เจียงสื้อสื้อกลับไปที่ข้างๆจิ้นเฟิงเฉิน จึงรู้สึกได้ถึงความสบายใจที่แท้จริง
หลี่ซีให้ความรู้สึกไม่ค่อยดีเลยจริงๆ!
ความรู้สึกมืดมนจนน่ากลัวไปหน่อย
ต่อจากนี้ไปก็พูดคุยติดต่อกับหลี่ซีให้น้อยๆหน่อย ไม่อย่างนั้นแล้วถ้าไปติดต่อกันไปอีกหลายๆครั้ง หัวใจของเธอเกรงว่าคงจะทนรับไม่ไหวเอา
จิ้นเฟิงเฉินสังเกตเห็นว่าสีหน้าของเธอผิดไป นึกว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่ห้องน้ำ จึงถามออกไปด้วยความเป็นห่วง"เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?"
เจียงสื้อสื้อยิ้มพลางส่ายหน้าออกมา"ไม่มีอะไร"
"จริง?"
"จริงๆ ก็แค่ไปเข้าห้องน้ำจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาได้" เจียงสื้อสื้อจ้องเขาเขม็งอย่างไม่พอใจ
"ความสัมพันธ์ของคุณท่านจิ้นกับนายหญิงจิ้นดีจริงๆเลยนะครับ" มีคนส่งเสียงพูดออกมา
คนอื่นเองก็ได้พากันคล้อยตามกันไปทีละคนๆ
ไม่มีอะไรมากไปกว่าชมจิ้นเฟิงเฉินกับเจียงสื้อสื้อว่าความสัมพันธ์ดี
ชมจนเจียงสื้อสื้ออายไปหมด"พวกคุณคุยกันไปเถอะ ฉันจะไปนั่งรอคุณอยู่ที่ข้างๆ"
ไม่รอให้จิ้นเฟิงเฉินได้ตอบอะไรกลับมา เจียงสื้อสื้อก็ได้ตรงไปยังโซฟาที่อยู่ตรงมุมเสียแล้ว
จิ้นเฟิงเฉินกลัวว่าเธอคนเดียวจะมีอันตราย จึงหาข้ออ้างมาแล้วเตรียมที่จะเดินตามไป
ในเวลานั้นเอง หลี่ซีก็เดินเข้ามา
"คุณท่านจิ้น รบกวนช่วยรอก่อนค่ะ" หลี่ซีเดินเข้ามาหยุดอยู่ที่ตรงหน้าเขาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม"ฉันอยากจะพูดคุยกับคุณสักหน่อย"
จิ้นเฟิงเฉินมองไปทางเจียงสื้อสื้อ นิ่งเงียบไปหลายวิ กว่าจะค่อยๆเอ่ยปากพูดออกมา"ได้ครับ"
หลี่ซีเดิมทีนึกว่าเขาจะปฏิเสธตนเพราะเจียงสื้อสื้อ แต่นึกไม่ถึงว่าเขาจะตกลง
เธออดไม่ได้ที่จะแอบผ่อนลมหายใจด้วยความโล่งใจออกมา จากนั้นก็ได้พูดตรงเข้าประเด็นไปทันที"ฉันสนใจเรื่องปัญญาประดิษฐ์มากเลยค่ะ"
"ในประเทศไม่ใช่แค่จิ้นกรุ๊ปที่กำลังทำโครงการเรื่องปัญญาประดิษฐ์อยู่ ยังมีบริษัทอื่นอีกหลายบริษัทที่กำลังดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปอย่างช้าๆด้วยเหมือนกัน"
ความหมายที่อยู่ในคำพูดของจิ้นเฟิงเฉินนั้น คือให้เธออย่าเอาแต่จ้องจิ้นกรุ๊ปอยู่แค่ที่เดียว สามารถพิจารณาบริษัทอื่นได้
"แต่ในเรื่องเทคโนโลยีและความสามารถแล้ว ฉันเชื่อมั่นแค่เพียงจิ้นกรุ๊ปเท่านั้น" หลี่ซีบ่งบอกถึงท่าทีของตัวเองออกไปตรงๆ"ฉันแค่อยากร่วมงานกับจิ้นกรุ๊ปเท่านั้น"
จิ้นเฟิงเฉินมองเธอ ทั้งๆที่เป็นใบหน้าที่แปลกหน้าไปโดยสมบูรณ์ แต่ความรู้สึกที่คุ้นเคยอย่างน่าประหลาดนั้นมันได้โจมตีเข้ามาอีกครั้ง คิ้วคมกริบได้ขมวดเข้าด้วยกัน
เขาครุ่นคิด จากนั้นก็เอ่ยถามออกไป"พวกเราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า?"
ในใจของหลี่ซีบีบรัดแน่นขึ้นมา เพียงไม่นานก็สงบลง ยิ้มพลางตอบกลับออกไป"ก่อนที่จะกลับประเทศ พวกเราไม่เคยเจอกันมาก่อน"
"ซ่างกวน..." จิ้นเฟิงเฉินจงใจเอาถึงสองคำนี้ขึ้นมา เขาจ้องมองหลี่ซี พยายามที่จะมองหาจุดที่ไม่ถูกต้องที่หลุดออกมาจากบนใบหน้าเธอ
แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะว่าเธอปกปิดได้ดีเกินไป หรือว่าตนคิดมากเกินไปจริงๆ สีหน้าของเธอจึงสงบนิ่ง ไม่มีจุดที่ผิดออกไปเลยสักนิดเดียว
"ซ่างกวนกรุ๊ป คุณท่านจิ้นอยากจะพูดถึงสิ่งนี้ใช่มั้ยล่ะคะ" หลี่ซีมองเขาไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
จิ้นเฟิงเฉินเคลื่อนสายตาออกไป เอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเสียจนฟังดูห่างเหิน"เรื่องร่วมงานกัน ผมจะพิจารณาดู งั้นก็ขอตัวก่อนนะครับ"
ไม่รอให้หลี่ซีพูดอะไรออกมา เขาก็ได้สาวก้าวใหญ่ๆเดินไปทางเจียงสื้อสื้อเสียแล้ว
หลี่ซีผันร่างไป จับจ้องเงาร่างเบื้องหลังของเขานิ่งไม่เคลื่อนสายตาไปไหน สายตามืดครึ้มเสียจนน่ากลัว
จิ้นเฟิงเฉิน จะต้องมีสักวันหนึ่งที่คุณจะได้รู้ว่าการที่ตนเลือกเจียงสื้อสื้อไปมันเป็นเรื่องที่โง่งมมากแค่ไหน!
เจียงสื้อสื้อนั่งอยู่บนโซฟาที่อยู่ในมุม สายตามองไปทางหลี่ซีกับจิ้นเฟิงเฉินที่กำลังยืนอยู่ด้วยกันในที่ไม่ไกลออกไป
ทั้งสองคนพูดคุยกันอยู่สักพักหนึ่ง เฟิงเฉินก็ได้เดินเข้ามาหาเธอ
รอจนจิ้นเฟิงเฉินเดินเข้ามาใกล้แล้ว เจียงสื้อสื้อถามออกไปด้วยความอยากรู้"หลี่ซีกับคุณคุยอะไรกัน?"
"อยากฟัง?" หางคิ้วของจิ้นเฟิงเฉินเลิกขึ้นเล็กน้อย
เจียงสื้อสื้อยิ้มออกมา"แน่นอนว่าอยากอยู่แล้วสิ"
"คุยกันเรื่องร่วมงานกัน" จิ้นเฟิงเฉินนั่งลงข้างๆเธอ พลางพูดออกมาต่อว่า"ผมยังลองหยั่งเชิงเธอดู แต่ไม่พบจุดที่ผิดปกติเลย"
เจียงสื้อสื้อเอียงหัวมองไปทางที่หลี่ซียืนอยู่เมื่อครู่นี้ แต่เธอก็ได้เดินออกไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!