ลิขิตรัก ในกรงแค้น นิยาย บท 3

“คุณแทนคะ” เสียงเรียกของแม่บ้าน ทำให้ร่างสูงหยุดเดิน แล้วหันหน้าอันหล่อเหลาราวกับพระเอกหนังกลับมา

“มีอะไรหรือป้านา” ชายหนุ่มขมวดคิ้วสงสัย เมื่อเห็นกิริยาอาการหยุกหยิกของแม่บ้าน เสมือนมีเรื่องลำบากใจบางอย่างอยากขอร้องเขา

“เอ่อ...คือ...อาหารสดมีเหลือและกำลังจะเสีย ป้าขอเอาไปให้หลานได้ไหมคะ” หญิงชราถึงแม้จะตามใจหลานสาวเป็นอย่างมาก แต่ความรู้สึกผิด บังคับให้เธอต้องเข้ามาขออนุญาตผู้เป็นเจ้าของบ้านก่อน แม้จะบอกความจริงไม่หมดก็ตามที

“มีเหลือก็เอาไปนะส่วนที่จะเสียก็เอาทิ้ง ถ้าทานแล้วเกิดท้องเสียจะแย่เอา”

ชายหนุ่มเบี่ยงตัวเดินลับเข้าบ้านไปพักผ่อน เสียงประตูห้องนอนใหญ่สุดในบ้านถูกเปิดออก ก่อนแทนคุณผู้ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านจะเดินมายังรูปที่ตั้งอยู่หัวเตียง เขายืนมองรูปถ่ายหมู่ของครอบครัวก่อนจะค่อยๆ จับขึ้นมา และทิ้งตัวลงนั่งพินิจรูปหมู่นั้นบนเตียงที่ปูด้วยผ้าสีทึบอย่างดี ภาพในหัวปรากฏเป็นเรื่องราวที่ทำให้เขาต้องสูญเสียคนในครอบครัว มันคืออุบัติเหตุที่เขาจำไม่มีวันลืม ภาพที่เขายืนรอพ่อกับแม่อยู่ฝั่งตรงข้ามของถนนเนื่องจากพลัดหลงกัน ด้วยความดีใจของผู้เป็นบิดาและมารดาที่ได้พบกับลูกชายตัวเล็กที่ยืนมองพวกเขาอยู่ ทั้งสองรีบวิ่งข้ามมาหาลูกด้วยกลัวจะพลัดหลงกันอีก ปากผู้เป็นแม่ตะโกนจับใจความได้ว่า

“อย่าไปไหน อยู่ตรงนั้นแม่จะไปหา” ยังไม่ทันจบประโยค

“โครม!” เขาเห็นเลือดกระจายเต็มถนน ร่างของพ่อกับแม่อยู่กันคนละทิศในมือของผู้เป็นมารดายังคงถือถุงที่เต็มไปด้วยขนมของเขาติดอยู่ เด็กน้อยรีบวิ่งเข้าไปหาร่างของบิดาและมารดาทันที เป็นภาพเหตุการณ์ที่เด็กน้อยตกใจสุดขีดเขาตะโกนร้องไห้สุดเสียง มือน้อยๆ พยายามเช็ดเลือดที่ออกจากศีรษะมารดา มือเล็กนั้นสั้นระริกด้วยความรู้สึกกลัวและสับสนผสมปนเปกันไปหมดหัวใจเล็กๆ นั้นถูกบีบด้วยภาพเหตุการณ์อันเลวร้าย ปากร้องเรียกชื่อมารดาไม่ขาดสาย

“แม่ครับ แม่ของแทน แม่ตื่นสิครับ”

มือเล็กจับมารดาเขย่าสุดแรงที่มี หวังเพียงให้ผู้เป็นมารดาฟื้นคืนสติ แม้จะเป็นเพียงเด็กน้อยตัวเล็ก แต่ก็พอจะรับรู้ได้ว่าเขากำลังจะเสียบุคคลที่รักยิ่งไปอย่างไม่มีวันกลับ ก่อนที่เสียงรถพยาบาลดังวุ่น ผู้คนแตกตื่นเข้ามารุมล้อม รถติดกันเป็นทางยาว ดวงตากลมเล็กนั้นได้บันทึกเรื่องราวอันแสนเจ็บปวด ร่างเด็กน้อยนั่งทรุดมองร่างบิดาและมารดาด้วยความสิ้นหวัง พร้อมกับน้ำตาที่ไหลทะลักออกมาเป็นสายไม่หยุด และการสูญเสียครั้งนั้นทำให้เขากลายเป็นเด็กกำพร้า ไม่เคยได้สัมผัสอุ่นไออ้อมกอดของบิดาและมารดาอีกเลย เป็นฝันร้ายที่สุดในชีวิต

เป็นตราประทับฝังอยู่ในหัวใจที่มิอาจลืมเลือน นับแต่นั้นมามีเพียงกรอบรูปใบนี้เป็นเพื่อนคอยรับฟังเรื่องราวต่างๆ ผ่านคำพูดของเด็กน้อยจนกลายเป็นหนุ่มใหญ่ มีเพียงกรอบรูปใบนี้ที่อยู่ในโลกลึกลับของเขาเกือบทุกเวลา ไม่ว่าสุขหรือเศร้าเด็กชายจะมาเล่าเรื่องราวต่างๆ ผ่านกรอบรูปใบนี้ หลายครั้งที่เขาแอบอิจฉาครอบครัวของคนอื่นที่อยู่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา และต้องต่อสู้กับภาพบาดใจเหล่านั้นมาโดยตลอด ผู้เป็นบิดาได้ทิ้งมรดกจำนวนมหาศาลไว้ให้ และนั่นคงเป็นโชคดีครั้งเดียวที่เขามี ปัจจุบันแทนคุณเป็นนักธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหาร เขามีร้านอาหารภายใต้การดูแลหลายสาขานับไม่ถ้วน เป็นหนุ่มเนื้อหอมเชื้อเชิญให้สาวๆ แวะเข้ามาหานับไม่หวาดไม่ไหว ซึ่งเป็นธรรมดาของนักธุรกิจหนุ่มรูปงาม

“ก๊อก ก๊อก” เสียเคาะประตูดังขึ้นทำให้แทนคุณหันวางรูปไว้ที่เดิมก่อนจะเดินไปเปิดประตู ร่างของหญิงสูงอายุ ยืนยิ้มอย่างใจดีในมือนั้น ถือนมสดยื่นให้

“ก่อนนอนค่ะ คุณแทน” ชายหนุ่มยิ้ม ยื่นมือหนารับมา แล้วค่อยๆ ยกดื่มจนหมด

“คุณแทนคะ แม่ศรีกับลูกขอลาออก ในเดือนหน้านี้แล้วเราจำเป็นต้องหาคนใหม่เข้ามาแทน เพราะดิฉันไม่สามารถทำความสะอาดได้หมดเพียงคนเดียว”

“อ้าว ทำไมถึงออกเล่า มีอะไรอึดอัดใจหรือเปล่า ผมเพิ่มเงินเดือนให้ก็ได้นะ” ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจ แม่ศรีกับลูกอยู่รับใช้เขามานานหากเธอลาออกไปเขาเองอดเสียดายคนดีดี ทำงานเรียบร้อยแบบแม่ศรีไม่ได้

“เห็นแม่ศรีบอกว่า แม่ป่วยจำเป็นต้องไปดูแล จึงขอลาออก ไม่เกี่ยวกับอึดอัดใจอะไรหรอกค่ะ คุณแทน”

“ถ้าอย่างนั้น ช่วงที่แม่ศรีไม่อยู่ เรื่องทำความสะอาดห้องรับรองก็หยุดไปก่อนจนกว่าจะหาคนใหม่เข้ามา ป้านากับน้อยก็ทำหน้าที่เดิมเหมือนเช่นเคยหากมีปัญหาอะไรก็บอกผม” แทนคุณพูดจบมือหนาค่อยๆ วางแก้วเปล่าลงในถาดรองที่ป้านาถือค้างไว้อยู่ระหว่างการสนทนา ชายหนุ่มเจ้าของบ้านหันไปขอบคุณป้าแม่บ้านอีกครั้งก่อนจะเข้าห้องไปพักผ่อน เขาเป็นคนนอนดึกและมีอาการนอนไม่หลับร่วมด้วยมาตั้งแต่เด็ก และต้องอาศัยยานอนหลับเป็นครั้งคราว คืนนี้เป็นอีกคืนที่เขาเอื้อมมือหนาหยิบยานั้นมาใช้อีกครั้ง เพื่อบรรเทาอาการเรื้อรังนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลิขิตรัก ในกรงแค้น