ริมฝีปากสีแดงของเจียงสื้อสื้อค่อยๆ แย้มออก แล้วถามด้วยรอยยิ้มไปว่า "ฉันสวยมั้ยคะ?"
จิ้นเฟิงเฉินดึงสติกลับมา และเพิ่งรู้ตัวว่าเขานั้นจ้องมองเธอมาโดยตลอด เขาไอออกมาเบาๆ แล้วพูดเบาๆ ว่า "สวยครับ"
"ขอบคุณค่ะ" เจียงสื้อสื้อมองเขาอย่างตั้งอกตั้งใจ "คุณเองก็หล่อมากเหมือนกันค่ะ"
พอพูดจบ บรรยากาศก็เงียบลงทันที
ทั้งคู่จ้องตากัน จากนั้นก็ยิ้มออกมาพร้อมกัน
บรรยากาศผ่อนคลายลงทันที
"คุณมาที่นี่ได้ยังไงครับ?" จิ้นเฟิงเฉินถาม
"เพราะว่าสามีของฉันอยู่ที่นี่ค่ะ"
จิ้นเฟิงเฉินเข้าใจความหมายของเธอ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอึดอัดใจ "ขอโทษครับ ผมจำอะไรไม่ได้เลย"
รอยยิ้มของเจียงสื้อสื้อยังไม่ลดลง "ฉันจำคุณได้ก็พอแล้วค่ะ"
สามารถมองเห็นความรักที่ลึกซึ้งจากในแววตาของเธอ ชั่วขณะหนึ่งจิ้นเฟิงเฉินอยากให้ตัวเองสามารถนึกถึงอดีตขึ้นมาได้ทันที
"ผม......" จิ้นเฟิงเฉินเปิดปากอยากพูดอะไร แต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
เจียงสื้อสื้อยังคงยิ้มต่อไป "ไม่ต้องรู้สึกผิดต่อฉัน การที่คุณลืมฉันไปมันไม่ใช่ความผิดของคุณ แต่มันคือความผิดของเธอต่างหาก"
จิ้นเฟิงเฉินรู้ดีว่า "เธอ" ที่เธอพูดถึงนั้นคือใคร
เขาขมวดคิ้ว "แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เธอเป็นคนที่ช่วยผมไว้"
"ไม่!" เจียงสื้อสื้อส่ายหน้า "เธอไม่ได้ช่วยคุณ ด้วยความฉลาดของคุณ คุณก็สามารถเอาตัวรอดได้เองอยู่แล้ว"
พูดถึงตรงนี้ เธอก็หายใจเข้าลึกๆ "จะว่าไป ทั้งหมดนั้นเป็นความผิดของฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะช่วยฉัน คุณก็ไม่จำเป็นต้องไปกับเบอร์เกน และไม่ต้องถูกซ่างกวนหยวนพาตัวไป"
"คุณ......คุณเล่าให้ผมฟังได้มั้ยครับว่าตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง?" จิ้นเฟิงเฉินอยากรู้อดีตของตัวเอง ที่ผ่านมาเขาไม่เคยอยากรู้เท่านี้มาก่อนเลย
เจียงสื้อสื้อยิ้ม "ได้สิคะ ไม่ว่าคุณอยากรู้อะไร ฉันก็สามารถเล่าให้คุณฟังได้หมดเลย"
ว่าแล้ว เจียงสื้อสื้อก็เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิตาลีให้เขาฟัง
ส่วนจิ้นเฟิงเฉินนั้นก็รับฟังอย่างเงียบๆ
ในเวลาเดียวกัน ซ่างกวนหยวนที่ดูชุดเจ้าสาวครบแล้วก็ไม่ได้รู้สึกถูกใจชุดไหนเลย จึงได้เดินกลับไปที่ห้องลองชุด
แต่ก็ถูกซ่างหยิงมาขวางไว้ก่อน
"นี่หยวนหยวน เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน อยู่คุยกันก่อนได้มั้ย?"
ซ่างกวนหยวนขมวดคิ้ว เธอไม่ได้ชอบใจเลย
พูดตามตรง ตอนนั้นที่เข้าหาคนบ้านตระกูลฟาง ก็เพื่อต้องการเข้าใกล้เฟิงเฉินเท่านั้น
ตอนนี้เฟิงเฉินมาอยู่กับเธอแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องคบหากับคนบ้านตระกูลฟางอีก
ดังนั้น เธอจึงปฏิเสธไปทันที "ขอโทษนะคะ ฉันไม่ว่างค่ะ"
พูดจบ เธอก็เดินอ้อมซ่างหยิง แล้วตรงไปข้างหน้า
ไม่ว่ายังไง ซ่างหยิงก็อายุมากกว่า แต่กิริยาอันหยิ่งยโสที่เธอแสดงออกมา มันก็ชวนหงุดหงิดซะเหลือเกิน
ซ่างหยิงหรี่ตาลง หมุนตัว แล้วเดินดุ่มๆ ไปหาเธอ
ขวางเธอไว้อีกครั้ง แล้วยิ้มออกมาอย่างไม่ชอบใจ "นี่หยวนหยวน เธอนี่เปลี่ยนไปมากจริงๆ เลยนะ! เมื่อก่อนเธอไม่ได้เป็นแบบนี้เลย เอาแต่พูดว่าคุณน้าแบบนั้นคุณน้าแบบนี้ ทำไม? พอแย่งสามีของสื้อสื้อไปได้ เธอก็รู้สึกว่าตัวเองเก่งมากเลยใช่มั้ย?"
ซ่างกวนหยวนเอาแต่จ้องเธอ โดยที่ไม่พูดอะไร
"งั้นวันนี้ฉันจะเตือนสติเธอให้แล้วกัน"
ซ่างกวนหยวนเคลียร์ลำคอ แล้วพูดออกมาเสียงดังว่า "เฟิงเฉินเป็นสามีของสื้อสื้อ พวกเขามีลูกด้วยกันสองคน เดิมทีทั้งสี่คนอยู่กันอย่างมีความสุข เธอกลับไม่เลือกวิธีวาง ยาเฟิงเฉิน ทำให้เขาความจำเสื่อม จนจำสื้อสื้อกับลูกๆ ไม่ได้ เธอนั่นแหละเป็นตัวการที่ไปทำลายครอบครัวของพวกเขา!"
คนอื่นที่ได้ยินเข้า ต่างก็พากันทำหน้าสงสัย แล้วมองซ่างกวนหยวนด้วยสายตาที่ดูถูก
ซ่างกวนหยวนกำหมัดแน่น จ้องไปยังใบหน้าที่ได้ใจของซ่างหยิง ความโกรธปะทุขึ้นในใจ แต่เธอก็อดกลั้นมันเอาไว้
"คุณน้าคะ ที่คุณน้าพูดมามันไม่ถูกนะคะ ตอนนั้นสถานการณ์ของเฟิงเฉินนั้นเลวร้ายมาก ฉันเป็นคนที่ช่วยเขาไว้ ส่วนเรื่องที่เขาความจำเสื่อมนั้นมันเป็นอุบัติเหตุค่ะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!