ลิขิตรัก ในกรงแค้น นิยาย บท 75

ตำรวจหลายนายเดินทางเข้าไปสอบถามข้อมูลจากพริมและทีภพผู้ซึ่งเป็นคนไปเจอตัวผู้เสียชีวิตเป็นรายแรกๆ ในงานศพนายดินคืนสุดท้าย ก่อนจะหันมาสอบปากคำของนันทิชาเช่นเดียวกัน เธอน้ำตาคลอให้รายละเอียดเท่าที่ทราบข้อมูล แม้ว่าตำรวจแทบจะไม่ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากใครเลยก็ตาม อีกทั้งนายดินไม่เคยมีศัตรูที่ไหนทำให้ยากต่อการติดตามคดี แต่นั่นก็เป็นเรื่องของคดีที่ตำรวจต้องดำเนินการต่อไป เธอจัดพิธีศพอย่างเรียบง่ายตามฐานะ ผู้ร่วมงานจำนวนน้อยนิดล้วนแล้วแต่เป็นเพื่อนที่ทำงานที่ร้านและเพื่อนสนิทอย่างลุงทิศ

“เสียใจด้วยนะทิชา” ม่านฟ้าปล่อยมือจากแทนคุณแล้วเดินเข้ามากุมมือนันทิชาแทน สีหน้าและแววตาแสดงความเป็นห่วงด้วยใจจริง

“ขอบคุณค่ะ คุณม่าน” หญิงสาวที่ตาบวมช้ำยกมือไหว้ขอบคุณ ด้วยเสียงสั่นเครือ แทนคุณมองนันทิชาอย่างเงียบๆ ไม่มีคำปลอบใจหลุดออกมาจากปากเขาแม้แต่คำเดียว ม่านฟ้าเบี่ยงมือมาเกาะแขนแทนคุณเช่นเดิมแล้วพากันเข้าไปเคารพศพ หากแต่นาทีนี้ใครจะรู้ว่าหัวใจของชายหนุ่มถูกบีบด้วยคำว่า “คนที่เหมาะสม คือม่านฟ้า” หญิงสาวที่อยู่ข้างกายเขาในเวลานี้คู่ควรที่สุดแล้ว แทนคุณได้แต่พยายามข่มใจเอาไว้ กดมันไว้ เหยียบมันไว้ ไม่ให้ความรู้สึกบ้าๆ นั้นโผล่ทะลักล้นออกมาจนต้องทำให้เขารู้สึกผิด

“ไหวไหมทิชา ไปนั่งตรงนั้นดีกว่า เดี๋ยวผมพาไป” ทีภพหันไปประคองหญิงสาว แล้วพาเธอเดินผ่านหน้าแทนคุณไปนั่งพัก ร่างบางเดินเหม่อลอยไปตามคำของทีภพอย่างว่าง่าย หากแต่เพียงครู่เดียวเท่านั้น สายตาที่นันทิชามองทีภพแสดงถึงความหมายบางอย่าง ทำให้แทนคุณอ่อนแอเกินกว่าจะทนมองต่อไปได้ จึงได้เบือนหน้าหนีไปทางอื่น

"พริมคุณเป็นอะไร ตาแดงแบบนี้แอบไปร้องไห้มาใช่ไหม” ทีภพเดินละออกมาจากนันทิชาตรงดิ่งเข้าไปหาพริม หลังจากเธอหายไปเข้าห้องน้ำมาพักใหญ่ ก่อนที่หญิงร่างอวบจะก้มหน้าหลบตาชายหนุ่ม ไม่พูดไม่จา พลางใช้มือเช็ดน้ำตาไปมา

“ไหนคุณตกลงกับผมว่าคุณจะไม่ร้องไห้ ให้ทิชาเห็นอีกคนไง “ชายหนุ่มเข้ามากระซิบ

“ใครจะอดทนไหวกันคะคุณที ดูทิชาสิ ต่อไปนี้ทิชาจะอยู่อย่างไรคะ พริมกลั้นไม่ไหว พริมถึงไปห้องน้ำไงคะ พริมร้องไห้ให้ทิชาเห็นที่ไหนกันคะ” พริมหันดวงตาช้ำกลับมาเถียงข้างๆ คูๆ เช่นเดิม ก่อนที่ทีภพจะถอนหายใจยาวเหยียด แล้วรีบหยิบผ้าเช็ดหน้ายื่นให้เธอเพื่อซับน้ำตา

“ดีขึ้นไหมคะ คราวนี้ก็ไม่มีใครรู้หรอกค่ะ ว่าพริมไปร้องไห้มา” ทีภพปล่อยยิ้มให้ความแสบของหญิงสาว ร่างอวบปรายตามองนันทิชาอยู่ไกลๆ เข้าใจว่าช่วยอะไรไม่ได้มากกว่านี้ หวังว่าวันเวลาจะช่วยเยียวยาให้เพื่อนรักกลับมาเข้มแข็งดังเดิม

เมื่อได้เวลาฟังพระสวด ผู้ร่วมงานทุกคนเข้ามาพร้อมในศาลา เสียงสวดกินเวลาไปได้ประมาณหนึ่ง ตามพิธีทางศาสนา บรรยากาศอยู่ในอารมณ์โศกเศร้า ลุงทิศนั่งน้ำตาคลอมองรูปนายดินไม่ละสายตาไปไหน ก่อนจะหันกลับมาจับมือนันทิชาไว้อย่างแนบแน่น หญิงสาวหันไปมองคนชราที่นั่งอยู่ด้านข้างพลางปล่อยน้ำตาออกมาไม่ขาดสาย สมองหวนนึกถึงบิดาอย่างอัตโนมัติ มือบางบีบมือชายชรากลับอย่างเจ็บปวดสุดหัวใจ

“อดทนนะลูก หนูต้องผ่านมันไปให้ได้” ชายชราเอี่ยวตัวกระซิบเพื่อให้กำลังใจเด็กสาว ก่อนที่เสียงสวดมนต์จะจบลง แขกเริ่มทยอยเตรียมตัวกลับกันทีละคนสองคน

“คุณทีคะ ทิชาขอบคุณมากนะคะ สำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง” ดวงตาเลื่อนลอยยังคงนั่งมองรูปภาพหน้าศพของบิดา ก่อนจะหันมายิ้มด้วยน้ำตาให้กับทีภพ ที่คอยดูแลอยู่ใกล้ๆ ไม่ห่างไปไหน หญิงสาวยกมือไหว้ชายหนุ่ม แววตายังคงมองเขาด้วยความประทับใจ ก่อนที่ทีภพจะค่อยๆ จับมือหญิงสาวลง

“ผมอยากกลับบ้านแล้ว พระสวดจบแล้วไปกันเถอะ” แทนคุณหันไปบอกกับม่านฟ้าด้วยเสียงแข็งทื่อ คำพูดประชดของแทนคุณทำให้ทีภพหันไปมองเขาครู่หนึ่ง หากแต่ไม่อยากใส่ใจคนนิสัยเสีย ก่อนจะหันกลับมาหานันทิชา

“เรื่องเล็กน้อยน่ะ เราทุกคนเห็นใจคุณนะ ขอให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้ ผมขอให้คุณเข้มแข็งโดยเร็ว” นันทิชายิ้มพยักหน้าให้กับความใจดีของทีภพ พริมเดินเข้ามาสวมกอดเพื่อนอย่างเห็นใจ ร่างอวบอยู่ข้างเธอมาตลอดช่วงชีวิตที่ลำบากด้วยกัน เธอย่อมทราบดี ว่าไม่มีคำปลอบโยนใดจะทดแทนสิ่งที่นันทิชาสูญเสียไปได้ หวังเพียงว่าเวลาจะช่วยให้นันทิชากลับมาเข้มแข็งได้ดังเดิม

แทนคุณเดินเข้ามายังเจดีย์บรรจุอัฐิเล็กๆ ของนายดินที่พึ่งเสร็จพิธีศพไปหมาดๆ พร้อมกับดอกไม้หนึ่งดอกในมือ เขาเลือกมาในยามที่ไร้ผู้คน สองเท้าก้าวเดินมาหยุดอยู่หน้าเจดีย์ใหม่เอี่ยม สายตาค่อยๆ เลื่อนมองพินิจรูปเจ้าของที่แปะติดไว้

“ที่ผมมาในวันนี้ ผมจะมาบอกว่าเรื่องที่ราวเกิดขึ้นทั้งหมด ผมจะถือว่าคุณได้ชดใช้ให้ครอบครัวผมแล้วกัน เสียดายที่มันไม่ใช่น้ำมือผม แต่เอาเถอะเมื่อคุณตายไปแล้ว ผมก็หมดสนุกที่จะเอาคืนคุณ” ชายหนุ่มที่อยู่ในชุดสีดำยืนจ้องรูปของชายชรา หากแต่ภาพของบิดาและมารดาพลันแล่นเข้ามาในสมองเพียงแวบเดียวเท่านั้น น้ำตาพลันไหลออกมาช้าๆ ด้วยความเจ็บปวด เขากัดกรามแน่น ก่อนจะปาดน้ำตา แล้วสูดลมหายใจเข้าจนสุด

“ต่อไปนี้ทิชาจะปลอดภัย ผมจะไม่มีวันทำร้ายเธอ ขออย่าได้ห่วงอะไร แต่อย่าหวังนะว่าผมจะเอ่ยคำขอโทษสำหรับสิ่งที่ผมทำกับคุณ และอย่าลืมไปขอโทษพ่อกับแม่ของผมซะ เพราะคุณคนเดียว พวกท่านถึงได้ด่วนจากผมไป” แทนคุณพูดประโยคสุดท้ายจบจึงก้มวางดอกไม้ในมือลง แล้วหันหน้าเดินออกโดยไม่หันกลับไปมองอีก

“ทิชาขอบคุณ คุณแทนมากนะคะ ที่ช่วยดูแลงานทั้งหมดให้” หญิงสาวเดินเข้ามายกมือไหว้ ขณะที่แทนคุณเดินสวนออกมาจากวัดเพื่อจะขึ้นรถกลับ เขามีท่าทีตกใจเล็กน้อยเมื่อเจอนันทิชาที่กำลังถือพวงมาลัยเพื่อเข้าไปหาบิดาอย่างกะทันหัน

“เอ่อ...คือ...ไม่เป็นไรเรื่องเล็กน้อย” ชายหนุ่มมองเธอ อยากจะพูดปลอบใจหลายอย่าง แต่สมองสั่งการให้ตัดใจแล้ว เดินขึ้นรถไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลิขิตรัก ในกรงแค้น