ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 189

บทที่ 189 ฉันเป็นอะไรในสายตาคุณกันแน่?

จิ้นเฟิงเฉินส่งสายตามองดูเจียงสื้อสื้อไปมา สีหน้าของเธอซีดเผือด ดูแล้วเหมือนกับซูบผอมไปมาก แล้วก็ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งที่ไม่ได้พบกันแค่ไม่กี่วัน แต่จิ้นเฟิงเฉินกลับรู้สึกว่าเธอผอมลงไปมากทีเดียว

พอได้ยินจิ้นเฟิงเฉินบอกว่าตัวเองโทรหาเขา เจียงสื้อสื้อก็นิ่งอึ้งไป จากนั้นเธอก็เพิ่งจะรู้สึกได้ว่าตัวเองโทรหาผิดคน เดิมทีเธอคิดจะโทรหาสวีหน้าแต่กลับโทรไปหาจิ้นเฟิงเฉินเสียอย่างนั้น......

บรรยากาศกลับมาดูกระอักกระอ่วนเหมือนอย่างเดิม เดิมทีเจียงสื้อสื้อก็อยากจะให้จิ้นเฟิงเฉินกลับไป เพราะไม่อยากจะรบกวนเขา แต่จู่ๆ เธอก็รู้สึกปวดท้องขึ้นมาอีกระลอก ทำให้เธอขมวดคิ้วแน่น หลังจากนั้นชั่ววินาที เธอก็ถูกจิ้นเฟิงเฉินโอบเอวแล้วอุ้มไป

“วางฉันลงนะจิ้นเฟิงเฉิน” เจียงสื้อสื้อที่ไร้ทางป้องกัน ก็พูดขึ้น

“อย่าขยับสิ” จิ้นเฟิงเฉินพูด จากนั้นเขาก็อุ้มเจียงสื้อสื้อเดินลงชั้นล่าง แล้วพาเธอไปที่โรงพยาบาลทันที

เจียงสื้อสื้อเองก็ทำการดิ้นรนไปตามนิสัยของเธอนิดหน่อย จากนั้นก็หยุดดิ้นลง เป็นเพราะเธอปวดมากจริงๆ

เธอถอนหายใจ พลางคิดอยู่ในใจว่า สุดท้ายแล้วก็ต้องรบกวนเขาอีกครั้งจนได้!

ระหว่างทาง บรรยากาศภายในรถก็เงียบสงัดอย่างมาก การที่ให้เขามาเห็นสภาพที่จนตรอกของเธอแบบนี้ ทำให้ในใจของเจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดใจขึ้นมา แต่ก็รู้สึกยิ่งหงุดหงิดขึ้นด้วย ทำไมตัวเธอไม่มองดูเบอร์ที่โทรให้ดีก่อนนะ

“ปวดมากไหม?” จิ้นเฟิงเฉินถามขึ้น

เจียงสื้อสื้อพยักหน้า โดยไม่ได้พูดอะไร

พลันรถก็มาถึงที่โรงพยาบาลใกล้ๆ อย่างรวดเร็ว หมอก็ช่วยเจียงสื้อสื้อตรวจร่างกายรอบหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า : “เป็นกระเพาะอักเสบน่ะครับ สาเหตุมาจากกินอาหารไม่ตรงเวลา”

หลายปีก่อนหน้านี้เจียงสื้อสื้อเองก็เคยเป็นโรคกระเพาะมาก่อน ทำให้หลายปีที่ผ่านมาเธอจึงต้องกินข้าวตรงเวลา เพื่อรักษากระเพาะเธอให้ดี แต่หลายวันที่ผ่านมานี้นั้น......

พอได้ยินว่ากินข้าวไม่ตรงเวลา จิ้นเฟิงเฉินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย นี่หลายวันที่ผ่านมาผู้หญิงคนนี้ไปทำอะไรกันแน่? ทำไมถึงทำร่างกายให้กลายมาเป็นแบบนี้ได้?

คุณหมอก็ฉีดยาเพื่อรักษาอาการปวดให้กับเจียงสื้อสื้อ ต่อจากนั้นเขาก็พูดขึ้นต่อ : “คุณผู้หญิงครับ ต้องกินข้าวตรงเวลา แล้วช่วงนี้ก็อย่าไปกินอาหารรสจัดนะครับ อีกเดี๋ยวหมอจะจ่ายยา แล้วก็กินให้ตรงเวลาด้วยนะครับ หากฟื้นฟูแบบนี้ไปได้ ไม่กี่วันก็ดีขึ้นเองล่ะครับ”

จิ้นเฟิงเฉินรู้สึกขอบคุณหมออย่างมาก ต่อจากนั้นคุณหมอก็พูดคุยอีกไม่กี่ประโยค หลังจากนั้นก็เดินออกจากห้องผู้ป่วยไป

เจียงสื้อสื้อเองก็รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว แต่สีหน้าเธอยังคงซีดขาวเหมือนเดิม เธอหันไปมองจิ้นเฟิงเฉินแล้วพูดขึ้นว่า : “ขอบคุณมากนะคะที่มาส่งฉัน ดึกขนาดนี้แล้ว รบกวนคุณจริงๆ ค่ะ”

น้ำเสียงของเธอดูจางๆ ฟังออกเลยว่าเกรงใจอย่างมาก

จิ้นเฟิงเฉินยินก้มจ้องเจียงสื้อสื้ออยู่ข้างเตียง ก่อนจะเม้มปากพูดขึ้นว่า : “ไม่เจอกันแค่ไม่กี่วัน ทำไมถึงทำเป็นไม่คุ้นหน้ากันแล้วล่ะ?”

“ไม่ใช่ซะหน่อย” ระหว่างที่พูด ดวงตาของเจียงสื้อสื้อก็ฉายแววกังวลใจออกมา โดยเฉพาะยิ่งไปกล้าที่จะไปสบตาของจิ้นเฟิงเฉิน ที่กำลังจ้องมองตัวเธออยู่ตอนนี้ด้วย

“ไม่ใช่งั้นหรือ? ถ้าอย่างนั้นทำไมคุณถึงไม่มาหาผมเลยล่ะ?” จิ้นเฟิงเฉินโน้มตัวลง พร้อมทั้งเอามือค้ำเตียงไว้ ก่อนจะพูดขึ้นต่อ : “ครั้งนี้เป็นเพราะโทรผิดเบอร์ หรือเพราะในสายตาของคุณ ผมไม่มีตัวตนยังงั้นหรือ?”

เพราะในสายเมื่อกี้นี้ เจียงสื้อสื้อเรียกชื่อของสวีหน้าขึ้นมา เธอไม่ได้โทรเพื่อที่จะตามหาเขา เธอพยายามจะหลบหน้าเขา แม้กระทั่งเขาไปถึงหน้าบ้านเธอแล้ว เธอก็ยังอยากที่จะผลักเขาไปให้ไกลๆ

เจียงสื้อสื้อก้มหน้าก้มตา หูของเธอได้ยินเสียงคำถามที่ทุ้มหนาของเขา ทำให้ใจของเธอรู้สึกตระหนกอย่างมาก แต่เธอก็ยังเม้มปาก แล้วพูดอย่างเรียบเฉยว่า : “คุณคิดมากไปแล้วล่ะ”

“เป็นเพราะผมคิดมากจริงๆ งั้นหรือ? แล้วทำไมคุณถึงไปดูตัวกันล่ะ?” จิ้นเฟิงเฉินพูดขึ้น

เดิมทีเขาก็ไม่อยากที่จะพูดเรื่องนี้หรอก แต่ตอนนี้ จิ้นเฟิงเฉินอยากได้ยินคำอธิบายจากเจียงสื้อสื้อ ว่าทำไมเธอถึงต้องไปดูตัว ทำไมถึงอยากจะผลักตัวเขาออกไปให้ไกลๆ กัน? หรือว่าในสายตาของเธอ เขาไม่มีตัวตนจริงๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!