เซี่ยชุน ไม่เคยเห็นกู้ชิวเซียงโกรธมากขนาดนี้มาก่อน ในสายตาของคนนอกกู้ชิวเซียงเป็นคุณหนูผู้งดงามที่มีกิริยาท่าทางสง่างามการวางตัวเหมาะสมมาโดยตลอด ไม่เคยเป็นอย่างเช่นในตอนนี้ ราวกับหญิงร้ายที่คลุ้มคลั่ง
ถ้วยชาแตกอยู่ตรงหน้าของเซี่ยชุน เซี่ยชุนถอยหลังออกไปหนึ่งก้าวโดยสัญชาตญาณ
กู้ชิวเซียงกล่าวออกมาอย่างดุดัน: "กู้ชิวเหลิ่ง......ต้องเป็นกู้ชิวเหลิ่งแน่นอน! นางแพร่กระจายข่าวออกไป บิดเบือนข้อเท็จจริงทำลายชื่อเสียงของข้า!"
"คุณหนูอย่าโกรธให้เสียสุขภาพไปเลยเจ้าค่ะ กู้ชิวเหลิ่งเป็นแค่ลูกสาวอนุภรรยาที่ต่ำต้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนนี้นายท่านให้คุณหนูเก็บตัวอยู่ในห้องเงียบๆ อย่าได้ก่อเรื่องอะไรขึ้นมาอย่างเด็ดขาดเจ้าค่ะ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ต้องฝึกซ้อมการร่ายรำให้ดี ถึงเวลาในงานเลี้ยงของแคว้น ท่านอ๋องรองจะต้องให้ความสนใจกับคุณหนูอย่างแน่นอน"
คำพูดของเซี่ยชุนแทงเข้าไปถึงส่วนลึกที่อยู่ในใจของกู้ชิวเซียง ในที่สุดกู้ชิวเซียงก็สงบสติอารมณ์ลงมาบ้างแล้ว ฮึเย็นชาออกมาคำหนึ่ง: "เจ้าไปบอกกับท่านแม่ ต้องระงับข่าวลือพวกนี้ลงมาให้ได้ จะให้ข่าวลือพวกนี้แพร่ไปถึงหูของท่านอ๋องรองไม่ได้เด็ดขาด"
เซี่ยชุนรีบกล่าวซ้ำๆ: "บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้......"
"ช้าก่อน! เจ้าไปเชิญลูกผู้พี่มาให้ข้าด้วย"
เซี่ยชุนชะงักงันไปเล็กน้อย กล่าวว่า: "คุณหนู ตอนนี้ในเมืองหลวงมีข่าวซุบซิบนินทามากมาย หากว่าตอนนี้ให้คนพบว่าคุณชายฉินมาที่จวนของเรา ชื่อเสียงของคุณหนู จะ......"
"เจ้าไม่ต้องพูดมาก ข้ารู้ว่าต้องทำอย่างไร เรื่องนี้อย่าเพิ่งบอกกับท่านแม่ เจ้าแอบไปที่จวนตระกูลฉิน บอกว่าให้ลูกผู้พี่เข้ามาจากลานด้านหลัง"
"นี่......"
กู้ชิวเซียงเข้าไปตบหน้าของเซี่ยชุนฉากหนึ่ง เสียงดังฟังชัดมาก เซี่ยชุนรีบกุมหน้าเอาไว้แล้วคุกเข่าลงไปบนพื้น หลายปีมานี้นางเป็นคนโปรดที่มีความสามารถที่สุดข้างกายของกู้ชิวเซียง อย่าว่าแต่ตีเลย กู้ชิวเซียงยิ่งไม่เคยลงโทษนางมาก่อน
ใบหน้าของกู้ชิวเซียงในเวลานี้ดุร้ายจนไม่เหมือนหญิงงามคนหนึ่ง กลับดูเหมือนหญิงใจเหี้ยมคนหนึ่งมากกว่า: "ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นสาวใช้ที่มีความสามารถที่สุดข้างกายของท่านแม่ แต่ว่าข้าถึงจะเป็นนายของเจ้า เจ้าต้องรู้ว่าคำพูดของใครถึงจะเป็นคำสั่งแรกที่เจ้าควรจะทำตาม!"
"เจ้าค่ะเจ้าค่ะ! บ่าวไม่กล้าอีกแล้ว บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้แหละ!"
เซี่ยชุนถอยออกไปอย่างตัวสั่นงันงก
กู้ชิวเซียงกำหมัดเอาไว้แน่น กู้ชิวเหลิ่งอยากจะให้นางสูญเสียชื่อเสียงทั้งหมดในเมืองหลวงไป จบด้วยสถานการณ์น่าสังเวชที่ไม่มีใครเอา?
เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด! ไม่มีใครสามารถทำให้นางกู้ชิวเซียงสูญเสียความเปล่งประกายทั้งตัวไปได้! และก็ไม่มีใครสามารถชิงทุกสิ่งทุกอย่างไปจากนางได้!
กู้ชิวเหลิ่งนั่งหลับตาพักผ่อนสมองอยู่บนเก้าอี้หวาย ทางด้านโรงน้ำชานางก็ไม่รีบร้อน สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็ยังคงเป็นจวินฉีเซิ่งที่เห็นบนถนนฉางอันในวันนั้น คำนวณตามเวลาของงานเลี้ยงราชสำนัก อย่างน้อยก็ยังต้องใช้เวลาอีกสิบวันถึงจะสามารถจัดงานเลี้ยงราชสำนักขึ้นมาได้ ก่อนหน้านี้จวินฉีเซิ่งจะมาเร็วเกินไปหน่อยไหม และเขาปรากฎตัวที่ถนนฉางอันอย่างไม่มีความเกรงกลัวใดๆ เห็นได้ชัดว่าเจอกับการดักซุ่มโจมตี และในต้าเยียนแห่งนี้คนที่สามารถทำร้ายจวินฉีเซิ่งให้บาดเจ็บสาหัสได้ น่าจะมีแค่อวี้ฉือจ้านคนเดียวเท่านั้น
ขณะนี้เอง จูเอ๋อร์จับนกพิราบตัวหนึ่งมา ในสายตาวูบวาบไปด้วยแสงแห่งความแปลกประหลาดมหัศจรรย์: "คุณหนู บ่าวไม่เคยเห็นนกพิราบที่สวยขนาดนี้มาก่อนเลย เมื่อครู่นี้มันบินมาที่ขอบหน้าต่าง ไม่ขยับเขยื้อนเลย ยังร้องขึ้นมาสองครั้งแน่ะ!"
กู้ชิวเหลิ่งมองไปเพียงแวบเดียว ก็เห็นใต้เท้าของนกพิราบมีสีแดงทาอยู่เล็กน้อย และด้านหลังเท้าก็มีหลอดไม้ไผ่บางๆมีมัดอยู่อันหนึ่ง ถ้าหากไม่สังเกตมองดีๆจะมองไม่เห็นเลย
นี่คือมีคนส่งพิราบสื่อสารมาให้นาง คือต้องการจะส่งข่าวอะไรมาใช่ไหม?
"เอามาทางนี้"
"อ้อ......เจ้าค่ะ คุณหนูระวัง บ่าวก็ไม่รู้ว่านกพิราบกัดคนหรือไม่ อย่างไรเสียระวังเอาไว้ก็ถูกต้องแล้วเจ้าค่ะ!"
กู้ชิวเหลิ่งรับนกพิราบมา เมื่อเทียบกับนกพิราบทั่วไป ตัวนี้ดูเหมือนจะเชื่อฟังยิ่งกว่า นอนนิ่งอยู่ในฝ่ามือของกู้ชิวเหลิ่ง แม้แต่คอก็หมุนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เหมือนกับกำลังบอกกู้ชิวเหลิ่งว่ามีคนส่งข้อความมาให้นาง
กู้ชิวเหลิ่งแกะด้ายแดงที่อยู่บนขาหลังของนกพิราบ มีกระดาษที่ไม่ถึงหนึ่งนิ้วใบหนึ่ง เขียนตัวอักษรเอาไว้ไม่กี่คำ: เมื่อวานจวินฉีเซิ่งได้เข้าเมืองหลวงแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลำนำยอดหญิงจอมพิษ
เสียดายได้อ่านแค่ 102 ตอน ขอแอดมินมาช่วยอัพเดทตอนเพิ่มได้ไหมคะ...