บทที่742 ฟังเธอ – ตอนที่ต้องอ่านของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!
ตอนนี้ของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่742 ฟังเธอ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่742 ฟังเธอ
กู้เนี่ยนตกตะลึงและตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าเจียงสื้อสื้อกำลังถามอะไร
เขาฝืนยิ้มและพูดเสียงขรึม “ไม่ค่อยดีครับ แต่ก็ยังดำเนินต่อไปได้”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ดวงตาของเจียงสื้อสื้อก็หรี่ลงเล็กน้อย
ไม่รู้ทำไม หัวใจของเธอดูเหมือนจะถูกกดทับกับก้อนหิน เศร้าหมอง
แม้แต่ ไร่องุ่นฝู้ซื่อ ก็ยังทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง รอไม่ไหวที่จะขีดเส้นแบ่งกับ JSกรุ๊ป หุ้นส่วนอื่นๆ ก็คงคิดแบบเดียวกัน
กู้เนี่ยนเห็นการแสดงออกของเจียงสื้อสื้อและอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
“ปัญหาตอนนี้คือท่านประธาน คุณช่วยกล่อมเขาทีสิครับ”
“เขาทำไมเหรอคะ?” เจียงสื้อสื้อมองไปที่กู้เนี่ยนด้วยความสงสัยด้วยความกังวลในแววตา
ดวงตากลมของเถียนเถียนก็ปรือตามไปด้วย
“ตั้งแต่เกิดเรื่อง ท่านประธานก็ทำงานหนักติดต่อกันมาเป็นเวลานาน ไม่ว่าจะกล่อมยังไงก็ไม่ยอมพัก ผมกลัวร่างกายจะรับไม่ไหว เดี๋ยวคุณช่วยกล่อมเขาทีนะครับ เขาค่อนข้างจะฟังคุณ”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้าและขมวดคิ้วเล็กน้อย
ระหว่างการพูดคุยพวกเขาทั้งสามคนได้เดินไปที่ประตูห้องทำงานแล้ว
ประตูห้องทำงานของจิ้นเฟิงเฉินถูกแง้มผ่านช่องว่าง เจียงสื้อสื้อเห็นใบหน้าด้านข้างของเขา
คิ้วของเขาขมวดเล็กน้อยเหมือนกับกำลังปรึกษาอะไรบางอย่างกับทางนั้น
มีความเหนื่อยเล็กน้อยบนใบหน้าหล่อและสันกรามแน่น
“ท่านประธานครับ” กู้เนี่ยนเคาะประตูเป็นสัญลักษณ์
จิ้นเฟิงเฉินเงยหน้าและมองไปที่เจียงสื้อสื้อ
ดวงตาที่แดงก่ำเปื้อนไปด้วยความอ่อนโยนและความสนิทสนม
ราวกับพบท่าเรือ ขจัดความเหน็บหนาวออกไป
“คุณช่วยพิจารณาดูอีกทีว่ายังร่วมมือกันต่อได้รึเปล่า วันนี้แค่นี้ก่อนแล้วกัน แล้วจะติดต่อคุณอีกที”
เขาพูดกับคนที่อยู่อีกด้านหนึ่งของวิดีโอจากนั้นก็ตัดสาย
จากนั้น ก็มองไปที่เจียงสื้อสื้อด้วยความลึกซึ้ง จิ้นเฟิงเฉินยิ้มเล็กน้อยออกมา “มาแล้ว”
“อือ” เจียงสื้อสื้อพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปด้านใน
“แด๊ดดี้!”
ทันทีที่เถียนเถียนเห็นจิ้นเฟิงเฉิน แววตาก็เป็นประกายทั้งสองข้าง
สองเท้าเตะขึ้นไปในอากาศและเคลื่อนไหวเพื่อให้เจียงสื้อสื้อปล่อยเธอลง
จิ้นเฟิงเฉินยิ้มที่มุมปากและก้มตัวลงไปอุ้มหนูน้อยขึ้นมา
หนูน้อยหอมแก้มของเขา และกอดจิ้นเฟิงเฉินแน่นเหมือนหมีโคอาล่า
เพียงไม่นานเสื้อผ้าของเขาก็ถูกทำให้ยับยู่ยี่
และพูดจาออดอ้อนเสียงหวาน “แด๊ดดี้คะ เถียนเถียนคิดถึงแด๊ดดี้มากค่ะ แด๊ดดี้ไม่มาหาเถียนเถียนเลย”
จิตใจอันอ่อนนุ่มของจิ้นเฟิงเฉินถูกโจมตีเข้าแล้วและมีเพียงความอ่อนโยนในดวงตาของเขา
“ขอโทษนะ แด๊ดดี้ผิดเอง”
เขาลูบศีรษะหนูน้อยอย่างรักใคร่และจากนั้นเขาก็เล่นกับหนูน้อย
เจียงสื้อสื้อมองไปที่หนูน้อยที่ตัวติดกับจิ้นเฟิงเฉินไม่ปล่อยและอดไม่ได้ที่จะถาม “พวกเรามารบกวนเวลางานของคุณรึเปล่าคะ?”
“ไม่หรอก”
จิ้นเฟิงเฉินไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย
วินาทีถัดมาเจียงสื้อสื้อก็มองไปที่จิ้นเฟิงเฉินอย่างสงสัยและเอ่ยถามออกไปตรงๆ “ฉันได้ยินว่าบริษัทคุณสถานการณ์ไม่ค่อยดี”
เมื่อได้ยินจิ้นเฟิงเฉินก็นิ่งไปครู่หนึ่งแล้วหันไปมองกู้เนี่ยนที่อยู่ด้านข้าง
ด้วยสายตาเย็นชา
กู้เนี่ยนรีบหลบสายตาด้วยความรู้สึกผิด
“ผมไปชงชาก่อน”
รีบหาข้ออ้างเพื่อปลีกตัวออกไป
จิ้นเฟิงเฉินหันมามองหน้าเจียงสื้อสื้อและปลอบใจ “วางใจเถอะ ไม่มีอะไรร้ายแรง เรื่องทางนี้เล็กนิดเดียวไม่เท่าทางคุณ ไม่ต้องห่วง”
เจียงสื้อสื้อมองหน้าเขาแบบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
“ฟังคุณแล้ว”
ทันใดนั้นจิ้นเฟิงเฉินก็หัวเราะเบา ๆ เอื้อมมือไปเลื่อนกล่องอาหารกลางวันตรงหน้าเขาและเปิดถุงสามครั้ง
จากนั้นก็ฉีกตะเกียบและกินอย่างเชื่องช้า
เจียงสื้อสื้อนิ่งไปครู่หนึ่งและคิดไม่ถึงว่าจิ้นเฟิงเฉินจะให้ความร่วมมือแบบนี้ บอกให้กินก็กิน
“อร่อยไหมคะ? แด๊ดดี้”
เมื่อได้กลิ่นหอมเถียนเถียนกลืนน้ำลายอึกและเงยหน้ามองจิ้นเฟิงเฉิน
จิ้นเฟิงเฉินยิ้ม “พอได้ เถียนเถียนอยากลองชิมสักนิดไหม?”
พูดจบเถียนเถียนก็หันมาถามเจียงสื้อสื้อ “หม่ามี๊ ได้ไหมคะ?”
“ได้แค่นิดเดียวพอนะจ๊ะ” เจียงสื้อสื้อดึงสติกลับมาและตอบ
“ให้เธออันนี้ก็ได้ค่ะ ไม่ต้องเยอะเกินไป เมื่อกี้เธอกินอะไรมาเยอะแล้ว”
ระหว่างที่พูดก็มองดูของที่อยู่ในกล่องข้าวของจิ้นเฟิงเฉินแล้วชี้ไปให้จิ้นเฟิงเฉินป้อนหนูน้อยชิ้นหนึ่ง
ในตอนที่กู้เนี่ยนเข้ามาและเห็นภาพนี้และยิ้มอย่างรู้ทัน
สุดท้ายมีเพียงคุณหญิงที่จะกล่อมคุณชายได้
เขาชักแม่น้ำทั้งห้าก็ไม่สามารถทำให้จิ้นเฟิงเฉินรับฟังได้ เจียงสื้อสื้อพูดเพียงคำเดียวก็มีประโยชน์แล้ว
ในใจรู้สึกหมดหนทางเล็กน้อย แต่ก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง
หากยังไม่กินต่อไป เขากลัวจริงๆ ว่าจิ้นเฟิงเฉินจะเหนื่อยเกินไป
“คุณนาย ชาครับ”
“ขอบคุณค่ะ” เจียงสื้อสื้อยิ้มและขอบคุณ
หลังอาหารเย็น พวกเขาคุยกันสักพัก
เถียนเถียนในตอนนี้เล่นจนเหนื่อยและนอนหลับพิงอยู่ในอ้อมกอดของเจียงสื้อสื้อ
หลังจากเจียงสื้อสื้อรู้ตัวอีกทีก็พบว่าบ่ายแล้ว
หลังจากมองไปที่จิ้นเฟิงเฉิน เธอยืนขึ้นและพูดขึ้น “รบกวนคุณนานแล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันกับเถียนเถียนกลับก่อนดีกว่า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!