ตอนที่ 17 กลับบ้านเรากันเถอะ
วิเวียนกระแอมไอและพยายามคุมน้ำเสียงให้ปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอไม่อยากให้ฟินนิครู้เรื่องที่เกิดขึ้น "อ๋อ ฉันไม่ได้อยู่ทานกับพวกเขาจนเสร็จน่ะค่ะ ฉันเป็นหวัดเลยขอตัวออกมาก่อน " ปลายสายอีกด้าน ฟินนิคไม่ได้ตอบกลับในทันที เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ใคร่ครวญอยู่ว่าควรจะถามต่อหรือเปล่า "ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน" สุดท้ายเขาตัดสินใจที่จะปล่อยผ่านเรื่องนั้นและไม่กดดันอะไรเธออีก "อ่อ ฉันอยู่ที่บ้านอีฟส์ค่ะ ทำไมคุณไม่หาอะไรทานก่อนล่ะคะ แล้วช่วยบอกมอลลี่ให้เตรียมซุปไว้หน่อยได้ไหมคะ ฉันจะทานตอนกลับถึงบ้าน" ปลายสายเงียบอีกครั้ง วิเวียนดูโทรศัพท์แล้วพบว่าเครื่องดับอัตโนมัติ เพราะแบตหมด บ้าเอ๊ย ทำไมต้องเป็นตอนนี้ แล้วทีนี้ฉันจะกลับยังไง เธอพยายามกดเปิดเครื่องอีกครั้งแต่ไม่สำเร็จ หญิงสาวกระทืบเท้าอย่างหัวเสียและมองไปรอบๆ อย่างหมดอาลัยตายอยาก ขณะพยายามนึกถึงตำแหน่งของจุดจอดรถโดยสารประจำทางที่อยู่ใกล้ที่สุด แต่ไม่นาน เธอก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ข้อเท้า รองเท้าส้นสูงกัดเธอจนเป็นแผลพุพองและมันก็เจ็บสุดๆ วิเวียนร้องโอดโอยและส่ายหน้าอย่างอ่อนแรง มันช่างเป็นวันซวยของเธอจริงๆ ละแวกคฤหาสน์ของอีฟส์นั้นกว้างใหญ่และเธอพบว่าตัวเองเดินวนอยู่ที่เดิม หลังจากเดินอยู่หลายนาที คืนนั้นอากาศเย็นขึ้นเรื่อยๆ ลมหนาวพัดผ่านร่างของเธอ วิเวียนรู้สึกหนาวสั่นจนถึงกระดูก ได้แต่ดึงเสื้อสเวตเตอร์ไหมพรมให้กระชับกับร่างผอมบางของเธอขณะที่เดินต่อไป ตอนที่เธอกำลังจะเลี้ยวไปยังถนนอีกสาย แสงไฟสว่างแวบเข้าตาของเธอ เธอเอียงคอชะเง้อมองว่าใช่รถแท็กซี่หรือเปล่า แต่ต้องผิดหวัง เพราะมันเป็นรถส่วนตัว-สีดำคันหนึ่ง ใช่สิ จะหวังอะไรได้อีก แท็กซี่ในย่านหรูแบบนี้เนี่ยนะ วิเวียนขมวดคิ้ว แล้วมองรถที่แล่นชะลอความเร็วมาทางเธอให้ชัดๆ เดี๋ยวนะ...รถคันนี้ดูคุ้นตาจัง... รถเคลื่อนเข้ามาใกล้ แล้วหยุดจอดตรงหน้าเธอในที่สุด ประตูเปิดออก แล้วรางล้อก็ยื่นลงจากรถพร้อมกับชายหนุ่มทรงเสน่ห์คนหนึ่งบนรถวีลแชร์ ไม่ใช่ใครนอกจากฟินนิค ไฟรถส่องแสงจ้ามากท่ามกลางความมืด จนทำให้วิเวียนเห็นหน้าเขาไม่ชัด แต่จากโครงร่างและสันกรามคมชัดของเขาแล้ว มองปราดเดียววิเวียนก็สามารถบอกได้เลยว่าเป็นเขาอย่างแน่นอน เขาคือคนที่พบเธอในช่วงเวลาที่ย่ำแย่ที่สุดในชีวิตของเธอเสมอ แม้ว่าเธอจะไม่ได้คาดหวังให้เขามาหาในเวลาแบบนี้ก็ตาม รถวีลแชร์ของเขามาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ ก่อนที่รอยยิ้มจะปรากฏบนใบหน้าของเขาขณะมองขึ้นมาที่เธอ เธอดูตื่นๆ แต่ก็น่ารักอยู่ดี "ทำไม คุณไม่ดีใจเหรอที่เจอผม" ฟินนิคพูดหยอกด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน วิเวียนเลิกคิ้วแล้วฉีกยิ้ม "แน่นอนสิคะ ฉันดีใจที่เจอคุณ" มันคือความจริง เธอดีใจที่เจอเขา ฟินนิคอยู่กับเธอเมื่อใดก็ตามที่เธอลำบาก เขาเป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงให้กับเธอเสมอ พอเห็นรอยยิ้มปลื้มปริ่มบนใบหน้าของเธอ ฟินนิคก็ยิ้มหน้าบานด้วยความยินดี "ไปกันเถอะ" เขากวักมือเรียก วิเวียนพยักหน้าอย่างเบิกบานแล้วเดินตามเขาไปที่รถ เธอลืมความเจ็บปวดที่ข้อเท้าไปเสียสนิทระหว่างเดินไปหาเขา แต่แผลพุพองเกิดแตกขึ้นมา เธอจึงหยุดเดินทันที พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา "เป็นอะไรไป" ฟินนิครู้ได้ว่าเธอสะดุ้งอย่างเจ็บปวด และเห็นเธอดูเท้าของตัวเองง่วนอยู่ สายตาของเขามองตามเธอและไปหยุดอยู่ที่ข้อเท้าของหญิงสาว คิ้วฟินนิคขมวดมุ่นเมื่อเห็นรอยเปื้อนเลือดสีแดง "ไม่มีอะไรค่ะ แค่รองเท้าส้นสูงน่ะ พอถึงบ้านฉันก็แค่ต้องปิดพลาสเตอร์" แต่ก่อนที่วิเวียนจะเดินต่อ เขาโน้มตัวลงไปจับข้อเท้าเธอด้วยสองมือของเขา "ฉันไม่เป็นไรหรอกฟินนิค..." วิเวียนพลันรู้สึกเกร็งขณะความรู้สึกร้อนผ่าวแผ่ซ่านไปทั่วแก้มอมชมพูของเธอ นิ้วของเขาสัมผัสผิวของเธอขณะที่เขายกขาซ้ายของหญิงสาวขึ้นมาดูใกล้ๆ ฟินนิคตรวจดูแผลของเธออย่างละเอียด จากนั้นคิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันเป็นปม "เลือดออกนี่" วิเวียนอ้าปากค้างเพราะสัมผัสของเขาทำให้เธอจั๊กจี้ เธอไม่แน่ใจว่าตัวเองขนลุกเพราะความเจ็บปวดหรือสัมผัสที่เหมือนไฟช็อตของเขากันแน่ "ไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะ" เธอมุบมิบ วิเวียนดูคล้ายจะเปล่งถ้อยคำออกมาได้ไม่ชัดเจน เลือดของเธอเดือดพล่าน พร้อมกับหัวใจที่เต้นเร็วแรงขึ้น แต่ฟินนิคไม่ได้รับรู้สิ่งเหล่านั้นเลย-เพราะเขาเป็นห่วงเธอมาก เขาถอดรองเท้าส้นสูงของเธอออกโดยไม่ลังเล ก่อนจะออกแรงรั้งเอวเธอเข้าหา ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนวิเวียนไม่มีกระทั่งเวลาให้ตอบโต้ เธอร้องออกมา และสิ่งที่เธอรับรู้ต่อมาก็คือเธออยู่ในวงแขนของฟินนิค นั่งอยู่บนตักของเขาแล้ว ความจริง เธออยู่ใกล้เขาจนรู้สึกได้ถึงไอร้อนที่แผ่ออกมาจากร่างกายของเขาท่ามกลางค่ำคืนอันหนาวเหน็บ "ฟินนิค" เธอมองหน้าเขาอย่างงงๆ พอสบตากัน เธอรีบเบือนหน้าหนีด้วยความประหม่า แต่ฟินนิคไม่ใส่ใจ เขาเลี้ยวรถวีลแชร์ไปที่รถแล้วเอ่ยว่า "กลับบ้านกันเถอะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลุ้นรักนางสาวซินเดอเรลล่า
มาต่อเร็วๆนะคะ สนุกมากก...