เหลียงซินเวยกลับมาถึงบ้าน เพิ่งจะเดินเข้าประตู โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นพอดี
คือผู้จัดการ
เธอรับสาย "ค่ะผู้จัดการ"
"เวยเวย เธออยู่ไหน อีกเดี๋ยวก็ต้องขึ้นเวทีแล้ว"
เหลียงซินเวยเพิ่งนึกออกว่าเธอต้องขึ้นเวทีเป็นตัวแทนร้านอาหาร แต่ตัวเธอกลับมาบ้านแล้ว
"ผู้จัดการคะ ฉันไม่สบายก็เลยกลับมาบ้านก่อนค่ะ ให้คนอื่นขึ้นแทนฉันเถอะนะคะ"
"เธอกลับบ้านทำไมไม่บอกฉันสักคำ"
"ขอโทษนะคะ"
นอกจากคำขอโทษแล้ว เหลียงซินเวยก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอธิบายอย่างไรดี
โชคดีที่ผู้จัดการเป็นคนเห็นอกเห็นใจคนอื่น ถอนหายใจ พูดว่า "ช่างเถอะ เธอพักผ่อนเถอะ ฉันจะหาคนอื่นไปรับหน้าแทน"
"ขอบคุณค่ะผู้จัดการ"
หลังจากวางสาย เธอก็โยนโทรศัพท์มือถือลงบนโซฟา นั่งลง เอนหลังพิงโซฟา เงยหน้ามองเพดาน
อานอานได้ยินเสียง ก็เปิดประตูห้อง โผล่ศีรษะออกมา มองเห็นเหลียงซินเวยที่นั่งอยู่ในห้องรับแขก ก็เดินไปหาเธอทันที
"แม่ครับ ทำไมแม่กลับมาเร็วขนาดนี้ล่ะครับ"
เหลียงซินเวยหันไปมอง สายตาอ่อนโยนมองที่ใบหน้าอ่อนเยาว์บอบบางของเขา ริมฝีปากแดงโค้ง "น่าเบื่อเกินไป ก็เลยกลับบ้านก่อนจ้ะ"
"แล้วลุงฟางล่ะครับ" อานอานนั่งลงข้างๆเธอ ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เมื่อพูดถึงฟางยู่เชิน มุมปากเหลียงซินเวยก็ค้างแข็งทื่อทันที เธอเม้มริมฝีปาก นั่งหลังตรง เอาอานอานเข้ามาในอ้อมกอด พูดเบาๆว่า "ลูกชอบลุงฟางมากเลยเหรอ"
"อืม ผมชอบมากครับ" อานอานพยักหน้าแรงๆ
เหลียงซินเวยลูบศีรษะเขาอย่างอ่อนโยน มุมปากยิ้มอย่างจนปัญญา พึมพำเบาๆว่า "พวกเราสองคนแม่ลูกนี่ตาถึงเหมือนกันเลยนะ"
เสียงของเธอเบาไปหน่อย อานอานฟังไม่ชัด จึงขมวดคิ้ว "แม่ครับ แม่พูดอะไรนะ"
"ไม่มีอะไรจ้ะ" เหลียงซินเวยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เก็บความคิดทุกอย่าง ยิ้มพลางถามว่า "ทำการบ้านเสร็จแล้วเหรอ"
"ทำเสร็จแล้วครับ"
"เก่งจริงๆ" เหลียงซินเวยชม ใจลอยเล็กน้อย ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี
"แม่ครับ แม่มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ" อานอานเป็นเด็กที่ละเอียดรอบคอบมาตั้งแต่เด็ก เขามองออกถึงความผิดปกติจากสีหน้าท่าทางเธอ
เหลียงซินเวยส่ายหน้า "ไม่มีอะไรนี่"
เธอลูบหน้าอานอานๆ พูดต่อว่า "แม่ไม่มีเรื่องอะไร ไม่ต้องห่วงนะ"
อานอานฉีกยิ้ม "งั้นก็ดีครับ"
เหลียงซินเวยยิ้ม "ในเมื่อไม่มีอะไร งั้นลูกรีบไปอาบน้ำ เข้านอนแต่หัวค่ำ พรุ่งนี้ยังต้องไปโรงเรียนอีกนะจ๊ะ"
"ครับ"
มองอานอานเดินเข้าห้องไป รอยยิ้มบนใบหน้าเหลียงซินเวยก็ค่อยๆจางหายไป ถอนหายใจอย่างแรง
เธอคิดไม่ถึงว่าอานอานจะชอบฟางยู่เชิน
ที่ได้ยินจากปากของเขามากที่สุดก็คือ"ลุงฟาง" ไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจดี
......
วันต่อมา เรื่องการเกี่ยวดองของสองครอบครัวตระกูลฟางตระกูลเย่เป็นข่าวขึ้นมา ในนั้นยังมีเรื่องความรักความแค้นของฟางยู่เชิน เย่เสี่ยวอี้และผู้หญิงนิรนามสอดแทรกอยู่ด้วย
ในข่าวยังเขียนถึงผู้หญิงนิรนามคนนั้นว่าเป็นเมียน้อย บอกว่าเธอทำลายความสัมพันธ์ของฟางยู่เชินและเย่เสี่ยวอี้
การวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลก็มีแต่แง่ลบ ต่างด่าว่าผู้หญิงคนนี้
วินาทีที่มองเห็นข่าวนี้ ฟางยู่เชินโกรธมาก หยิบโทรศัพท์มือถือพุ่งมาที่ห้องอาหา ตะคอกใส่พ่อแม่ที่กำลังทานอาหารเช้าว่า "พวกคุณทำเกินไปแล้วจริงๆ!"
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาระเบิดอารมณ์ใส่พ่อกับแม่
ฟางเถิงและซ่างหยิงต่างอึ้งกันหมด
ผ่านไปสักพัก ฟางเถิงเป็นคนตั้งสติกลับมาได้ก่อน คิ้วขมวดแน่นเข้ามา "ยู่เชิน นี่ลูกกำลังทำอะไรเนี่ย"
"ผมบอกแล้วไงครับว่าเรื่องแต่งงานผมไม่มีทางตกลง แต่ทำไมพวกคุณยังส่งข่าวไปลงอีก" ฟางยู่เชินสะกดกลั้นไฟโกรธที่คุกรุ่นอยู่ภายในใจ เอ่ยถามพลางกัดฟันกรอด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!