมีอารมณ์มาร้องรำทำเพลงที่นี่อีก"
รอยยิ้มหยอกเย้าในดวงตาของฝู้จื่อโม่หายไปทันที สิ่งที่มาแทนที่คือความอันตราย "เจ้าเป็นใคร"
"ฝู้ซื่อจื่อทำไมไม่ยิ้มเจ้าคะ"
ฝู้จื่อโม่หรี่ตาลงอย่างอันตราย พูดว่า "ช่างเป็นหญิงสาวที่งดงามมาก......"
ยังพูดไม่จบประโยค ฝู้จื่อโม่ก็ดึงมีดสั้นเล่มหนึ่งออกมาจากเอวแล้ว กู้ชิวเหลิ่งมีปฏิกิริยาเร็วมาก ถอยหลังไปสามสี่ก้าวติดๆ รักษาระยะห่างที่แน่นอนกับฝู้จื่อโม่เอาไว้
ริมฝีปากแดงของกู้ชิวเหลิ่งเผยอขึ้นเบาๆ "ฝู้ซื่อจื่อทำไมเปลี่ยนสีหน้าเร็วเช่นนี้ ช่างน่าน้อยใจเสียนี่กระไร"
"ไม่ต้องพูดมาก รีบบอกมาว่าเจ้าเป็นใคร"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลำนำยอดหญิงจอมพิษ
เสียดายได้อ่านแค่ 102 ตอน ขอแอดมินมาช่วยอัพเดทตอนเพิ่มได้ไหมคะ...