พญาดำร้องโหยหวน หนอนกู่ทะลุผ่านเลือดเนื้อของเขา มุดเข้าด้านในร่างกายไม่หยุด
เย่เซิ่งเทียนเก็บเขาเข้าในถุงเก็บของ และไม่สนใจอีก
เหย้เฉิงพูดแบบตื่นเต้น “ตอนนี้เทพอาวุโสสี่ทิศแห่งสรวงสวรรค์ และแปดผู้อาวุโสโดนกำจัดทั้งหมด สรวงสวรรค์ยังเหลืออยู่แต่ในนาม สามารถเริ่มเปิดศึกทำลายล้างสรวงสวรรค์ได้แล้ว”
เย่เซิ่งเทียนขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “จนถึงตอนนี้มหาพญาเทพยังไม่ปรากฏตัวออกมา ยังให้ความสำคัญกับการระวังตัว ไม่รู้ว่าเขายังมีแผนการชั่วร้ายอะไรอีก”
เย่ม่อพูดแบบเห็นด้วย “มหาพญาเทพเป็นคนเจ้าเล่ห์และโหดร้าย เทพอาวุโสสี่ทิศและแปดผู้อาวุโสล้วนตายกันหมดแล้ว เขาไม่ปรากฏออกมาเลย หมายความว่าเขาไม่ใส่ใจ มีเพียงความเป็นไปได้สองอย่าง อย่างแรกคือเขาคิดว่าคนพวกนี้สามารถจัดการพวกเราได้ อย่างที่สองอาจจะเป็นเพราะเขามีแผนการที่ใหญ่กว่า มีทางออกที่แกร่งกว่า”
ฟังคำพูดพวกนี้แล้ว แววความตื่นเต้นของเหย้เฉิงก็จางหายไปไม่น้อย พูดแบบกลัดกลุ้ม “กลัวว่าความสามารถของมหาพญาเทพจะไปถึงแดนเทพแล้วนะสิ แบบนั้นถึงเป็นอันตรายโดยแท้จริง”
เหย้เฟิงเงียบงันอยู่สักพักหนึ่ง ถึงบอกว่า “ตอนที่พวกเรามัวรบกันอยู่ทางนี้ มหาพญาเทพก็ปลดผนึกออกแล้วหรือเปล่า?”
เหย้หมิงส่ายหน้าตอบว่า “เป็นไปไม่ได้ ถ้าผนึกถูกเปิดออก ทำไมจนถึงตอนนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหว?”
หลายคนนี้ขมวดคิ้วครุ่นคิด เรื่องราวยังคงซับซ้อนมาก
มหาพญาเทพไม่ปรากฏตัวออกมา ยังคงอันตรายอย่างหนัก
ทันใดนั้นเย่ม่อพูดว่า “มีความเป็นไปได้อย่างหนึ่ง ในความเป็นจริงมหาพญาเทพก็ควบคุมวิหารปีศาจเอาไว้แล้วหรือเปล่า?”
พูดแบบนี้ออกมา คนอื่นๆ ต่างเงียบงันหมด
นี่คือผลลัพธ์ที่ย่ำแย่ที่สุด
ถ้าเป็นแบบนี้ งั้นหมายความว่าวิหารปีศาจก็กลายเป็นเหมือนหมูในอวยของมหาพญาเทพไปตั้งแต่แรกแล้ว
แต่ว่าพวกเขาทั้งสี่คนอยู่ที่วิหารปีศาจมาเป็นเวลานานขนาดนั้น ล้วนไม่พบความผิดปกติอะไร
โดยเฉพาะเย่เซิ่งเทียนยังได้รับบุญบารมีมาจากที่นั่นด้วย
ถ้าวิหารปีศาจถูกมหาพญาเทพควบคุมไว้จริง งั้นหมายความว่าตอนนี้ทุกอย่างที่พวกเขาทำมา ล้วนอยู่ในการควบคุมของมหาพญาเทพ
นั่นก็อันตรายแล้ว!
“วิหารปีศาจมีจอมพลเทพโจวคุ้มครอง น่าจะไม่เกิดสถานการณ์แบบนี้หรอก ถ้าจอมพลเทพโจวเป็นคนของมหาพญาเทพเหมือนกัน งั้นมหาพญาเทพไม่จำเป็นต้องมอบบุญบารมีที่จักรพรรดิไท่เหลือไว้ให้พวกเรา”
เหย้หมิงยังคงรู้สึกว่าความเป็นไปได้มันไม่มาก
เหย้เฉิงวิเคราะห์ต่อไปอีกว่า “ถ้าบุญบารมีและผนึกพวกนี้เกี่ยวข้องกันล่ะ? ส่วนมหาพญาเทพก็ไม่มีทางได้รับบุญบารมี เลยจำเป็นต้องให้เย่เซิ่งเทียนได้รับไปเขาถึงมีโอกาสล่ะ?”
ครื้น!
การคาดเดาอันนี้ ราวกับฟ้าร้องฉับพลัน ระเบิดดังอยู่ในหัวสมองของทุกคน
พอเป็นเช่นนี้ ยังน่าสยองขวัญเกินเหตุ
งั้นอธิบายได้ว่า เย่เซิ่งเทียนคือกุญแจที่ปลดผนึกออกอะไรพวกนั้น ล้วนเป็นคำโกหกของมหาพญาเทพ
ถ้าเป็นแบบนี้จริง งั้นตอนที่เย่เซิ่งเทียนได้รับบุญบารมีมา ย่อมอธิบายได้ว่ามหาพญาเทพประสบความสำเร็จแล้ว
“หลักธรรมแห่งจักรพรรดิ?”
ดวงตาของเย่เซิ่งเทียนหดตัวรุนแรง
เขาเข้าใจอยู่บ้างแล้ว
“การคาดเดานี้ มีความเป็นไปได้มากว่าเป็นเรื่องจริง!”
เย่เซิ่งเทียนสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้ว ทันใดนั้นเขาเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว
หลักธรรมแห่งจักรพรรดิ ก็คือหลักธรรมที่ปราบปรามทางผ่านของโลกชูร่า
ส่วนการทดลองทุกอย่างที่มหาพญาเทพนำสรวงสวรรค์ทำขึ้น เพียงแค่เพื่ออบรมเลี้ยงดูคนที่สามารถสืบทอดหลักธรรมแห่งจักรพรรดิสักคนออกมา
คนคนนี้ ก็คือเย่เซิ่งเทียน
“นายหมายความว่า......”
เหย้เฉิงมองทางเย่เซิ่งเทียนอย่างตกใจกลัว
หลักธรรมแห่งจักรพรรดิที่จักรพรรดิไท่เหลือไว้ เป็นหัวใจสำคัญของการปราบปราม
และมหาพญาเทพอบรมเลี้ยงดูเย่เซิ่งเทียนไม่หยุด เพื่อทำให้เย่เซิ่งเทียนได้รับสิทธิ์สืบทอดหลักธรรมแห่งจักรพรรดิ
พอเป็นแบบนี้ ขอเพียงเย่เซิ่งเทียนปรากฏตัวอยู่ในวิหารปีศาจ จะได้สืบทอดหลักธรรมแห่งจักรพรรดิอย่างแน่นอน
อย่างนั้น มหาพญาเทพก็สามารถเปิดทางผ่านออกได้โดยตรง
“แย่แล้ว โจวเฉิงหลอกพวกเรา ทุกอย่างนี้เป็นละครที่เขากับมหาพญาเทพแสดงขึ้น!”
เย่เซิ่งเทียนหลุดปากออกมา
แต่สายไปเสียแล้ว
ปัง!
ทันใดนั้นเอง ทางด้านของวิหารปีศาจ มีควันดำพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า ราวกับเสายักษ์อันไร้เทียมทาน
โดยรอบปรากฏลวดลายฟ้าดินมากมายขึ้นมา อยากจะปราบปรามควันดำ
แต่ขาดความสามารถอยู่บ้าง ท้ายที่สุดถูกควันดำพุ่งโจมตีจนพัง
“โจวเฉิง โคตรพ่องมึงเอ๊ย!”
เหย้หมิงด่าทอออกไป
ผนึก แตกแล้ว!
พวกเขา ติดกับแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Mars เจ้าสงครามครองโลก