ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 622

สรุปบท บทที่ 622 ขอแค่หม่ามี๊ตอบตกลง: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

สรุปตอน บทที่ 622 ขอแค่หม่ามี๊ตอบตกลง – จากเรื่อง ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว

ตอน บทที่ 622 ขอแค่หม่ามี๊ตอบตกลง ของนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์เรื่องดัง ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดยนักเขียน เมียวเมียว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 622 ขอแค่หม่ามี๊ตอบตกลง

เถียนเถียนกอดคอของจิ้นเฟิงเฉินไว้แน่น แล้วพูดว่าอย่างตื่นเต้นว่า "อ้อเย้ย! ของขวัญที่เถียนเถียนอยากได้ก็คือ พวกเราสี่คนอยู่ด้วยกัน!”

คำพูดของเด็กไร้เดียงสา แต่คนฟังมีเจตนาคิด

ผู้ใหญ่ทั้งสองต่างตกตะลึง เจียงสื้อสื้อยิ่งคิดไม่ถึงเลยว่าเถียนเถียนจะพูดคำแบบนี้ออกมาได้

บรรยากาศเงียบสงัดไปครู่หนึ่ง จิ้นเฟิงเฉินมีปฏิกิริยาตอบสนองแล้วตอบกลับไปว่า "ได้ครับ ขอแค่หม่ามี๊ตอบตกลง ครอบครัวเราก็สามารถอยู่ด้วยกันได้แล้ว"

เถียนเถียนได้ยินเช่นนี้จึงมองไปที่เจียงสื้อสื้อด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง แล้วพูดอย่างอ้อนวอนว่า "หม่ามี๊~"

มองดูพวกเขามองมาด้วยสีหน้าคาดหวัง เจียงสื้อสื้อก็รู้สึกไม่สบายตัวเล็กน้อย

"เอาล่ะ เถียนเถียนไม่ดื้อนะคะ รีบลงมาเถอะ คุณลุงจิ้นยังมีงานต้องยุ่งนะ"

เจียงสื้อสื้อหลีกเลี่ยงหัวข้อสนทนาเมื่อสักครู่นี้ไป แล้วรับเถียนเถียนมาจากมือของจิ้นเฟิงเฉิน

เมื่อเห็นว่าเธอกำลังหลบหนี จิ้นเฟิงเฉินก็ไม่ได้ยึดติดกับคำถามนั้นอีก

เขาก็พูดตามคำพูดของเจียงสื้อสื้อไปว่า "พอดีที่ผมต้องไปคุยกับหมอรักษาของเสี่ยวเป่า ก็ขอฝากเสี่ยวเป่าให้คุณดูแลอีกทีละกันนะ"

"อืม"

เจียงสื้อสื้อตอบกลับอย่างเฉยเมย แล้วออกไปกรอกน้ำให้เสี่ยวเป่า

จิ้นเฟิงเฉินเห็นเช่นนี้ก็เดินตามออกไป เถียนเถียนกำลังคุยกับเสี่ยวเป่าอยู่หน้าเตียงผู้ป่วย เสี่ยวเป่าเองก็ฟังความคิดเห็นแปลกของหนูน้อยอย่างใจเย็น

แสงแดดหลังเที่ยงนั้นอบอุ่นและอุ่นสบาย ส่องแสงไปบนร่างกายเล็ก ๆ ของเจ้าตัวเล็กสองคนที่นั่งอยู่บนเตียง ดูกลมกลืนกันมาก

ในห้องตรวจ จิ้นเฟิงเฉินถือแผ่นตรวจของเสี่ยวเป่าไว้ในมือ กระดูกบนทรุดเล็กน้อย

แพทย์ชี้ไปที่ส่วนบนของแผ่นเอกซเรย์กล่าวว่า"ขาจุดนี้ของเด็กได้รับบาดเจ็บค่อนข้างรุนแรง กระดูกอ่อนด้านในบาดเจ็บ ส่งผลกระทบต่ออนาคตค่อนข้างมาก"

จิ้นเฟิงเฉินวางแผ่นเอกซเรย์ลงแล้วถามว่า "ต้องใช้เวลารักษาอีกนานแค่ไหนครับ?”

"พรุ่งนี้จะทำการรีเซตกระดูกให้เขา หากรีเซตได้ดี ก็สามารถทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลได้ภายในสามวัน หากผลออกมาไม่ค่อยดีนักคงต้องอยู่สังเกตอาการอีกสักพักครับ"

จิ้นเฟิงเฉินได้ยินเช่นนี้แล้ว สีหน้าของเขามืดครึ้มลงเล็กน้อย

สงสารเสียวเป่าที่ต้องทนทุกข์ทรมานขนาดนี้ทั้งที่อายุยังน้อย น่าเจ็บใจจริงๆ

เมื่อออกจากห้องตรวจ จิ้นเฟิงเฉินก็กลับเข้าห้องผู้ป่วย เห็นภาพที่ทั้งสามคนพูดคุยและหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน อารมณ์ของเขาก็สดใสขึ้นมา

เห็นสีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินไม่ค่อยดีนัก เจียงสื้อสื้อก็ถามอย่างกังวล "หมอว่ายังไงบ้างคะ อาการของเสี่ยวเป่าหนักไหม?”

"ไม่หนักเท่าไหร่ แต่แค่ต้องสังเกตอาหารอีกสักพัก พรุ่งนี้จะมีการผ่าตัดรีเซต ถ้าไม่มีอะไร ก็สามารถทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลได้เลย"

หลังจากพูดจบ หัวใจของเจียงสื้อสื้อก็ผ่อนคลายลง

เธอลูบที่หน้าผากของเสี่ยวเป่าเบา ๆ และกล่าวว่า "ถ้าเสี่ยวเป่าให้ความร่วมมือกับบุคลากรทางการแพทย์ อาการก็จะดีขึ้นโดยเร็วที่สุดอย่างแน่นอนค่ะ”

"ใช่แล้วค่ะพี่ชาย เถียนเถียนจะให้กำลังใจพี่เอง! "

เถียนเถียนพูดไปพร้อมกระโดดโลดเต้นอยู่กับพื้น แขนเล็กๆ และขาเล็กๆ ของเธอทำให้ทั้งสามคนหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข

เสี่ยวเป่าที่นอนอยู่บนเตียงดึงชายเสื้อของเจียงสื้อสื้อแล้วกระซิบว่า "หม่ามี๊ครับ ผ่าตัดของพรุ่งนี้หม่ามี๊มาได้ไหมครับ มีหม่ามี๊อยู่ผมก็จะไม่กลัวแล้วครับ”

"แน่นอนว่ามาได้ค่ะ ฉันจะมานะ" เจียงสื้อสื้อกล่าวออกมาอย่างอ่อนโยน

หลังจากอยู่ในโรงพยาบาลไปอีกพักหนึ่ง เจียงสื้อสื้อก็พาเถียนเถียนกลับไป

จิ้นเฟิงเฉินยืนอยู่ตรงหน้าหน้าต่างแล้วมองไปที่แผ่นหลังของสองแม่ลูกที่เดินจากไป ความคิดในใจที่อยากจะเก็บเธอไว้รอบๆ กายมันก็ยิ่งเพิ่มขึ้น

"แด๊ดดี๊ ถ้าแด๊ดดี๊มีเรื่องยุ่งก็ไปยุ่งก่อนได้นะครับ ผมอยู่ที่นี่เองได้ไม่เป็นไร"

เมื่อเห็นว่าทั้งสองกลับมาดีกันเหมือนเมื่อก่อน ผู้อาวุโสสองที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็โล่งใจ

แต่ว่าตอนนี้เจียงสื้อสื้อใจลอยเล็กน้อย ในหัวของเธอมีเงาร่างของจิ้นเฟิงเฉินแวบออกมาอยู่ตลอด

เธอรู้ว่ามันไม่ควร แต่เธอไม่สามารถควบคุมหัวใจของเธอได้

หลังจากรับประทานอาหารค่ำเรียบร้อย ฝู้จิงเหวินก็เสนอที่จะออกไปเดินเล่นข้างนอก เจียงสื้อสื้อลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอไม่ได้ปฏิเสธ

ผู้อาวุโสทั้งสองของตระกูลฝู้พาเถียนเถียนไปอย่างรู้งาน โดยไม่รบกวนโลกส่วนตัวของทั้งคู่

เมื่อเดินไปตามถนน ทั้งเจียงสื้อสื้อและฝู้จิงเหวินต่างก็เงียบกริบ

ฝู้จิงเหวินอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเห็นท่าทางของเจียงสื้อสื้อดูมีเรื่องในใจ เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดออกมายังไงดี

การพัฒนาความสัมพันธ์ในครั้งนี้ล้มเหลว

วันรุ่งขึ้นเจียงสื้อสื้อมาถึงโรงพยาบาลแต่เช้า เพราะว่าวันนี้เสี่ยวเป่าต้องเข้ารับการผ่าตัดเล็กๆ

เสียวเป่าเห็นเจียงสื้อสื้อปรากฏตัวตรงเวลาก็ดีใจมาก เขากอดเจียงสื้อสื้อแล้วเข้าห้องผ่าตัดไปอย่างเชื่อฟัง

ในโถงทางเดิน เจียงสื้อสื้อนั่งอยู่บนม้านั่ง แล้วมองไปทางห้องผ่าตัดด้วยความกังวล

สายตาของจิ้นเฟิงเฉินจ้องไปที่เจียงสื้อสื้อ หลายวันที่ผ่านมานี้เธอผอมลงเยอะมาก รูปร่างของเธอผอมบางกว่าเมื่อก่อนไปมาก

ดวงตาที่จ้องอยู่ทางข้างหลังเขาร้อนผ่าวเกินไป เจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะตัวหดกลับ

จิ้นเฟิงเฉินเห็นเช่นนี้ก็นั่งลงข้างๆ เจียงสื้อสื้อแล้วถอดเสื้อผ้าออกมา

"อุณหภูมิที่นี่จะเย็นกว่าข้างนอกเล็กน้อย ระวังอย่าเป็นหวัดด้วย"

เสื้อผ้าที่คลุมตัวเธอไว้ยังแฝงไปด้วยกลิ่นของจิ้นเฟิงเฉิน เจียงสื้อสื้อก็หน้าแดงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!