ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 233

สรุปบท บทที่ 233 ชุดนอนของน้ามิดชิดเกินไปแล้ว: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

ตอน บทที่ 233 ชุดนอนของน้ามิดชิดเกินไปแล้ว จาก ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 233 ชุดนอนของน้ามิดชิดเกินไปแล้ว คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ที่เขียนโดย เมียวเมียว เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 233 ชุดนอนของน้ามิดชิดเกินไปแล้ว

ลู่เจิงกำลังยิ้มคุยกับเจียงสื้อสื้อ ก็มีอีกคนมาทักทายเขา เขาพูดขอโทษ: “สื้อสื้อ ฉันเจอเพื่อนคนหนึ่ง ฉันขอตัวก่อนนะ”

เจียงสื้อสื้อพยักหน้าเบาๆ หลังจากลู่เจิงจากไป เธอก็หยิบไวน์มาหนึ่งแก้ว แล้วหามุมหนึ่งนั่ง สังเกตสถานการณ์ในงานเลี้ยงอย่างละเอียด

ถึงเธอจะอยากทำโครงการเครื่องสำอางนี้มาก แต่Kevinก็พูดเรื่องรูปแบบการแข่งมาแล้ว เจียงสื้อสื้อก็ไม่คิดจะไปรบกวนเขา คิดเพียงแต่จะนำเสนอแบบแผนออกมายังไงให้โดดเด่น

จนถึงตอนงานเลี้ยงใกล้จบ ลู่เจิงก็มาหาเธอ แล้วพวกเขาก็ไปบอกลาKevinด้วยกัน

“สื้อสื้อ ให้ฉันส่งเธอกลับบ้านเถอะ”

เดินออกจากโรงแรม ไม่ยอมให้เจียงสื้อสื้อปฏิเสธ ลู่เจิงก็ดึงเธอไปขึ้นรถ ราวกับกลัวเธอจะหนี

เจียงสื้อสื้อหลุดยิ้ม “งั้นขอบคุณรุ่นพี่มากค่ะ”

แต่ว่า เธอไม่รู้เลยว่า เมื่อกี้มีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองตามติดเงาหลังของเธอเดินจากไป

สายตาคู่นั้น มาจากKevin

ตั้งแต่ต้นจนจบ ซูชิงหยิงสังเกตทุกการเคลื่อนไหวของKevinอย่างเงียบๆ

ในเมื่อจะร่วมงานกับKevin ก่อนหน้านี้เธอก็หาข้อมูลมามากพอ

Kevin ชายคนนี้ เบื้องหน้าทำเป็นกีดกันผู้หญิงอย่างมาก

แต่จริงๆแล้ว ตอนเขาอยู่ต่างประเทศ มีชื่อเสียงเป็นนักล่าสาวฝีมือสูง ขอเพียงแค่เป็นสาวสวย เขาก็พร้อมมีส่วนร่วมด้วย

เพียงแต่ ทั้งหมดนี่เป็นความลับสุดยอดของเขา

นิสัยนี้ของเขา คนจำนวนมากล้วนไม่รู้

หนึ่งในนั้น ก็รวมทั้งเพื่อนสนิทของเขาด้วย อย่างเช่นลู่เจิง

ซูชิงหยิงจับสายตานี้ได้ แล้วเหยียดยิ้มอย่างได้ใจ เป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว เธอเองก็แอบเดาได้ว่าKevinกำลังคิดอะไรอยู่

เธอเร่งฝีท้าว มาหยุดอยู่ข้างๆ Kevin ยกยิ้มหวานกล่าว: “Kevin คุณอยากร่วมมือกับฉันไหม?”

“คุณซู ฉันพูดชัดเจนแล้ว จำกัดเวลาภายในสามวัน ทุกคนมีสิทธิ์ร่วมแข่งขันวางแผน” Kevinพูดเสียงเย็นเยียบ เขาไม่พอใจสำหรับความไม่ใจกว้างของซูชิงหยิงอย่างมาก

ซูชิงหญิงกลับมีแผนบางอย่างแอบแฝง แอบยิ้มและส่ายหัว “ไม่ Kevin คุณรู้ที่ฉันบอกว่าร่วมมือ ไม่ใช่แค่เรื่องงานเท่านั้น”

“คุณอยากพูดอะไรกันแน่?” Kevinเห็นเธอวกไปวนมา ก็อดโกรธไม่ได้

เห็นเขามีท่าทางดูเลวร้าย ซูชิงหยิงตัดใจเดินหมุนตัว ยกเท้าทำเหมือนจะเดินต่อ และตั้งใจทำเป็นพูดอย่างไม่สนใจ: “น่าเสียดายจริง กะว่าจะส่งเจียงสื้อสื้อไปให้ถึงเตียงคุณเลยแท้ๆ”

Kevinบังเอิญได้ยินเสียงพูดของเธอ ในหัวของKevinก็ปรากฏภาพร่างอันน่าเย้ายวนของเจียงสื้อสื้อไม่หยุด เขาอดไม่ไหวเผลอกลืนน้ำลายอยู่กี่ครั้ง

“คุณซู คุณพูดอะไรนะ?”

เป็นอย่างที่คิด เขาทนไม่ไหวเรียกซูชิงหยิงไว้

ซูชิงหยิงหันหน้ากลับมา พูดเชื้อเชิญ: “สนใจดื่มสักแก้วไหม? แถวนี้มีผับที่ไม่เลวอยู่ร้านหนึ่ง”

แน่นอนว่าKevinเข้าใจความหมายของเธอ ก็ตอบรับไปในทันที ทั้งคู่มุ่งตรงไปยังผับ

“พูดมาเถอะ ที่ว่าร่วมมือของคุณนั่นหมายถึงอะไรกันแน่”

ไปถึงผับ พอเพิ่งนั่งลง Kevinก็เอ่ยถามอย่างรอไม่ไหว

ซูชิงหยิงรู้ว่าแผนตนสำเร็จไปกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว ก็ไม่พูดอ้อมค้อม “เพียงแค่คุณ Kevinตกลงร่วมมือกับซูซื่อกรุ๊ปของพวกฉัน เจียงสื้อสื้อก็จะเป็นสาวบนเตียงของคุณ”

“จริงหรือ?” ในสายตาของKevinแอบคาดหวังเล็กน้อย แต่ก็ไม่ค่อยเชื่อนักว่าเจียงสื้อสื้อจะเชื่อฟังเธอ

ซูชิงหยิงรู้สึกได้ถึงความสงสัยของเขา ก็หัวเราะเยาะ: “ทำไมล่ะ? คุณไม่เชื่อฉันเหรอ?” หยุดไปครู่หนึ่ง ก็พูดอีก “Kevin ถ้าฉันไม่มีความมั่นใจ ก็ไม่มานั่งพูดเรื่องนี้กับคุณตรงนี้หรอก”

Kevinเห็นซูชิงหยิงมั่นใจขนาดนี้ ทั้งยังอยากเห็นทรวดทรงหยาดเยิ้มของเจียงสื้อสื้อด้วย เขาไม่ลังเลอีกต่อไป “ไม่มีปัญหา ฉันรับปากคุณ”

ทั้งสองบรรลุข้อตกลง แว๊บหนึ่งนัยน์ตาของซูชิงหยิงส่องแววอำมหิต

ตราบใดที่เจียงสื้อสื้อถูกทำลาย จิ้นเฟิงเฉิงก็จะไม่สามารถอยู่กับเจียงสื้อสื้อได้แล้ว

จิ้นเฟิงเฉินยอมรับไปตรงๆ : “ใช่”

เจียงสื้อสื้อตะลึงไปครู่หนึ่ง ทำไมเธอถึงคิดไม่ถึงเลย ว่าจิ้นเฟิงเฉินจะยอมรับ

ครู่หนึ่งเธอเผลอยิ้มออกมา มองชายหนุ่มทำท่าเคร่งขรึมเป็นระเบียบ เธอได้เพียงแต่เอ่ยอธิบาย: “เป็นโครงการของEisleyโครงการนั้นน่ะ เพื่อให้ได้สิทธิ์ร่วมงานโฆษณา รุ่นพี่พาฉันไปพบผู้รับผิดชอบของพวกเขา”

จิ้นเฟิงเฉินได้ยินถึงพยักหน้ารับอย่างพอใจ และถามด้วยความจริงจังอีกครั้งทันที: “เธอดื่มมาหรือเปล่า?”

“ดื่มไปนิดหน่อย”

เจียงสื้อสื้อพูดความจริงอย่างเปิดเผย ร่วมงานเลี้ยงไวน์ มักจะต้องดื่มบ้างไม่มากก็น้อย

แต่ทว่า เขากลับทำหน้านิ่งทื่อ เอ่ยตำหนิเสียงแข็ง: “กระเพาะเธอไม่ดี ทำไมถึงกล้าทำเรื่องวุ่นวายอย่างนี้?”

เสี่ยวเป่าที่ตามมาติดๆ ก็ถามด้วยความกังวล: “น้าสื้อสื้อ น้าไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”

เธอมองคนตัวเล็กและคนตัวโตตรงหน้า หัวใจเธออบอุ่นขึ้นอย่างแปลกๆ ทันที รีบร้อนส่ายหัว “ไม่มีไม่มี ดื่มไปแค่นิดเดียวจริงๆ ไม่ทำให้ไม่สบายหรอก”

พ่อลูกสองคนได้ยินถึงวางใจลง กินเค้กหมด เจียงสื้อสื้อก็ลุกขึ้น “พวกคุณดูโทรทัศน์กันไปก่อนนะ ฉันไปอาบน้ำก่อน”

สองคนพ่อลูกพยักหน้ารับอย่างรู้กัน เธอที่เห็นภาพนั้นอดยกมุมปากขึ้นยิ้มไม่ได้

อาบน้ำเสร็จ เธอสวมชุดนอนเดินออกมา ไม่ทันได้คิด เสี่ยวเป่าก็พูดแซะขึ้นเอย่างกับเด็กโตเกินวัย: “น้าสื้อสื้อ ชุดนอนของน้ามิดชิดเกินไปแล้ว”

“เสี่ยวเป่า พูดอะไรซี้ซั้วน่ะ?” เจียงสื้อสื้อเห็นจิ้นเฟิงเฉินมองเธอตาไม่กะพริบ แก้มก็พลันเห่อร้อนขึ้นมา

เธอไปนั่งข้างๆ เสี่ยวเป่า มองเวลาก็ดึกแล้ว พรุ่งนี้เสี่ยวเป่ายังต้องไปเรียน เธอเอ่ยปากถาม: “เมื่อไหร่พวกคุณจะกลับไป?”

เสี่ยวเป่ากอดขาของเธอในทันที พูดกระซิบกระซาบ: “น้าสื้อสื้อ เสี่ยวเป่าอยากนอนกับคุณ!”

เธอได้แต่มองจิ้นเฟิงเฉินอย่างจนปัญญา ใครจะรู้ เขาเองก็พูดตาม: “คืนนี้ฉันก็จะค้างด้วย”

เธอกังวลว่าจะยิ่งเพิ่มความไม่พอใจให้แม่จิ้นมาโดยตลอด เอ่ยปากพูดขึ้นอีกครั้ง “ยังไงก็กลับไปเถอะ ไม่อย่างนั้น...”

เธอยังไม่ทันพูดจบ จิ้นเฟิงเฉินก็เดาได้ว่าเธอกำลังกังวลเรื่องใดอยู่ ยื่นมือไปจับมือเธอแน่น กล่าวปลอบ: “เรื่องนี้ เธอไม่ต้องเป็นห่วง เชื่อฉัน ฉันจะจัดการให้ดี”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!