ตอน บทที่ 229 มุ่งมั่นที่จะเอาให้ได้ จาก ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 229 มุ่งมั่นที่จะเอาให้ได้ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ที่เขียนโดย เมียวเมียว เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
บทที่ 229 มุ่งมั่นที่จะเอาให้ได้
ซูชิงหยิงจ้องมองภาพด้านหลังที่เย็นชาของจิ้นเฟิงเฉิน นัยน์ตากวาดสีหน้าที่โหดร้ายทันที
แค่คิดก็รู้ได้ว่า นี่หนีไม่พ้นความเกี่ยวพันกับเจียงสื้อสื้อ เธอย่อมไม่ปล่อยผู้หญิงคนนี้อย่างง่ายดายแน่นอน
ในเมื่อจิ้นเฟิงเฉินก็จะไล่เธอออกไป เธอก็จะไม่หน้าด้านที่จะอยู่อีกต่อไป
อีกทั้งแม้แต่หนึ่งนาทีเธอก็อยู่ต่อไม่ได้
ซูชิงหยิงซึมเศร้าเต็มใบหน้า ดึงประตูออก จากไปอย่างโมโห
เธอรีบเก็บของให้เรียบร้อย แม้แต่กล่าวลาสักคำก็ไม่มี จากไปอย่างสั้นๆเรียบง่าย
หลังจากเธอกลับไปแล้ว ล็อกตนเองอยู่ในห้อง ไม่ว่าใครเคาะประตู เธอล้วนไม่ยอมเปิดประตู
แม่ซูเป็นห่วงคิดมากไม่สงบ ซูชิงหยิงไม่กินไม่ดื่มเช่นนี้ ทำร้ายร่างกายแล้วจะทำยังไงดีล่ะ
พ่อซูเหมือนจะคาดเดาได้บ้างถึงอะไร อาจจะเธอทะเลาะกันกับจิ้นเฟิงเฉิน ถอนหายใจอย่างไม่สามารถหลอมเหล็กให้กลายเป็นเหล็กกล้าได้หนึ่งที โมโหจากไป
เช้าวันรุ่งขึ้น
ซูชิงหยิงแกล้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาถึงห้องอาหาร พ่อซู แม่ซูทั้งคู่นั่งอยู่นานแล้ว
ยังไงก็เป็นลูกสาวแท้ๆของตนเอง พ่อซูเห็นเธอแม้แต่แต่งหน้าอย่างละเอียดมา ก็ไม่สามารถปกปิดสีหน้าที่ทรุดโทรม อดไม่ได้ที่จะเจ็บปวดใจ
“ตกลงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” พ่อซูถามอย่างเข้มงวด
ซูชิงหยิงผ่านไปคืนหนึ่ง คิดออกมานานแล้ว ในเมื่องจิ้นเฟิงเฉินก็ไม่รักเธอ เธอก็เป็นเจ้าของเขาไม่ได้ รักเดียวอย่างทรมานนี้ ก็สมควรตัดขาดให้หมดจดแล้ว
มุมปากของเธองอขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ พูดเจาะจงกับพ่อซูประโยคหนึ่งว่า “ฉันจะกลับไปช่วยที่บริษัท”
พ่อซูแปลกใจ หรือว่าเธอถูกจิ้นเฟิงเฉินไล่ออกจากจิ้นกรุ๊ปแล้วหรือ?
ซูชิงหยิงเห็นสีหน้าของพ่อซู อดไม่ได้เกิดความเสียใจหลายส่วน ยังไงเธอก็เพิ่ง “อกหัก”
พ่อซูก็นับได้ว่าคิดออกแล้ว เกรงว่าซูชิงหยิงคือเอาใจจิ้นเฟิงเฉินไม่ได้แล้ว
เขาอดไม่ได้ปลอบใจเธอไปหลายประโยคว่า “แกก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนกลับบริษัท นัดคุณหนูผู้สูงศักดิ์ของบ้านคุณลุงหลายๆคน ออกไปเดินเล่นผ่อนคลาย”
ซูชิงหยิงส่ายหัว เธอตัดสินใจแล้ว วันนี้ก็จะไปบริษัท
พ่อซูพาเธอไปที่ซูซื่อกรุ๊ป ยังสั่งอย่างละเอียดเป็นพิเศษ ให้คุ้นเคยกับงานก่อน ที่เหลือ รอเวลาผ่านไปสักพัก อารมณ์เธอฟื้นคืนแล้วค่อยพูดอีก
ใครจะนึกได้ว่า ซูชิงหยิงก็เป็นคนที่ถือขึ้นวางลงได้คนหนึ่ง ไม่เหมือนคนที่เสียใจแม้แต่นิด ในเวลาแรกก็ได้เข้ากับงานอย่างเต็มที่
การจัดการเรื่องต่างๆเธอยิ่งสงบมั่นคง อีกทั้งใคร่ครวญเรื่องต่างๆก็ละเอียดอ่อนครบถ้วนทั้งหมด ซูชิงหยิงยุ่งไปแล้วถึงชั่วบ่าย ไม่ต้องพูดได้คุ้นเคยกับงานของซูซื่อกรุ๊ปเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็จับกุมได้ถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว
เธอเรียกผู้ช่วยเข้ามา สั่งการลงไป “ฉันให้เวลาคุณหนึ่งชั่วโมง คุณไปทำความเข้าใจอย่างชัดเจนในการเคลื่อนไหวล่าสุดของบริษัทจิ่นซื่อ”
ผู้ช่วยกำลังจะไปรวบรวมข้อมูล เธอก็เรียกผู้ช่วยไว้อีก “โดยเฉพาะคนที่ชื่อว่าเจียงสื้อสื้อคนนั้น โครงการที่เธอได้รับผิดชอบในตอนนี้ คุณต้องสืบข่าวให้ละเอียด”
ซูชิงหยิงจ้องมองผู้ช่วยจากไป นี่จึงมีเวลาพักผ่อนสักพัก
หลายปีที่ผ่านมานี้ ความสัมพันธ์ระหว่างซูซื่อกรุ๊ปกับจิ้นกรุ๊ปดีมาก ธุรกิจทั้งสองตระกูลยิ่งใหญ่ไม่หยุดยั้ง ในเวลาสั้นๆสองปีนี้ อาชีพที่เกี่ยวข้องกันก็เยอะมาก
ถ้าหากว่าเธอจำไม่ผิด ภายใต้ซูซื่อกรุ๊ป ก็มีบริษัทด้านการวางแผนแห่งหนึ่ง
บริษัทOwen
บริษัทนี้กำลังเป็นบริษัทระดับสองของวงการธุรกิจ แต่ไม่ใช่เป็นบริษัทเล็กๆที่เพิ่งก่อตั้งไม่นานอย่างบริษัทจิ่นซื่อนี้ที่สามารถเทียบได้
เจียงสื้อสื้อ รอก่อนเถอะ
เธอจะแย่งโครงการของบริษัทจิ่นซื่อมาให้หมด และโครงการที่เจียงสื้อสื้อรับผิดชอบย่อมต้องเป็นอันดับแรกอยู่ดี
ซูชิงหยิงกำลังคิดว่าจะจัดการเจียงสื้อสื้ออย่างไร ผู้ช่วยเคาะประตูเข้ามาแล้ว
ไม่ผิดหวังว่าเป็นคนที่เธอคัดเลือกมาด้วยตนเอง ประสิทธิผลใช้ได้
ผู้ช่วยตรวจสอบได้ว่าเจียงสื้อสื้อปัจจุบันนี้กำลังติดต่อกับบริษัทขายเครื่องสำอางในต่างประเทศแห่งหนึ่งชื่อว่า——บริษัทEisley
เจียงสื้อสื้อหยิบมือถือขึ้นมา เปิดดูเอกสารสินค้าของEisleyเหล่านี้ใหม่อีกครั้ง อดไม่ได้ตกอยู่ในการใคร่ครวญอย่างลึกอีกครั้ง
ซูซานเห็นเธอแม้แต่ข้าวก็ไม่สามารถกินอย่างสงบใจ อดไม่ได้ตักเตือนอย่างจนใจว่า “ตอนนี้สำคัญที่สุดคือ คุณต้องกินข้าวให้ดีๆ”
เจียงสื้อสื้อยิ้ม วางงานอยู่ข้างๆชั่วคราว
หลังจากกินข้าวเสร็จ เธอกับพวกเธอกลับไปบริษัทพร้อมกัน สวีหน้าตื่นตระหนกร้องว่า “โอ้มายก๊อต พี่สื้อสื้อ พวกเราเพิ่มคู่แข่งที่เก่งมากอีกคนหนึ่งแล้ว”
เจียงสื้อสื้อได้รู้จากปากของ สวีหน้า บริษัทOwen ดูเหมือนต่อโครงการนี้มุ่งมั่นที่จะเอาให้ได้
บริษัทOwen ชื่อเสียงภายนอก
เธอขมวดคิ้วอย่างแน่นอดไม่ได้กังวลใจ บริษัทระดับโลกในวงการธุรกิจ จะแข่งกับพวกเขาพร้อมกัน ช่างลำบากใจเล็กน้อยจริงๆ
ทั้งสมองของเธอล้วนคิดแผนการอยู่
ยุ่งขึ้นมาแล้ว เวลามักจะผ่านไปอย่างรวดเร็วเป็นพิเศษ ผ่านเวลาเลิกงานแล้ว โทรศัพท์ของลู่เจิงโทรเข้ามา
“บังเอิญนะ สื้อสื้อ บริษัทของพวกเราก็แข่งขันกับโครงการEisleyนี้อยู่เช่นกัน ผมจะไม่หลีกทางให้คุณล่ะ!” ลู่เจิงพูดล้อเล่น
เจียงสื้อสื้อก็ล้อเล่นตอบกลับว่า “รุ่นพี่ จะตกอยู่ในมือของใครก็ยังไม่แน่นอนล่ะ”
ลู่เจิงกลับยิ้มแล้ว ดูแล้วอารมณ์เธอนับว่ายังดีอยู่
“หลายวันก่อนทำงานนอกสถานที่โดยตลอด วันนี้เพิ่งกลับมา จะออกมากินข้าวสักหน่อยไหม?” ลู่เจิงถาม
ได้ยินคำกล่าว เจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ลำบากใจเล็กน้อย ยังไม่สามารถเอาแผนการที่ดีงามออกมาได้ เธอไม่อยากทำอย่างอื่น พูดอีกด้านหนึ่งพวกเขาก็ยังเป็นคู่แข่งอีก
ตอนที่เธอยังคงลังเลอยู่ ลู่เจิงแฝงไว้ด้วยรอยยิ้มเอ่ยปากตักเตือนว่า “สื้อสื้อ คุณเคยรับปากว่าจะเลี้ยงข้าวผม หาเวลาใหม่สู้ไม่ได้กับเวลาที่เหมาะ นั่นก็เป็นคืนนี้เถอะ?”
เจียงสื้อสื้อก็จำได้ว่า ครั้งก่อนตอนที่กินข้าวกับลู่เจิงอยู่ดีๆเธอกระเพาะไม่สบาย ก็จบการกินข้าวทันที ติดค้างเขาหนึ่งมื้ออย่างแท้จริง
เธอจ้องมองไปยังนอกหน้าต่าง รับปากไว้ ลุกขึ้นไปตามนัด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!