บทที่ 591 หนทางที่วิ่งตามภรรยาอย่างยาวไกล
เห็นเสี่ยวเป่าวิ่งกลับมากับตา จิ้นเฟิงเฉินจึงอุ้มลูกขึ้นมา
ชะงักหนึ่งคำพูดว่า “คุณจะไปก็ได้ แต่ว่าผมจะพาเสี่ยวเป่าไปหาด้วย ถึงแม้ว่าคุณนึกอะไรไม่ออก ผมก็จะไม่ละทิ้งคุณเช่นกัน”
สำหรับคำพูดของจิ้นเฟิงเฉิน เจียงสื้อสื้อไม่ได้ตอบกลับ
บนใบหน้าฝู้จิงเหวินไม่พูด แต่ในใจหัวเราะเย็นชาเสียงหนึ่ง
แต่เถียนเถียนกลับลาคนทั้งสองอย่างอาลัยอาวรณ์ คนทั้งหลายนี่จึงออกไป
ก่อนที่จะตรวจเช็กความปลอดภัย เจียงสื้อสื้อหันหลังมองไป
ตอนที่มา ท้องฟ้าของเมืองเป่ยเป็นสีครามเข้ม ทั้งหมดล้วนสดใหม่ขนาดนั้น ทำให้คนใฝ่หา
อากาศของวันนี้แจ่มใสเหมือนเดิม ไม่ต่างกันกับวันนั้นสักนิด
แต่ว่าอารมณ์กลับไม่รู้ว่าเป็นยังไง ปิดคลุมด้วยสีเทาบางๆชั้นหนึ่ง
สีหน้าที่ห่อเหี่ยวพรั่งพรูออกมาจากนัยน์ตาของเธอ จ้องมองทิศทางของประตูใจลอยเล็กน้อย
“เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
ฝู้จิงเหวินเห็นสีหน้าของเธอกับตา ในใจเสียงดังกุ๊กๆหนึ่งที มือที่อุ้มเถียนเถียนไว้ออกแรงเล็กน้อย ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความรู้สึกตื่นเต้น
เจียงสื้อสื้อคืนสติ ยิ้มอ่อนโยนกับฝู้จิงเหวินหนึ่งที เธอส่ายหัวต่อๆกัน “ไม่มีอะไร พวกไปเถอะ”
เธอย่างก้าวเดินไปยังข้างหน้า ก้าวไปในประตูตรวจเช็กความปลอดภัย
ฝู้จิงเหวินเห็นสภาพ ก็โล่งอกเช่นกัน ย่างก้าวใหญ่ตามจนทันเจียงสื้อสื้อ
ไม่มากก็น้อยเขาล้วนรู้สึกได้ถึงความปรารถนาที่จะกลับประเทศฝรั่งเศสของเจียงสื้อสื้อกับเถียนเถียนไม่ค่อยรุนแรงมาก
หลังจากเครื่องบินพุ่งขึ้นไปบนก้อนเมฆ ค่อยๆสงบนิ่งลงมา เถียนเถียนชี้ไปนอกหน้าต่าง มีความตื่นเต้นดีอกดีใจเล็กน้อยพูดว่า “แฮ่ๆ ขนมสายไหมเยอะมาก”
ฝู้จิงเหวินมองตามเสียงไป มองเห็นเมฆสีขาวที่ลอยรวมอยู่ด้วยกันนอกหน้าต่าง หัวใจที่แขวนไว้ดวงนั้นจึงผ่อนคลายลงโดยสิ้นเชิง
ในที่สุดก็ไม่ได้เกิดเรื่องที่ “บังเอิญ” นั่งเครื่องบินลำเดียวกันกับพ่อลูกคู่นั้น
ตระกูลจิ้นในเวลานี้ บรรยากาศมีความประหลาดเล็กน้อย
หลังจากลาจากเจียงสื้อสื้อแล้ว จิ้นเฟิงเฉินก็จองเที่ยวบินถัดไปกลับประเทศฝรั่งเศส
พ่อลูกทั้งสองกำลังเก็บกระเป๋าอย่างไม่รีบไม่ร้อน ทั้งตระกูลจิ้นก็ล้วนรวมตัวอยู่ด้วยกัน
จิ้นเฟิงเหราตำหนิเต็มใบหน้าจ้องมองจิ้นเฟิงเฉิน คราวนี้เขากำลังช่วยยัดของเข้าไปในกระเป๋าเดินทางของเสี่ยวเป่า เอ่ยปากอย่างไม่พอใจพูดว่า “พี่ชาย คุณทำไมไม่จองไฟล์บินกับพี่สะใภ้นั่น ให้โอกาสพวกเขาทั้งสองอยู่ลำพัง อันตรายขนาดไหน!”
อยู่ในสายตาของจิ้นเฟิงเหรา ฝู้จิงเหวินเป็นบุคคลอันตรายอันดับแรกที่จะทำร้ายจิ้นเฟิงเฉินกับเจียงสื้อสื้อไม่ให้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง ไม่ว่าดูยังไงก็มีความรู้สึกคลื่นไส้อย่างนั้น
“ยังมีเถียนเถียนล่ะ ไม่ถือว่าอยู่ตามลำพัง”
บนใบหน้าที่คลื่นลมสงบเงียบของจิ้นเฟิงเฉินกวาดผ่านลูกคลื่นเล็กน้อยหนึ่งที เขามีความวุ่นวายใจเล็กน้อยพูดไปประโยคหนึ่ง
จิ้นเฟิงเหราไม่รู้สึกตัวสักนิด เติมฟืนใส่ต่อ “นั่นก็อันตรายเช่นกันล่ะ อย่าดูไอ้หนูนั่นวางมาดภูมิฐานมีศีลธรรม ลับหลังไม่รู้ว่าใจชั่วร้ายขนาดไหนล่ะ ตามที่ผมดูนะ พี่ชาย คุณก็ควรพุ่งเข้าไป ป้องกันหน่อยจึงจะถูก”
แม่จิ้นที่อยู่ข้างๆฟังอยู่ อดไม่ไหวหยิกจิ้นเฟิงเหราหนึ่งที เจ็บจนเขาแยกเขี้ยวยิงฟัน ยังไม่กล้าร้องออกมา
จิ้นเฟิงเฉินก้มหน้าเล็กน้อย กลุ้มใจ ฮึ หนึ่งที จากนั้นส่ายหัวต่อๆกันพูดว่า “กระต่ายบีบจนร้อนใจก็จะกัดคนนะ ตอนนี้ยังใจร้อนเกินไปไม่ได้”
เขาไม่อยากบีบประชิดเจียงสื้อสื้อแน่นเกินไป ด้วยนิสัยของเธอเป็นไปได้มากที่อาจจะทำตรงข้ามกับที่คาดหวัง
รักษาระยะห่างอย่างเหมาะสมหน่อย แต่จะพาเสี่ยวเป่าเดินผ่านหน้าเธอบ่อยๆ ผลลัพธ์จะดีกว่าเยอะ
พ่อจิ้นอยู่ข้างๆก็คล้อยตาม พูดว่า “สิ่งที่เฟิงเฉินพูดมีเหตุผล เดินผ่านไปผ่านมาอยู่หน้าเกินไปไม่ได้จริงๆ วันนี้ไม่เหมือนแต่ก่อน ตอนนี้สื้อสื้อจำพวกเราไม่ได้แล้ว ติดตามแน่นเกินไป ง่ายที่จะทำให้เธอเกิดความรู้สึกไม่พอใจ”
ในเวลานี้สีหน้าของจิ้นเฟิงเหราจึงรู้แจ้งกระจ่างในฉับพลัน ตอนที่จ้องมองไปยังจิ้นเฟิงเฉิน อิอิ อุทานอย่างตื่นตะลึง
พี่ชายเขาคนนี้เป็นหมาป่าตัวใหญ่สีเทาที่ฝึกฝนมาหลายปีล่ะ ปากหวานก้นเปรี้ยวเหลือเกิน! ยังเล่นกลยุทธ์ที่ต้องการจะจับให้อยู่หมัดก็เลยแสร้งทำเป็นปล่อยไปก่อนนะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!