ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 589

สรุปบท บทที่ 589 พวกนี้ เธอยังจำได้ไหม: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

อ่านสรุป บทที่ 589 พวกนี้ เธอยังจำได้ไหม จาก ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว

บทที่ บทที่ 589 พวกนี้ เธอยังจำได้ไหม คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เมียวเมียว อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่ 589 พวกนี้ เธอยังจำได้ไหม

เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว เจียงสื้อสื้อก็ได้นิ่งเงียบลง รถได้อยู่ระหว่างทางแล้ว โดดลงไปก็เหมาะเท่าไหร่

นั่งอยู่บนรถไปสักพัก เจียงสื้อสื้อก็รู้สึกว่าอาการปวดเมื่อยอ่อนแรงนั้นได้หายไปแล้ว นิ้วก็ขยับได้แล้ว

แต่ว่าการกระทำแบบนี้ ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถทำให้เจียงสื้อสื้อดีใจได้

สีหน้าของเธอได้เย็นชา หันหน้าไปมองวิวนอกหน้าต่าง และไม่ยอมที่จะมองจิ้นเฟิงเฉิน

ที่เปิดปิดประตูของรถคันนี้นั้นอยู่ที่ที่นั่งคนขับ ถ้าเกิดจิ้นเฟิงเฉินไม่กด เกรงว่าเธอนั้นต้องทุบกระจกให้แตกถึงจะหนีออกไปได้

รถได้ค่อยๆ จอดลงต่อหน้าไฟแดง จิ้นเฟิงเฉินหันหน้าไปมองเจียงสื้อสื้อเห็นว่าเธอมีสีหน้าที่ไม่อยากสนใจเขา ก็ได้เจ็บในใจเล็กน้อย

แต่นึกถึงเสี่ยวเป่า ก็รู้สึกว่าตัวเองต้องพยายามต่อไป จะล้มเลิกกลางขั้นไม่ได้เด็ดขาด

บรรยากาศในรถได้เงียบ เขาก็ได้ถือโอกาสพูด เอาน้ำหอมที่แขวนอยู่ที่กระจกรถลงมา พูดนิ่งๆ ว่า “คุณจำกลิ่นนี้ได้ไหม? ตอนนั้นคุณบอกว่าคุณชอบน้ำหอมแบรนด์นี้มาก ชื่อของมันขึ้นความรักที่ขาดหายไป”

เจียงสื้อสื้อก็ได้สูดดมแบบไม่รู้สึก รู้สึกว่าเป็นความหอมอ่อนๆ ของไม้ผล

ดมแรกๆ เปรี้ยวเล็กน้อย ดมอีกก็เริ่มหวาน เป็นประเภทที่เธอชอบจริง

แต่ว่าเธอนั้นไม่อยากที่จะยุ่งเกี่ยวจิ้นเฟิงเฉินต่อไปเพราะปัญหานี้ ถ้าให้พูดให้ถูกคือ เธอไม่อยากสนใจจิ้นเฟิงเฉิน

เห็นถึงสายตาจิ้นเฟิงเฉินที่ลึกซึ้งขนาดนี้ ทำให้บางครั้งเธอรู้สึกปวดใจ

คนเป็นสิ่งมีชีวิตที่เข้าหาข้อดีหลีกเลี่ยงของเสีย ใครๆ ก็ชอบกินหวาน ไม่ชอบกินขม

ต่อให้พวกเขาเมื่อก่อนนั้นเคยมีอะไรกัน แล้วจะทำไม?

เวลาได้เดินไปข้างหน้า ไม่มีวันที่จะย้อนกลับ

เจียงสื้อสื้อกัดฟันเล็กน้อย บังคับให้ตัวเองให้ใจเย็นลง อย่าให้อาการที่ปวดใจนั้นทำให้มีอารมณ์อ่อนไหว

เธอได้เปิดปากสักพัก แต่ก็รู้สึกว่าไม่รู้จะพูดอะไร

จิ้นเฟิงเฉินใจได้เย็น ก็ได้ขยับเข้าไปใกล้เล็กน้อย ไฟเขียวกลับสว่างขึ้น รถที่อยู่ข้างหลังได้กดแตรอย่างไม่พอใจ

การเร่งแบบนี้ก็ได้ทำให้จิ้นเฟิงเฉินเก็บท่าทางที่ขยับเข้าไป แล้วก็ขับรถไปต่อ

ผ่านไปอีกประมาณยี่สิบนาที ในที่สุดก็ได้มาถึงจุดหมาย

เจียงสื้อสื้อประหลาดใจ ที่นี่ไม่ใช่บ้านเช่าที่เสี่ยวเป่าพาเธอมาตอนนั้นเหรอ?

ผู้ชายคนนี้พาเธอมาที่นี่จะทำอะไร?

สีหน้าเธอได้เปลี่ยนเล็กน้อย แต่ก็ปิดบังได้อย่างดี

รอให้จิ้นเฟิงเฉินลงรถก่อน เปิดประตูรถให้เธอ

เจียงสื้อสื้อไม่ได้รีบที่จะลงจากรถ ก็ได้เงยหน้าเล็กน้อย มองไปยังจิ้นเฟิงเฉิน

“คุณพาฉันมาที่นี่จะทำอะไร? ถ้าเกิดไม่มีอะไร ขอให้คุณส่งฉันกลับไป ถ้าคุณไม่ยอม ฉันเรียกรถไปเอง”

จิ้นเฟิงเฉินได้ยิ้ม ได้ใจเย็นมากๆ “มาที่นี่ แน่นอนว่ามาเรียกความทรงจำให้กับคุณ ไม่ทำให้เสียเวลาแน่นอน ให้โอกาสผม ได้ไหม? เดี๋ยวผมก็ส่งคุณกลับไป รับปากว่าไม่ทำอะไรที่มันเกินไป”

นายสามารถที่จะจับตัวคนจากห้องน้ำหญิง ยังบอกว่าตัวเองไม่ทำอะไรเกินไป เจียงสื้อสื้อบ่นในใจ

แต่ว่าคนได้มาถึงที่นี้แล้ว ยังเล่นตัวไม่ลงไปอีก ก็ไม่มีความหมายอะไร

จากนั้นเธอก็ได้ก้าวลงไป ตบมือที่จิ้นเฟิงเฉินยื่นมาลง แล้วก็ได้รีบยืนขึ้น สายตาได้มองไปยังบ้านเล็กๆ ที่อยู่ตรงหน้า

จิ้นเฟิงเฉินมองมัน ก็ได้พูดออกมาเศร้าๆว่า “ตอนนั้นคุณบอกกับผมว่า ฤดูหนาวต้องตื่นแต่เช้า แต่ไม่ยอมที่จะเปิดไฟดวงใหญ่ เพราะว่าแสงสว่างแสบตาไป พอดูหนังผีไปไม่กี่เรื่อง กลางคืนเปิดไฟก็นอนไม่หลับ ผมถึงได้ซื้ออันนี้ให้คุณ กลางคืนส่องแสงไปที่กำแพง สวยมาก”

เขาเหมือนรอคอย แต่ก็ได้พูดเสริมเบาๆ ด้วยความกลัว “พวกนี้ คุณยังจำได้ไหม?”

มือของเจียงสื้อสื้อได้นิ่ง ไม่รู้ว่าทำไม ในช่วงเวลานั้น อยู่ๆ เธอก็ได้มีความรู้สึกว่าทำใจไม่ได้ออกมา

หัวก็ได้มึนงง เหมือนว่าได้ดื่มเหล้า ของหลายๆ อย่างได้ลอยขึ้น แล้วก็จมลงไป

เธออยากจะเอื้อมลองไปจับ ก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บ

ก็ได้ร้องออกมา หน้าผากที่ใสก็ได้มีเหงื่อไหลออกมา

จิ้นเฟิงเฉินไม่กล้าที่จะบีบบังคับเธอเกินไป ก็ได้รีบกอดเธอไว้ในอ้อมกอด ตบที่หลังของเธอเบาๆ พูดปลอบว่า “ถ้ารู้สึกว่าปวดก็ไม่ต้องคิด พวกเราไม่ต้องคิดมันแล้ว ต่อไปพวกเรายังมีเวลาอีกมากมาย ผมแค่หวังว่าคุณจะไม่ผลักผมออกไปอีก อย่าจากผมไป ได้ไหม?”

คำพูดของเขาก็เหมือนกับการถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า หัวของเจียงสื้อสื้อเหมือนมีเข็มมาแทง พูดอะไรไม่ออก

ผ่านไปกี่นาทีเจียงสื้อสื้อก็ได้ควรคุมสติได้ รู้สึกถึงกลิ่นอายของจิ้นเฟิงเฉินที่ได้ล้อมเธออยู่ อ่อนโยนจนทำให้คนนั้นหลงใหล

เจียงสื้อสื้อกำมือเบาๆ อยากจะทำลายบรรยากาศแบบนี้

แต่จิ้นเฟิงเฉินกลับก่อนเธอไว้แน่น ผ่านไปนานก็ได้พูดว่า “ไม่ต้องขยับ ให้ผมกอดต่ออีกหน่อย แค่อีกหน่อยได้ไหม? หลายครั้งแล้ว ที่ผมนั้นได้เห็นเหตุการณ์นี้ในความฝัน ทุกครั้งที่ตื่นมา ข้างๆ ไม่มีใครเลยสักคน”

เจียงสื้อสื้อรู้สึกว่าถ้าตัวเองฟังไปต่อ ต้องใจอ่อนจริงๆ แน่ๆ ก็ได้ผลักคนออกไปอย่างแรง แต่ก็ถูกจิ้นเฟิงเฉินกอดไว้จากด้านหลัง

จิ้นเฟิงเฉินได้สูดหายใจเข้าไปลึกๆ เจียงสื้อสื้อรู้สึกได้ เขาได้พยายามกดความเจ็บปวดที่อยู่ส่วนลึกในใจลงไป

ลมหายใจของเขาร้อนมาก น้ำเสียงเป็นเพราะว่าเสียใจก็ได้ดูเศร้า

“คุณอาจจะจำอะไรไม่ได้เลย แต่ผมจำได้ว่าพวกเราดูหนังด้วยกัน ผมส่งดอกไม้ให้คุณ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!