ลิขิตรัก ในกรงแค้น นิยาย บท 59

ชายชราพยายามเฝ้าอดทนรอเวลาเพื่อให้ครอบครัวหลุดพ้นจากความอาฆาตแค้นของเด็กหนุ่ม เขามักนั่งเหม่อลอยอยู่ตรงเก้าอี้ตัวเก่าริมหน้าต่างเสมอ ครู่หนึ่งก่อนจะเดินไปหยิบปากกาและสมุดมาเขียนบางสิ่งบางอย่างเอาไว้ ลมหายใจที่มีในแต่ละวันผ่านไปอย่างช้าๆ ดวงตาฝ้าฟางพยายามฝืนบรรจงเขียนลงบนสมุด พร้อมกับน้ำตาหยดลงบนตัวหนังสือที่บรรยายเรื่องราวความจริงเอาไว้ หากวันใดที่เขาไม่มีลมหายใจบนโลกใบนี้ ความจริงข้อนี้จะเป็นเกาะคุ้มภัยให้กับ “นันทิชา”

“นายครับ ผมให้คนดักดูความเคลื่อนไหวมันมาพักใหญ่ แต่ผมไม่มั่นใจว่ารถคันนี้เป็นรถแฟนคุณม่านหรือเปล่า” เสียงปลายสายจากลูกน้องคนสนิท กำลังรายงานความคืบหน้าภารกิจที่ดนัยสั่งให้ไปเฝ้าจับตาดู

“ส่งรูปมาให้ฉัน” ดนัยกดวางสาย เพื่อมาเปิดดูรูปรถคันต้องสงสัยดังกล่าวจากลูกน้อง รอเพียงไม่กี่วินาทีเสียงเตือนดังขึ้น เขาจึงยกมือถือขึ้นมากดเข้าไปดูอย่างใจเย็น ภาพรถสีขาวคันหรูป้ายทะเบียนชัดเจนจอดอยู่หน้าบ้านของลูกน้องเก่า ภาพที่ลูกน้องส่งมาให้ ทำให้ดนัยแทบประคองตัวเองไม่อยู่ “ไม่จริง ๆ” ชายชราส่ายหน้าไปมาพึมพำพลางกำมือถือแน่น แววตากลอกกลิ้งไปมาด้วยความสับสน ก่อนจะตัดสินใจโทรหาลูกน้อง

“นายแทนไปบ้านหลังนั้นบ่อยแค่ไหน” เสียงจากดนัยยังคงมีอำนาจ แม้จะแฝงไปด้วยความหวาดระแวง

“ตอบสิวะ!” เสียงตะโกนก้องบ้าน เมื่อลูกน้องรายงานช้าเกินกว่าใจที่เขาอยากรู้ ฝีเท้าของคนใจร้อนเดินวนไปมาไม่เป็นสุข

“ผะ..ผมเห็นรถคันนี้เข้าออกอาทิตย์ละครั้งได้ครับ แต่วันนี้ผมพึ่งเห็นทะเบียนว่าคล้ายกับทะเบียนแฟนคุณม่านครับ” เสียงคนรายงานติดๆ ขัดๆ ด้วยความกลัวอำนาจของเจ้านาย

“โธ่โว้ย! แล้วทำไมพวกมึงไม่รายงานกูให้เร็วกว่านี้ ไอ้พวกโง่ ปล่อยมาได้ไงหลายเดือน โดยไม่รายงานกู ไม่งั้นกูจะให้พวกมึงไปดักรอดูมันทำไม”

“ผมคิดว่าเป็นรถเพื่อนลูกสาวมัน คงไม่สำคัญอะไร เลยไม่ได้สนใจครับ”

“พวกมึงทำงานกันยังไง แล้วทีนี้รู้หรือยังว่ามันสำคัญขนาดที่สามารถลากกูเข้าคุกได้เลย ไอ้พวกโง่” ดนัยวางสายหันมาคิดแก้ไขสถานการณ์ทันที เหงื่อที่ไหลทั่วใบหน้า นึกถึงภาพเรื่องราวครั้งเก่าก่อนที่มีนายดินเป็นส่วนเกี่ยวข้องขึ้นมาทันที แทบเป็นไปไม่ได้ที่สองคนนั้นจะรู้จักกันถึงขั้นไปมาหาสู่แบบนั้น ก่อนเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะ

“นายครับจะให้ผมเก็บมันเดี๋ยวนี้เลยไหม” ข้อเสนอของลูกน้องยิ่งทำให้เขาโกรธเป็นทวีคูณ จนถึงกับใช้แรงทุบโต๊ะเสียงดังสนั่น

“ตอนนี้ตำรวจจี้ตูดกูอยู่ คดีเก่าที่กูส่งให้พวกมึงไปเผาโรงงาน ไอ้วัลลภมันยังจ่อตูดกูอยู่นี่ มึงยังจะให้กูหาเหาใส่หัวอีกหรือ ขืนกูทำตามที่พวกมึงบอก พรุ่งนี้ตำรวจได้ถึงหน้าบ้านกูแน่ ไอ้พวกโง่ มึงจับตาดูมันไว้ก็พอ และไปสืบมา ว่านายแทนไปบ้านนั้นทำไม หากไม่ชอบมาพากล กูก็ไม่เอามันไว้ให้ทิ่มแทงกูทีหลังหรอก” ดนัยเหมือนคนสติแตกที่ยังไม่สามารถคิดหาทางแก้ปัญหานี้ได้ เขาไม่สามารถจับต้นชนปลายอะไรได้เลย ได้แต่หวังว่าในอดีตนั้นแทนคุณยังเด็กพอที่จะจำอะไรไม่ได้

“ไอ้ดิน กูหวังว่ามึงจะจำที่มึงเคยพูดกับกูได้ ถ้าไม่อย่างนั้น กูก็คงไม่เอาไว้อย่างแน่นอน” ชายชรากำมือแน่น นายดินเพียงคนเดียวอาจเอาเขาเข้าคุกได้หลายข้อหาเลยทีเดียว เป็นหนามที่จะหันมาแทงเขาได้ทุกเวลา เป็นตอที่ควรถอนออกเพื่อให้ทางเดินของเขานั้นเรียบเดินได้สะดวก ใบหน้าครุ่นคิดของดนัยนั้นดูมุ่งมั่นน่ากลัวกว่าวันไหนๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลิขิตรัก ในกรงแค้น