เสิ่นเยี่ยนฟางสังเกตุบริเวณรอบๆ ตามสไตล์ของหน่วยสอดแนมทุกอย่างต้องประมวลผลฉับไว เดินไปตามตรอกต่างๆ สังเกตุทุกอย่าง ก่อนจะมองหาอาชีพที่ต้องทำหากินยังโลกที่โหดร้ายนี่เฮ้อ
กำลังจะไปที่โรงหมอก็เจอเข้ากับอาเขยพอดีกับที่อาเขยหันมาเจอนาง สวยผิดหูผิดตาจริงๆ ขนาดตอนที่ใส่เสื้อผ้าเก่าๆ มอมแมมนางยังงามนัก ตอนนี้นางยิ่งงาม ปากชมพูอวบอิ่มนั่น หน้าอกที่เขาเคยได้สัมผัสมันครั้งหนึ่งก่อนที่นางจะเอาหมอนไม้ฟาดหัวเขาจนแตก แล้วเมียเขากลับมาพอดี อยากจับไว้ใต้ร่างจริงๆ แต่งให้ไอ้ขี้โรคนั่นน่าเสียดาย
“หืมใครเนี่ย เสี่ยวฟางของอานี่นามาเดินตลาดหรือ วันนี้แต่ตัวงดงามมากนัก เจ้าอยากกินอะไรหรือไม่อาเลี้ยงเจ้าเองดีไหม สามีขี้โรคของเจ้าเล่า คงไม่ได้มาซื้อของเซ่นไหว้หรอกนะ เสียดายความสาวเจ้าจริงๆ อยากให้อาเขยคนนี้ช่วยคลายความเหงาดีหรือไม่”
เสิ่นเยี่ยนฟางเห็นสายเขาที่มองนางด้วยสายตาลามกโลมเลีย อีกทั้งสหายของเขาอีกสองคนก็ใช้สายตาเช่นเดียวกัน ดูท่าคงนิสัยอุบาทว์เหมือนกัน จึงไม่ตอบแต่เดินหนีแทน หวังซูอาเขยของนางเดินมาดักหน้า ก่อนจะกางแขนกั้น ส่งสายตาโลมเลีย
เสิ่นเยี่ยนฟางนับหนึ่งในใจ ชาวบ้านกำลังจะไปช่วยแต่หนึ่งในนั้นคือจางลี่บุตรชายเศรษฐีจาง ใครก็ไม่อยากมีเรื่องจึงได้แต่เอาใจช่วยเท่านั้น
“หลานสาวเจ้างามยิ่งนักหวังซู่ ให้ข้าได้ชิมก่อนแล้วจะส่งต่อให้เจ้า ว่าอย่างไรแม่นางน้อยไปสนุกกับข้าดีกว่า สวรรค์รอเราอยู่นะ โอ๊ะ “
ตุบ!!ผลัก!!ผั๊ว!!อ๊ากซ์!! พริบตาทั้งสามคนก็ลงไปนอนกอง โดยที่ไม่มีใครเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น เสิ่นเยี่ยนฟางไปแล้วพร้อมกับถุงเงินก้อนโตของคุณชายทั้งสอง ลองคำนวณคร่าวๆ น่าจะเกือยสองร้อยตำลึง อืมกำลังคิดว่าจะใช้ชีวิตอย่างไรตอนนี้ดูเหมือนว่านางจะได้อาชีพแล้ว เจอลู่ทางทำมาหากินแล้วมันดีอย่างนี้นี่เอง
ลูกคนรวยเขาพกเงินเยอะขนาดนี้ วันหนึ่งเดินมาชนตอนางสักสองคน อยู่ได้ครึ่งปีเลยเชียว ฮ่าๆๆๆ
ไม่นานก็มาถึงโรงหมอ เมิ่งหย่งชวนรอตรวจอยู่ เขาเห็นนางอารมณ์ดีก็แปลกใจ ก่อนออกจากบ้านยังจะฆ่าเขาตายอยู่เลย ตอนนี้ยิ้มให้เสียหวานจนเขาเสียวสันหลังยังไงไม่รู้
หลังจากเสิ่นเยี่ยนฟางที่จัดการสามคนนั้นเรียบร้อยก็มานั่งรอหมอเป็นเพื่อนเมิ่งหย่งชวน คนต่อไปถึงเขาแล้วท่านหมอจึงให้เด็กในร้านมาตาม เมิ่งหย่งชวนเดินเข้าไปด้านใน ก่อนจะเรียกนางเข้าไปด้วยกัน
"ภรรยา เจ้าเข้ามาด้วยเถิด หากท่านหมอสั่งอะไรเจ้าจะได้รับรู้ด้วย"
เสิ่นเยี่ยนฟางมองหน้าสามีฟ้าประทานอย่างเหนื่อยหน่าย ภรรยาบ้านเจ้าสิหน้าด้านจริงๆ แต่ก็ยอมเดินตามเขาเข้าไปด้านใน ตรงหน้ามีชายชราคนนึงนั่งอยู่ จากความทรงจำคร่าวๆชายชราคนนี้เป็นนหมอประจำตำบลเขาแซ่จ้าว ท่านหมอจ้าวที่นับหน้าถือตาของคนในตำบลมากนับว่ามีฝีมืไม่น้อย
เสิ่นเยี่ยนฟางนั่งลงให้หมอตรวจชีพจร เขาทำสีหน้านิดนึงก่อนจะเอ่ยกับนาง
"ฮูหยินเมิ่ง ร่างกายท่านอ่อนแอนัก แผลนี่มาจากการถูกทำร้าย ท่านควรไปแจ้งทางการหรือไม่ อีกอย่างตกน้ำครั้งนี้ทำให้ไอเย็นเข้าสู่ร่างกาย ข้าจะจ่ายยาแก้อาการหวัดให้ท่าน ตัวยาคล้ายกับของสามีท่านต้มกินเหมือนกัน ถงลู่เจ้าไปจัดยายให้กับบัณฑิตเมิ่งและภรรยาหน่อย"
จ้าวคังเรียกเด็กในร้านให้ไปจัดยา จากนั้นก็บอกเตือนข้อระวังของพวกเขาว่าควรงดอะไรบ้าง เมิ่งหย่งชวนถือโอกาสกล่าวลาจ้าวคัง
"ขอบคุณท่านหมอมากขอรับ ค่ารักษาของครั้งก่อนกับครั้งนี้เป็นเท่าไหร่หรือขอรับ ข้าพอหยิบยืมเงินมาได้จึงไม่อยากค้างค่ายาท่านอีกแล้ว"
"เอาเป็นว่าครั้งก่อนกับครั้งนี้ข้าคิดท่านสิบสองตำลึง ส่วนของฮูหยินท่านข้าไม่คิดก็แล้วกัน ฮูหยินเมิ่งสามีท่านต้องบำรุงเขาร่างกายอ่อนแอนัก อาหารดีๆควรมีให้เขาบ้าง ข้ารู้ว่าสถาณการณ์บ้านเจ้าไม่ดีนัก แต่คนเราควรได้กินดีบ้างในบางครั้ง"
"ขอบคุณท่านหมอจ้าวมากข้าจะทำตามที่ท่านสั่งเจ้าค่ะ ท่านพี่เสียเวลาคนอื่นรอหาหมอ พวกเราไปรับยาแล้วรีบกลับบ้านกันเถอะเจ้าค่ะ ท่านป่วยอยู่อย่าถูกลมนานๆเลย ข้าน้อยลาท่านหมอจ้าวนะเจ้าคะ"

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลิขิตกาลบันดาลรัก