“พวกมึงหลบไปอยู่ที่ไหนสักพักแล้วกัน มีไรกูจะติดต่อไปเอง” ดนัยโยนเงินก้อนใหญ่ให้ลูกน้องสองคน หลังจากทำภารกิจสำคัญสำเร็จเป็นที่น่าพอใจสำหรับดนัยอย่างมาก ก่อนจะมีคำชมมากมายโปรยเอ่ยตามมา สร้างความภูมิใจให้ทั้งสองได้พออมยิ้มบ้าง ก่อนจะเหลือบสายตามองเงินก้อนโต ที่พุ่งถลาเข้ามากองตรงหน้า นับว่าค่าตอบแทนครั้งนี้คุ้มค่าที่ยอมเสี่ยงชีวิตแลกมา
“แล้วทำไมนายถึงเปลี่ยนใจเก็บมัน” นายเต็มค่อยๆ ลูบไร้ไปที่เงินอย่างกระหาย แสยะยิ้มออกมาแล้วหันส่งสายตาให้ไอ้จ้อยลูกน้องของตัวเอง
“กูมาคิดๆ ดูแล้ว ปล่อยให้มันอยู่ แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร รังแต่จะทำให้กูมีปัญหา ตอนนี้ตำรวจคงกรวดหนักน่าดู พวกมึงรีบเอาเงินนี้ไปกบดานที่ไหนสักแห่ง นี่มือถือ กูซื้อและเปลี่ยนเบอร์ใหม่ให้เรียบร้อยแล้ว” ชายชราวางมือถือ แล้วไสกับไปพื้นโต๊ะ มือแข็งกระด้างรอคว้าเอาไว้อย่างเต็มใจ
“มีอะไรกันหรือคะคุณพ่อ” ชายสองคนกุลีกุจอกวาดเงินและมือถือเข้ากระเป๋า พลางดึงผ้าที่ผูกไว้ที่คอขึ้นมาปิดอำพรางใบหน้า พร้อมก้มหลบหญิงสาวด้วยอาการหวาดผวาเสมือนไม่ต้องการให้ใครจำหน้าได้
“อ่อ ไม่มีอะไร ไอ้สองคนนี้แค่จับโจรที่โกดังเราได้ พ่อก็แค่ให้สินน้ำใจตอบแทน” ชายชราหันมายิ้มให้ลูกสาวเสมอเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“พวกมึงไปได้แล้ว แล้วจำคำที่กูพูดไว้ดีๆ” เมื่อจบประโยคคำสั่ง สองลูกน้องกระวีกระวาดออกไปโดยไม่หันมองหน้าหญิงสาวที่ยืนงุนงงสงสัยอยู่
“ทำไมคุณพ่อต้องดุขนาดนั้นด้วยล่ะคะ ดูสิสองคนนั้นกลัวจนลนลานไปหมด พูดจาดีดีกันก็ได้นี่คะ” ม่านฟ้าเดินเข้ามาหาบิดา พลางมองตามลูกน้องของบิดาที่วิ่งลับตาไป ก่อนที่ชายชราจะรีบหันเหความสนใจลูกสาว
“ลูกมาก็ดีแล้ว พ่อมีเรื่องจะถามหน่อย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลิขิตรัก ในกรงแค้น