สรุปเนื้อหา บทที่ 42 ปีนกำแพงอย่างเดียว – ลำนำยอดหญิงจอมพิษ โดย ใบไม้แดง
บท บทที่ 42 ปีนกำแพงอย่างเดียว ของ ลำนำยอดหญิงจอมพิษ ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ใบไม้แดง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
"นางฉลาดจริงๆ ไม่เหมือนกับหญิงสาวคนอื่น"
ฝู้จื่อโม่มองอวี้ฉือจ้านราวกับไม่เคยเห็นมาก่อน พูดว่า "ข้าไม่เคยได้ยินเจ้าเอ่ยชมหญิงใดออกจากปากเจ้าเลย เจ้าสนใจนางขึ้นมาแล้วใช่หรือไม่จ้าน นี่เจ้าไม่รักข้าแล้วหรือ"
ฝู้จื่อโม่มองดูอวี้ฉือจ้านด้วยสายตาน้อยเนื้อต่ำใจ เดิมทีดวงตาของฝู้จื่อโม่ก็มีแววเกียจคร้านแต่งดงามมาก ถ้าหากไม่ใช่เพราะเอาแต่เปลือยอกอยู่ตลอดเวลา เกรงว่าคงถูกคิดว่าเป็นผู้หญิง
อวี้ฉือจ้านขมวดคิ้วเบาๆ "รัก?"
ฝู้จื่อโม่เปลี่ยนสีหน้า พูดว่า "จ้าน เจ้าไม่มีอารมณ์เลยแม้แต่น้อย รู้หรือไม่หลายปีมานี้ในเมืองหลวงต่างลือกันไปทั่วว่าเจ้ากับข้าเป็นคู่รักเพศเดียวกัน "
"ทำไมข้าจึงไม่รู้"
"จวนเซ่อเจิ้งหวางของเจ้าปิดมิดชิดไม่มีช่องโหว่ ข่าวคราวข้างในไม่หลุดรั่วออกมาภายนอกเลยแม้แต่น้อย แต่ว่าข่าวคราวที่เกิดขึ้นข้างนอกเจ้ารับรู้ทั้งหมด มีเพียงข่าวนี้ ใครจะกล้าบอกเจ้า"
ฝู้จื่อโม่กลับไปที่เก้าอี้ของตนเอง ผลไม้วันนี้คือลิ้นจี่ เขากินอย่างเอร็ดอร่อยมาก
ทันใดนั้นอวี้ฉือจ้านก็นึกขึ้นมาได้ว่า สายตาที่กู้ชิวเหลิ่งมองเขานั้นมีความแตกต่างออกไป อีกทั้งนางไม่ไปหาผู้อื่น แต่มาหาฝู้จื่อโม่เพื่อเข้าใกล้เขา คงเป็นเพราะได้ยินข่าวลือภายนอกอย่างแน่นอน
"สั่งการลงไป วันหลังหากฝู้ซื่อจื่อจะมาที่จวน ให้ปีนกำแพงอย่างเดียว ไม่อนุญาตให้เปิดประตูใหญ่อย่างเด็ดขาด"
จีเฟิงตั้งใจฟังอย่างจริงจังอยู่หน้าประตู รู้สึกขนลุกตั้งชันขึ้นมาทั้งตัว
"ปีนกำแพง? พวกเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งหลายปี เจ้าเจ้า......เจ้าถึงกับให้ข้าปีนกำแพงเพียงเพราะข่าวลือเล็กๆน้อยๆเลยหรือ"
จีเฟิงขนลุกขึ้นมาอีกครั้ง พรุ่งนี้คงมีข่าวลือแพร่ไปทั่วเมืองหลวงว่าเซ่อเจิ้งหวางทะเลาะกับฝู้ซื่อจื่อเพราะหญิงสาวนิรนามคนหนึ่ง หลังจากนั้นจวนเซ่อเจิ้งหวางปิดประตูไม่ต้อนรับฝู้ซื่อจื่อ ฝู้ซื่อจื่อปีนกำแพงในยามค่ำคืน เพียงเพื่อกอบกู้ความรักต้องห้ามครั้งนี้
เป็นยามค่ำคืนที่เงียบสงัด เสียงกรีดร้องเสียงหนึ่งทำลายความเงียบของจวนโหว
ตอนที่จูเอ๋อร์เข้ามา กู้ชิวเหลิ่งได้แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว พูดด้วยสายตาที่เฉียบคมว่า "เสียงมาจากที่ใด"
ร่างของจูเอ๋อร์กำลังสั่นเทา "พอบ่าวตื่นขึ้นมา ก็ไม่เห็นอิงเอ๋อร์แล้ว"
ในแววตาของกู้ชิวเหลิ่งมีความสงสัยแฝงอยู่ ดึกขนาดนี้แล้ว อิงเอ๋อร์ไปที่ไหน
สาวใช้ในจวนโหวถือคบเพลิง รวมตัวกัน จูเอ๋อร์ถามสาวใช้คนหนึ่งที่คุ้นเคยกัน จึงรู้ว่าเสียงนั้นมาจากห้องหนังสือของกู้หนานเฉิง
มีเสียงเตือนดังขึ้นในใจของกู้ชิวเหลิ่ง ห้องหนังสือของกู้หนานเฉิงไม่ได้อยู่ใกล้กับเรือนที่นางอาศัยอยู่เลย ตอนนี้เป็นยามจื่อแล้ว ตามหลักแล้วคนในจวนไม่ว่าจะเป็นนายหรือบ่าวก็ต้องอยู่ในความสงบ แต่เสียงที่ดังขึ้นเมื่อครู่เห็นได้ชัดว่าเป็นเสียงของอิงเอ๋อร์
บ่าวคนหนึ่งในเรือนของนาง ไปห้องหนังสือของกู้หนานเฉิงตอนดึกดื่น จะไม่ให้คนอื่นสงสัยได้อย่างไร
และที่นางอยากจะรู้มากที่สุดตอนนี้คือ อิงเอ๋อร์ไปที่ห้องของกู้หนานเฉิงทำไม ส่วนเสียงกรีดร้องนั่น หมายความว่าอย่างไรกันแน่
ทุกคนต่างก็ล้อมอยู่หน้าประตูห้องหนังสือ ฮูหยินใหญ่กับกู้ชิวเซียงสวมชุดเรียบร้อยยืนอยู่ในห้องหนังสือ และตอนที่กู้ชิวเหลิ่งมาถึง ก็เห็นว่าอิงเอ๋อร์ที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยไม่เรียบร้อยคุกเข่าอยู่กับพื้น ดวงตามีแต่คราบน้ำตา
อิงเอ๋อร์ยังคงดึงชายกระโปรงของกู้ชิวเหลิ่งเอาไว้ ร้องไห้พูดว่า "คุณหนู ท่านจะทำอย่างนี้กับบ่าวไม่ได้ บ่าวทำเพื่อท่านจึงได้......"
แววตาของกู้ชิวเหลิ่งเย็นเฉียบลงทันที ฮูหยินใหญ่ที่อยู่ข้างๆพูดขึ้นว่า "อะไรนะ ทำไมจึงเป็นเช่นนี้ เหลิ่งเอ๋อร์ เจ้าอายุแค่นี้ ถึงกับกล้าวางยาท่านพ่อของเจ้า ส่งอี๋เหนียงมาให้ท่านพ่อของตนเอง นี่มันมีเหตุผลซะที่ไหนนายท่าน ท่านดู เหลิ่งเอ๋อร์ช่างไม่รู้กฎเกณฑ์อะไรเอาซะเลย"
กู้หนานเฉิงกัดฟันกรอด กำลังจะบันดาลโทสะ กู้ชิวเหลิ่งก็ได้พูดขึ้นมาว่า "ยา ร้านยานี้ลูกไม่เคยไปเลย ไหนเลยจะกล้าวางยาท่านพ่อ"
กู้ชิวเซียงเอ่ยด้วยเสียงอ่อนหวาน "น้องรอง เจ้ายอมรับมาเสียเถิด เมื่อครู่ท่านแม่ได้เรียกท่านหมอที่ร้านยามาสอบถามแล้ว เมื่อตอนเย็นอิงเอ๋อร์ได้ไปหาหมอเพื่อซื้อยามากิน"
สีหน้าของกู้ชิวเหลิ่งไม่ได้เปลี่ยนไป พูดว่า "พี่ใหญ่ก็บอกแล้ว ว่าบ่าวคนนี้ไปซื้อยามาเอง แล้วเกี่ยวข้องอะไรกับข้า หรือว่าคนในเรือนของพี่ใหญ่ทำผิด ล้วนเป็นเพราะการสั่งการของพี่ใหญ่อย่างนั้นหรือ"
"เจ้า!"
กู้ชิวเหลิ่งเอ่ยอย่างสงบว่า "ท่านพ่อ ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่อิงเอ๋อร์เพิ่งจะมาอยู่ที่เรือนข้าได้ไม่ถึงวัน แม้ข้าจะกล้าหาญชาญชัยแค่ไหน ก็คงไม่กล้าส่งอี๋เหนียงมาให้ท่านพ่อ เรื่องนี้ต้องมีอะไรแอบแฝงอยู่แน่ๆ แต่ลูกมีหนึ่งคำ ไม่รู้ว่าสมควรพูดหรือไม่ "
กู้หนานเฉิงอดกลั้นโทสะเอาไว้ นึกถึงเรื่องที่กู้ชิวเหลิ่งเพิ่งจะได้รับราชโองการในวันนี้ เขาไม่ควรจะบันดาลโทสะ ได้แต่โบกมือ ส่งสัญญาณให้กู้ชิวเหลิ่งพูด
"ข้างกายท่านพ่อมีแค่ท่านแม่กับอี๋เหนียงรองหนึ่งภรรยาหนึ่งอนุ ในจวนอื่นๆนั้นไม่เคยมีเช่นนี้มาก่อน จะพูดให้น่าฟังก็คือท่านพ่อนั้นมีความผูกพันในความเป็นสามีภรรยากับท่านแม่มาก แต่ถ้าพูดอย่างไม่น่าฟัง นั่นก็คือท่านพ่อเกรงกลัวภรรยา นี่ไม่ใช่ชื่อเสียงที่ดีเลย"
"บังอาจ เจ้ากล้าพูดเช่นนี้ได้อย่างไร"
สีหน้าของกู้หนานเฉิงเขียวคล้ำขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าโมโหมากแค่ไหน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลำนำยอดหญิงจอมพิษ
เสียดายได้อ่านแค่ 102 ตอน ขอแอดมินมาช่วยอัพเดทตอนเพิ่มได้ไหมคะ...