ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 1370

สรุปบท บทที่ 1370 เปลี่ยนดำเป็นขาว: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

บทที่ 1370 เปลี่ยนดำเป็นขาว – ตอนที่ต้องอ่านของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

ตอนนี้ของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1370 เปลี่ยนดำเป็นขาว จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

"คุณย่า จะไปหาเขาทำไมเหรอครับ?"

ซ่างกวนเชียนดูดีว่าต่อให้เธอไปเจอจิ้นเฟิงเฉิน เรื่องราวก็ไม่สามารถแก้ไขได้หรอก แล้วทำไมต้องวุ่นวายด้วย

"ย่าจะไปถามต่อหน้าเขา ว่าเขาไม่มีจิตสำนึกแม้แต่นิดเดียวเลยเหรอ?"

หัวใจของเธอเต็มไปด้วยลมหายใจที่โกรธเคือง นายท่านหญิงซ่างกวนหลับตาลงและสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามกดความโกรธเอาไว้ "ยาไม่สามารถทนเห็นหยวนหยวนต้องได้รับความไม่เป็นธรรมแบบนี้ต่อหน้าต่อตาของตัวเองหรอกนะ"

"แต่ว่าคุณย่า คุณย่าคิดว่าตระกูลจิ้นจะยอมปล่อยหยวนหยวนไปอย่างนั้นเหรอครับ?"ซ่างกวนเชียนถาม

"ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?"นายท่านหญิงทะลึ่งตาใส่เขา "นอกจากว่าพวกเขาจะไม่สนใจชื่อเสียงของตระกูลจิ้นอีกต่อไปแล้ว"

"คุณย่า......"

ซ่างกวนเชียนยังคงอยากจะเกลี้ยกล่อมเธอ แต่ว่ายังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกเธอตัดบทซะก่อน "พอได้แล้ว! ไม่ต้องมาเกลี้ยกล่อมย่า ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับหลานก็คือคิดทุกวิถีทางที่จะช่วยหยวนหยวนออกมา"

ในเมื่อเธอพูดขนาดนี้แล้ว ซ่างกวนเชียนเองก็พูดอะไรไม่ได้อีก ได้แต่ตอบรับเท่านั้น "ครับ"

"เตรียมรถ ไปบ้านตระกูลจิ้นกับย่า"

พอพูดจบ นายท่านหญิงก็หลับตาลงไม่พูดอะไรต่อ

ซ่างกวนเชียนแอบถอนหายใจ หันหลังแล้วก็เดินไปเตรียมตัว

......

ฟางเสว่มั่นตื่นขึ้นมาเพราะว่าฝันร้าย

เธอมองไปที่รอบข้างด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนก แล้วก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล

นี่ช่วยเธอออกมาได้แล้วเหรอ?

แล้วในตอนนี้เอง ประตูก็ถูกผลักเข้ามา

เธอหันหน้าไปมอง

เจียงสื้อสื้อเดินเข้ามา เพราะเห็นว่าเธอฟื้นแล้ว ก็รีบพุ่งเข้ามาในทันที

"แม่ ตื่นแล้วเหรอคะ" ใบหน้าของเจียงสื้อสื้อเต็มไปด้วยความดีใจ

ฟางเสว่มั่นคลี่ยิ้มออกมา "อืม แม่ตื่นแล้ว"

"แม่ หนูตกใจแทบแย่แน่" เจียงสื้อสื้อดึงมากอดไว้ สัมผัสถึงอุณหภูมิที่อบอุ่นของเธอ ถึงได้รู้สึกเหมือนเป็นความจริงหน่อย

ในที่สุดแม่ของเธอก็กลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว

แล้วเธอก็รู้สึกแสบจมูกในทันที

ฟางเสว่มั่นลูบหลังของเธอเบาๆ แล้วถามด้วยน้ำเสียงที่จำใจ "ร้องไห้อีกแล้วใช่ไหม?"

เจียงสื้อสื้อปล่อยเธอ พร้อมกับยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตา และคลี่ยิ้มออกมา "เพราะว่าหนูดีใจมากที่ได้ร้องไห้ออกมา"

ฟางเสว่มั่นเห็นว่าเธอร้องไห้จนตาแดง ก็รู้สึกปวดใจ "ยัยเด็กบื้อ"

"แม่ หิวแล้วใช่ไหม หนูกลับบ้านไปทำโจ๊กมา รีบกินตอนที่มันยังร้อนอยู่เถอะ"

เจียงสื้อสื้อลุกขึ้น เปิดกล่องเก็บความร้อน แล้วก็เทโจ๊กลงในถ้วย หลังจากนั้นก็ใช้ช้อนตักและเตรียมจะยื่นให้ฟางเสว่มั่น

ฟางเสว่มั่นรีบหยุดทันที "ไม่ต้อง แม่กินเองได้"

พอพูดจบ เธอก็ตักโจ๊กขึ้นมา แล้วก็ก้มหน้าค่อยๆ กิน

เจียงสื้อสื้อมองเธอเงียบๆ มีรอยยิ้มจางๆ ที่มุมปากของเธอ

พอกินโจ๊กเสร็จแล้ว ฟางเสว่มั่นถึงได้พูดเรื่องที่ตัวเองถูกลักพาตัวขึ้นมา

"แม่สามีลูกไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม?"

"ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ"เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้วเข้าหากัน "แม่ ตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"

ฟางเสว่มั่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ค่อยๆ พูดออกมา "ตอนนั้น......"

ตอนนั้นเธอกับแม่จิ้นไปที่ห้างสรรพสินค้าด้วยกัน ขึ้นรถกำลังเตรียมจะกลับบ้าน

"นายท่านหญิง วันนี้คุณมาเพราะเรื่องของหลานสาวใช่ไหมครับ?"พ่อจิ้นถาม

นายท่านหญิงซ่างกวนใช้สายตาชำเลืองมองไปยังผู้คนที่อยู่รอบๆ แล้วก็ไม่สนใจคำถามค่ะพ่อจิ้น แล้วก็ถามอย่างจริงจังว่า "จิ้นเฟิงเฉินอยู่ไหน? ฉันมาพบเขา!"

ทุกคนในตระกูลจิ้นก็นึกว่าพวกเขาจะมาเพื่อขอโทษ

แต่ว่าประโยคนี้ของเธอ ทำให้คนที่อยู่ในที่แห่งนั้นอึ้งไปเลย

แม่จิ้นตอบสนองเป็นคนแรก อารมณ์โกรธของเธอก็เริ่มมาแล้ว "นายท่านหญิง ท่าทางของหุ่นนี้มันยังไงกันคะ? ช่วยเกรงใจกันหน่อยได้ไหม?"

"เกรงใจงั้นเหรอ?" นายท่านหญิงซ่างกวนหัวเราะอย่างเย็นชา "พวกคุณรังแกหลานสาวฉันให้ตำรวจจับตัวไป แล้วยังจะให้ฉันมาเกรงใจพวกคุณอยู่อย่างนั้นเหรอ?"

"เอ้ะ นายท่านหญิงพูดไม่ถูกนะคะ" แม่จิ้นหัวเราะเยาะ "ทั้งๆ ที่หลานสาวของคุณทำเรื่องที่ผิด แล้วทำไมกลายมาเป็นความผิดของตระกูลจิ้นได้กันล่ะ?"

"ใช่ นายท่านหญิ หรือว่าสมองของคุณเลอะเลือนคะ?"ส้งหวั่นชีงโกรธมาก อดไม่ได้ที่จะออกปากถาม

ซ่างกวนเชียนขมวดคิ้ว แล้วก็พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ "สมองของย่าผมชัดเจนดีมาก"

ส้งหวั่นชีงมองเขาอย่างน่าขัน "ในเมื่อสมองชัดเจน แล้วทำไมถึงได้พูดเรื่องจะดำกลายเป็นขาวแบบนั้นได้ล่ะค่ะ?"

"สาวน้อย ผู้ใหญ่กำลังคุยกันอยู่ ในฐานะที่เป็นเด็กไม่ต้องมาต้น" นายท่านหญิงเงยหน้าขึ้นมองส้งหวั่นชีง สายตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

"ฉัน......"

ส้งหวั่นชีงอยากจะเถียงกลับไป แต่ว่าก็ถูกจิ้นเฟิงเหราห้ามเอาไว้ก่อน "พอแล้ว ไม่ต้องพูดเยอะ"

"จิ้นเฟิงเหรา ทั้งๆ ที่ซ่างกวนหยวนลักพาตัวแม่กับคุณน้า ในฐานะที่เธอเป็นย่าของซ่างกวนหยวน ไม่ขอโทษเราก็แล้วไป แถมทัศนคติยังแย่ขนาดนี้อีก!นี่มันจะรังแกคนอื่นเกินไปแล้ว"

จิ้นเฟิงเหราโอบส้งหวั่นชีงที่กำลังโมโหเอาไว้ แล้วก็ปลอบเบาๆ "ไม่ต้องโกรธ เดี๋ยวผมแก้ไขให้"

และในทันที เขาก็หันไปมองนายท่านหญิง แล้วก็คลี่ยิ้มออกมา "นายท่านหญิง ถ้าเกิดว่าคุณมาเพื่อขอร้องให้พี่ชายผมปล่อยซ่างกวนหยวนไป คุณก็กลับไปได้แล้วครับ เพราะว่าพี่ชายผมไม่มีวันให้อภัยหลานสาวคนเด็ดขาด!"

"เขากล้างั้นเหรอ!" ดวงตาของนายท่านหญิงซ่างกวนเบิกกว้างด้วยความโกรธ "หยวนหยวนของพวกเราเป็นคนช่วยชีวิตเขาเอาไว้ หรือว่าตระกูลจิ้นของพวกแกไม่สั่งสอนว่าเขาควรปฏิบัติต่อผู้ช่วยชีวิตเขายังไงอย่างนั้นเหรอ?"

"อะไรกันที่เรียกว่าซ่างกวนหยวนเป็นคนช่วยชีวิตเขา?"ส้งหวั่นชีงยิ่งฟังยิ่งโกรธ แล้วก็พูดอย่างตรงประเด็น "ถ้าไม่ใช่เพราะว่าหลานสาวของคุณ พี่ใหญ่คงไม่แยกกับพี่สะใภ้นานขนาดนั้นหรอกใช่ไหม?"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!