กู้ชิวเหลิ่งนอนอยู่บนเตียงนุ่ม ครั้งนี้อวี่เหวินเจี๋ยพาอวี่เหวินหวายมาจวนกู้ น่าจะมีความคิดที่อยากจะช่วยอวี่เหวินหวายลดโทษให้เบา อวี้ฉือกงผิดหวังอย่างที่สุดแล้วสำหรับน้องหกคนนี้ ถ้าหากอวี่เหวินหวายมีผลงานในการล่าสัตว์ครั้งนี้ อวี้ฉือกงอาจจะมอบตำแหน่งอะไรสักอย่างให้กับอวี่เหวินหวายก็ได้
อย่างไรเสียเป็นผู้ชาย ต้องมีอุดมการณ์ ไม่ต้องพูดว่าอวี่เหวินหวายเป็นท่านอ๋อง ถึงจะเป็นคนเรียนหนังสือที่ตั้งใจร่ำเรียนมาสิบปี ในใจก็ต้องมีอุดมการณ์ แต่การศึกษายากลำบากสิบปีก็ไม่แน่ว่าจะได้ตำแหน่งขุนนาง แต่เพราะว่าอวี่เหวินหวายเป็นท่านอ๋อง เพราะฉะนั้นแค่มีผลงานเล็กน้อยก็สามารถมีได้
กู้ชิวเหลิ่งหัวเราะเย็นชา คนไม่เป็นโล้เป็นพายอย่างอวี่เหวินหวายแบบนี้ ถ้าเข้าเป็นขุนนางในราชวงศ์ ขุนนางผู้มั่งคั่งแสวงหาอำนาจ บรรยากาศอันสกปรกของต้าเยียนนี้ก็จะทวีคูณขึ้น อย่างอื่นไม่ว่า อวี้ฉือจ้านเป็นคนแรกที่ต้องคัดค้านแน่นอน
เพราะฉะนั้นไม่ว่าอวี่เหวินเจี๋ยจะพยายามช่วยอวี่เหวินหวายแค่ไหน อวี่เหวินหวายก็ไม่มีทางได้ตำแหน่งแน่นอน
กู้ชิวเหลิ่งเพิ่งนึกถึงอวี้ฉือจ้าน นกพิราบสารสีขาวตรงหน้าประตูก็ตีปีกเข้ามา ครั้งที่แล้วนางบอกทิศทางการไปของจวินฉีเซิ่งให้กับอวี้ฉือจ้าน ยังไม่รู้ว่าอวี้ฉือจ้านจะใช้ข่าวนี้อย่างไร ในต้าเยียนนี้มีแต่สายตาของเขาไปทั่ว บางทีอาจจะไม่ต้องใช้ข่าวของนางเลย อวี้ฉือจ้านก็สามารถรู้ตำแหน่งของจวินฉีเซิ่งได้
"จูเอ๋อร์ เจ้าไปหยิบของที่ขาก็เจ้าตัวน้อยมา"
จูเอ๋อร์กำลังเทน้ำชาให้กู้ชิวเหลิ่ง ตอนที่วางแก้วน้ำชาลงถึงเห็นนกพิราบสารตีปีกเข้ามา เสมือนกำลังแสดงให้รู้ว่าตัวเองมาแล้ว
"เจ้าค่ะ"
จูเอ๋อร์อยากประคองนกพิราบสารไว้เบาๆ แต่ว่าครั้งนี้นกพิราบสารไม่ได้ให้จูเอ๋อร์สมหวัง แต่กลับกางปีกออก บินไปที่ข้างขาของกู้ชิวเหลิ่ง สภาพสีหน้าเหมือนยกเว้นกู้ชิวเหลิ่งแล้วไม่มีใครสามารถเตะต้องได้
"เอ๋? .......คุณหนู! เจ้าตัวน้อยไม่เชื่อฟัง ไม่ให้บ่าวเตะต้อง!"
กู้ชิวเหลิ่งประคองนกพิราบไว้เบาๆ นกพิราบไม่ขยับไปเลื่อยอย่างเชื่อฟัง ให้กู้ชิวเหลิ่งแกะจดหมายบนขาออกมาอย่างตามใจ
จูเอ๋อร์พูดด้วยสีหน้าน่าสงสาร "คุณหนู นกพิราบสารนี้ช่างแสนรู้เหลือเกิน เหมือนมีแค่คุณหนูเท่านั้นที่เตะต้องได้"
กู้ชิวเหลิ่งเปิดจดหมายออก ข้างบนเขียนตัวหนังสือไว้ :เจอจ้านที่ศาลาทางตะวันตกของเมือง
กู้ชิวเหลิ่งขมวดคิ้วเบาๆ แต่ว่าคิ้วก็คลี่คลายออกอย่างรวดเร็ว แล้วพูดกับจูเอ๋อร์ว่า "เทียน"
เรื่องเผาจดหมายช่วงนี้กู้ชิวเหลิ่งทำอย่างขยัน เพราะฉะนั้นจูเอ๋อร์ก็เตรียมเทียนไว้นานแล้ว รอกู้ชิวเหลิ่งเผาทิ้ง
จูเอ๋อร์ถาม "คุณหนู เป็นข่าวของเซ่อเจิ้งหวางอีกแล้วหรือ?"
"อืม"
ดวงตาของจูเอ๋อร์เต็มไปด้วยสีสัน พูดว่า "บ่าวรู้สึกว่าเซ่อเจิ้งหวางต้องชอบคุณหนูแน่นอน"
กู้ชิวเอ๋อร์เผาจดหมายในมือทิ้ง พูดว่า "เจ้าสังเกตจากตรงไหนว่าเขาชอบข้า?"
จูเอ๋อร์พูดอย่างสมเหตุสมผล "คุณหนูไม่รู้หรือว่าเซ่อเจิ้งหวางมีหลักการหนึ่งข้อ ก็คือหญิงสาวห้ามเข้าใกล้ระยะสามเมตร มิเช่นนั้นไม่ว่าเป็นใคร เบาหน่อยก็หักแขนหักขา หนักก็คือเสียชีวิต!"
กู้ชิวเหลิ่งพูดเรียบเฉย "เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่ได้อยากเอาชีวิตข้า?"
มีอยู่หลายครั้ง กู้ชิวเหลิ่งรู้สึกได้ถึงเจตนาฆ่าในสายตาของอวี้ฉือจ้าน แต่ไม่สามารถมองออกว่านั้นคือหาทดสอบ หรือว่าอยากเอาชีวิตนางจริงๆ
ครั้งที่แล้วนางอยู่บนเรือไปเข้าใกล้ฝู้จื่อโม่ครั้งแรก แต่กลับถูกพบโดยอวี้ฉือจ้าน มองเห็นโฉมหน้า ก็จำได้ว่านางคือกู้ชิวเหลิ่งที่ถอนการหมั้นหมาย ตอนนั้นนางเห็นเจตนาฆ่าในสายตาของอวี้ฉือจ้านอย่างชัดเจน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลำนำยอดหญิงจอมพิษ
เสียดายได้อ่านแค่ 102 ตอน ขอแอดมินมาช่วยอัพเดทตอนเพิ่มได้ไหมคะ...