" เถียนเถียน "
เจียงสื้อสื้อรีบวิ่งเข้าไปหา
เมื่อได้ยินเสียงของเธอ เถียนเถียนที่กำลังร้องไห้อยู่ก็หยุดทันที แล้วหันไปมอง
เมื่อเห็นว่าเป็นเธอจริง ๆ ก็ยิ่งร้องไห้เสียใจหนักกว่าเก่า
" โอ๋ลูกรัก ไม่ร้องนะคะ " เจียงสื้อสื้อรีบกอดเธอเข้าในอ้อมอก แล้วก้มลงจุ๊บหน้าผากเธอเบา ๆ น้ำตาก็อดที่จะไหลออกมาไม่ได้
" พวกเธอกลับมาสักทีนะ "
แม่จิ้นถอนหายใจ เธอเห็นจิ้นเฟิงเฉินที่เดินเข้ามา เลยพูดต่อ " เถียนเถียนร้องไห้อยู่ตั้งนาน ปลอบยังไงก็ไม่หยุดร้อง "
น้ำเสียงของเธอไม่มีความรำคาญผุดออกมาเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่รู้สึกเป็นห่วงและเป็นกังวล
จิ้นเฟิงเฉินเข้ามาใกล้ ก่อนจะลูบหัวเถียนเถียนอย่างเบามือ คิ้วคมนั้นขมวดขึ้น " หมอว่ายังไงบ้าง "
" หมอบอกว่าช่วงนี้เป็นช่วงของไข้หวัด ภูมิต้านทานของเด็กนั้นไม่ค่อยดีนัก อาจจะหายป่วยได้ค่อนข้างช้า "
เถียนเถียนที่ร้องไห้จนเหนื่อยก็ผล็อยหลับลงในอ้อมอกของเจียงสื้อสื้อ ใบหน้าน้อย ๆ นั่นยังคงแดงเหมือนเก่า
เจียงสื้อสื้อประคองหัวของเธอเบา ๆ ช่างน่าปวดใจเหลือเกิน
" อันที่จริงแค่ฉีดยาสักเข็มก็ดีขึ้นแล้ว "
เจียงสื้อสื้อส่ายหัว ไม่เห็นด้วยที่ต้องฉีดยา " ให้กินยาก่อนดีกว่าค่ะ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นค่อยว่ากัน "
จากนั้น เธอก็ไปห้องน้ำบิดผ้าชุบน้ำร้อนเพื่อจะเช็ดตัวให้เถียนเถียน ให้ไข้ของเธอลดลง
จิ้นเฟิงเฉินกลัวเธอจะเหนื่อย เลยแย่งผ้าไป " ผมทำเอว คุณนั่งเถอะ "
เจียงสื้อสื้อไม่ได้ปฏิเสธ นั่งลงข้าง ๆ อย่างว่าง่าย
เขามองไปที่เธอ จากนั้นก็มองเถียนเถียนแล้วเช็ดที่มือเล็ก ๆ นั้นเบา ๆ ด้วยท่าทีที่จดจ่อเป็นพิเศษ
เจียงสื้อสื้อที่มองใบหน้าที่กำลังจดจ่อกับเรื่องตรงหน้าอยู่ข้าง ๆ นัยน์ตาก็มีประกายบางอย่าง ก่อนมุมปากจะยิ้มขึ้นมา
มีเขาอยู่ คือความสบายใจที่พิเศษที่สุดเลย
แม่จิ้นมองลูกชายสลับกับลูกสะใภ้ ก็ยิ้ม แล้วเดินออกจากห้องไปอย่างรู้งาน
......
เถียนเถียนที่หลับไปทั้งครึ่งวันเช้าก็ตื่นขึ้นมา อาการดูดีขึ้นมาก
เจียงสื้อสื้อวัดไข้ให้เธอ ถึงไข้จะไม่ลดร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ไข้ก็ไม่ได้สูงเหมือนตอนแรก
" หม่ามี๊ หิวแล้ว "
เถียนเถียนวอแวกับเธอ
เจียงสื้อสื้อลูบหัวเธออย่างเอ็นดู " อยากกินอะไรจ๊ะ หม่ามี๊จะทำให้หนูเอง "
แค่ได้ยินว่าเธอจะทำกับข้าวให้ เถียนเถียนก็ตาเป็นประกาย " หนูอยากกินบะหมี่ค่ะ "
" ได้จ้ะ เดี๋ยวแม่ไปต้มบะหมี่ให้นะ "
เจียงสื้อสื้อให้เธอนอนอยู่บนเตียง อย่าไปวิ่งเล่นที่ไหน แล้วเธอก็เดินลงมาชั้นล่าง
" เถียนเถียนเป็นยังไงบ้าง "
" ไข้ลดแล้วค่ะ อารมณ์ก็เป็นปกติดี "
แม่จิ้นได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ " ถ้างั้นค่อยยังชั่ว "
คำพูดของหมอทำให้เธอรู้สึกกังวลว่าไข้จะไม่ลด แต่ตอนนี้เห็นทีว่าตัวเองจะกังวลเกินไป
" แล้วเธอจะทำอะไรต่อล่ะ " แม่จิ้นถามต่อ
เจียงสื้อสื้อเดินไปในครัวพลางตอบ " เถียนเถียนอยากกินบะหมี่ค่ะ ฉันจะต้มให้เธอกินสักหน่อย "
" ถ้างั้นให้ฉันช่วยไหม " แม่จิ้นตามไป
เจียงสื้อสื้อหันกลับไปมอง ยิ้มน้อย ๆ " ไม่ต้องหรอกแม่ ท่านไปพักเถอะค่ะ พอเถียนเถียนป่วย ก็ลำบากคุณแม่จะแย่แล้ว "
แม่จิ้นไม่ยื้อต่อ " โอเคจ้ะ "
จิ้นเฟิงเฉินตอนแรกกำลังง่วนอยู่ในห้องหนังสือ เมื่อจัดการธุระเสร็จออกมา พ่อบ้านก็รายงานว่าคุณหญิงกำลังยุ่งอยู่ในครัว
เขาเลยเปลี่ยนทิศทาง เดินไปที่ห้องครัวแทน
เดินไปถึงห้องครัว ก็เห็นร่างสูงเรียวกำลังยุ่งอยู่กับงานตรงหน้า
สายตาที่แข็งกระด้างนั้นก็ดูอ่อนลง เขาค่อย ๆ เข้าไป " ต้มอะไรอยู่เหรอ "
จู่ ๆ เสียงที่ดังขึ้น ทำให้ใจของเจียงสื้อสื้อตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม ร้องออกมาด้วยความตกใจ
พอหันกลับมา เมื่อเห็นว่าเป็นเขา ก็ดุไปหนึ่งที " คุณเข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียง ฉันตกใจหมดเลย "
" ต้มอะไรล่ะ " จิ้นเฟิงเฉินมองลงไปในหม้อ
" เถียนเถียนอยากกินบะหมี่ที่ฉันทำ " เจียงสื้อสื้อกลับเส้นบะหมี่ที่ก้นหม้อขึ้นมา
จิ้นเฟิงเฉินเลิกคิ้ว " ทำเยอะรึเปล่า "
เจียงสื้อสื้อได้ยินดังนั้นก็ยิ้ม แล้วเหลือบตามอง " ทำไม คุณก็อยากกินเหรอ "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!