ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 30

บทที่ 30แต่งงานกับผมนะ

ถ้ารู้อย่างนี้เธอคงไม่หนีไปหรอก

เธอได้แต่โทษตัวเองอยู่ในใจ เธอรีบก้าวผ่านข้าวของที่กระจัดกระจายไป มาหยุดอยู่ตรงหน้าของเสี่ยวเป่า รีบอุ้มเขาขึ้นมาจากพื้น

ร่างกายที่นุ่มนิ่มของเขายังคงเดิม แต่ตัวเย็นจนน่าตกใจ

เจียงสื้อสื้อเพิ่งรู้ตัวว่าแอร์ในห้องถูกปรับไว้เย็นมาก

จิ้นเฟิงเฉินนั้นรู้ตั้งแต่แรกแล้ว พอเข้ามาถึงเขาก็รีบไปปิดแอร์ก่อนเลย

เจียงสื้อสื้อรีบอุ้มเสี่ยวเป่าขึ้นเตียง เธอทั้งตรวจดูร่างกายของเขาว่าได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า แล้วยังรีบเอาผ้าห่มมาคลุมร่างกายอันน้อยนิดของเขา

เสี่ยวเป่าถูกทำให้กลิ้งไปมาอยู่ในอ้อมแขนของเจียงสื้อสื้อ

พอทำทุกอย่างเสร็จแล้ว เจียงสื้อสื้อจึงได้นั่งลงข้างๆ ของเสี่ยวเป่า ใช้มือไปสัมผัสแก้มเขาเบาๆ

“เด็กดี หนูเป็นยังไงบ้าง? ยังจำน้าได้ไหม? นี่น้าสื้อสื้อเองนะจำได้ไหม?”

เสี่ยวเป่าไม่ได้ตอบ แต่ขนตากระตุกไปสองที แต่อย่าน้อยก็มีการตอบสนองแล้ว

เจียงสื้อสื้อกดความกระวนกระวายในใจของตัวเองลงไป ยื่นมือไปอุ้มเขามานั่งไว้ที่ตรงตัก แล้วพูดคุยกับเขาต่อ “หนูเป็นอะไรไป? พูดกับน้าสื้อสื้อหน่อยได้ไหม?

เสี่ยวเป่าทำตาโตแล้วมองมาที่เธอ แล้วดวงตาของเขาก็เริ่มแดง

เจียงสื้อสื้อพอเห็นอย่างนั้น ก็ร้อนใจขึ้นมา “ร้องไห้ทำไมฮือ? เป็นเพราะว่าน้าทิ้งหนูไว้ที่ภัตตาคารแล้วหนีมาคนเดียว หนูถึงได้ทุกข์ใจแบบนี้ใช่ไหม? น้าขอโทษนะ”

เสี่ยวเป่าแบะปาก แล้วเอาหัวซุกเข้าไปในอ้อมกอดของเจียงสื้อสื้อ จากนั้นเขาก็เริ่มร้องไห้ฟูมฟายเป็นการใหญ่

เจียงสื้อสื้อตกใจเป็นอย่างมาก จึงรีบกอดเขาเอาไว้ แล้วปลอบใจเขาอย่างอ่อนโยน “โอ๋ ไม่ร้องนะ น้าขอโทษ น้าขอโทษ”

จิ้นเฟิงเฉินยืนมองอยู่ข้างๆ เขาไม่ได้ห้าม เพียงแค่มองเสี่ยวเป่าด้วยสายตาที่พูดอะไรไม่ออก

กับลูกชายของตัวเองเขาก็รู้จักเขาดี

ถึงแม้จะเอาแต่ใจบ้างในบางครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยงอแงโดยไม่มีเหตุผล คืนนี้ที่เขาเป็นแบบนี้มึนต้องมีสาเหตุแน่ๆ

ตอนที่เขาไปหาเจียงสื้อสื้อยังดีๆ อยู่เลย ปัญหาน่าจะเกิดตอนช่วงที่จิ้นเฟิงเหราพาเขากลับมาแน่ๆ

อาศัยตอนที่เจียงสื้อสื้อกำลังกล่อมเสี่ยวเป่าอยู่ จิ้นเฟิงเฉินก็ได้เปิดประตูออกไป

จิ้นเฟิงเหรากับเซิ่นมู่ป๋ายและคนอื่นๆ ได้ยืนรออยู่ข้างนอกแล้ว พอเห็นจิ้นเฟิงเฉินออกมา ก็รีบถามไปว่า “เป็นยังบ้างครับ? เสี่ยวเป่าบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ? ต้องให้ตามหมอมาไหมครับ?”

จิ้นเฟิงเฉินยื่นมือไปปิดประตู ทิ้งเจียงสื้อสื้อกับเสี่ยวเป่าเอาไว้ข้างใน แล้วพูดว่า “ไม่ต้องรีบ ไม่เป็นไรไม่แล้ว”

จิ้นเฟิงเหราถอนหายใจออกมายาวๆ หัวใจของเขาได้กลับมาอยู่ที่เดิมแล้ว จากนั้น เขาก็ได้ยินพี่ชายถามว่า “ตอนที่กลับมา แกได้พูดอะไรกับเสี่ยวเป่าหรือเปล่า?”

จิ้นเฟิงเหราทำหน้าเลิ่กลั่ก “อ๋อ ไม่นะครับ ไม่ได้พูดอะไรเลย”

“คิดดีๆ แล้วตอบคำถามฉันมาอีกรอบ”

จิ้นเฟิงเฉินทำเสียงเหมือนกำลังตักเตือนเขา

จิ้นเฟิงเหราใจเต้นรัวอีกครั้ง แล้วตอบอย่างกล้าๆ กลัวๆ ว่า “คือ…ผมไม่ได้พูดอะไรจริงๆ นะ คืนนี้พอพี่ไปผมก็พาเขากลับมาเลย ระหว่างทางก็แค่พูดคุยกับเขานิดหน่อย”

“คุยเรื่องอะไร?” จิ้นเฟิงเหราถามต่อ

จิ้นเฟิงเหราคิ้วชนกัน แล้วคิดย้อนไป “ก็ไม่มีอะไรนะครับ ผมแค่ถามเขาว่า เกิดอะไรขึ้น จากนั้นเสี่ยวเป่าก็ได้เล่าเรื่องที่คุณเจียงหนีไปให้ฟัง แล้วผมก็พูดขึ้นคำหนึ่งว่า เหรอ? เธอทิ้งพวกหนูไปแล้วเหรอ? แล้วตอนนี้พ่อหนูไปตามเธออยู่ใช่ไหม……”

พอพูดถึงตรงนี้คุณชายรองก็ต้องชะงักลง เขาเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว เหงื่อเริ่มไหลออกมา

เซิ่นมู่ป๋ายเหลือบมองมาที่เขา แล้วพูดไปว่า “วุ่นวายอยู่ทั้งคืน ที่แท้ปัญหามันก็เกิดจากคุณนี่เอง”

จิ้นเฟิงเฉินหรี่ตา แล้วใช้สายตาที่น่ากลัวมากๆ มองมาที่น้องชาย

จิ้นเฟิงเหราขนลุกไปหมดทั้งตัว จึงรีบอธิบายไปว่า “พี่ครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะ ตอนนั้นผมแค่พลั้งปากไปผม……ไม่คิดว่าแค่คำพูดเดียวจะทำร้ายเสี่ยวเป่าได้มากขนาดนี้……”

จิ้นเฟิงเฉินถีบเขาไปทีหนึ่งอย่างไร้ความปรานี แล้วตะคอกไป “ไปคุกเข่าสำนึกผิดที่หน้าบรรพบุรุษเลย ฟ้าไม่สว่างก็ไม่ต้องลุกขึ้น!”

พูดจบเขาก็หันหลังแล้วเปิดประตูออก โดยไม่ให้โอกาสน้องชายได้แก้ตัวเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!