มหาเทพ แห่ง สงคราม นิยาย บท 57

ที่ไม่น่าเชื่อไปกว่านั้นก็คือ คุณทันย่ากำลังปิดปากเล็ก ๆ ของเธอแสดงอาการตกใจ จากนั้นเธอก็พูดว่า “ถ้าคุณสามารถดื่มไวน์แดงหมดขวดนี้ได้ นั่นถือว่าเป็นการพิสูจน์ความจริงใจในการขอโทษของคุณ”

นายใหญ่เทย์เลอร์ พูดไม่ออกไปชั่วขณะ เนื่องจากคุณทันย่า เป็นคนเอ่ยปาก ถ้าหากพวกเขาไม่ทำตามเกรงว่าจะเป็นการดูหมิ่นเธออย่างมาก

หากทำให้เธอขุ่นเคืองใจเพราะเรื่องนี้ ตระกูลเทย์เลอร์ของพวกเขาคงไม่แม้แต่จะมีโอกาสที่จะฝันว่าจะได้ขยายกิจการในอาณาเขตกลางอีกต่อไปเลย

“แกยังมามัวรีรออะไรอยู่อีวาน? แสดงความจริงใจของแกสิ!”

เมื่อสังเกตเห็นใบหน้าที่กล้ำกลืนฝืนทนของอีวาน นายใหญ่เทย์เลอร์ ก็อยู่ในจุดที่ลำบากใจ เขาได้ตักเตือนอีวานทันที

“ตกลง ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้คุณขุ่นเคืองใจก่อนหน้านี้ ดังนั้นผมจะดื่มไวน์แดงขวดนี้ เพื่อแสดงความจริงใจและเป็นการขอโทษให้กับคุณ!”

อีวานคว้าขวดไวน์แดงแล้วยกดื่มลงคอทันที

เมื่อดื่มไปได้ครึ่งขวด เขาก็เริ่มรู้สึกพะอืดพะอมเล็กน้อย แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกเหนือจากกัดฟันและทนดื่มมันไปจนหมดขวด

ความเกลียดชังที่มีต่อเฟนด์ นั้นเริ่มก่อตัวในใจเขา เขาสาปแช่งเฟนด์ ที่ทำให้เขาต้องมาเจอกับปัญหา แต่ประเด็นหลักก็คือ คุณทันย่าดันไปหลงเชื่อคำพูดของเขา

ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ทำให้เขาพูดไม่ออกก็คือ คุณทันย่า เป็นคนที่ทำลายแผนเมื่อคืนของเขาป่นปี้ไม่มีชิ้นดี หากไม่ใช่เพราะเธอ การเซ็นสัญญาครั้งนี้ก็คงสำเร็จ เขาจะกลับมาด้วยความภาคภูมิใจ และสามารถโอ้อวดกับใคร ๆ ว่าเขามีความสามารถเพียงใด แต่น่าเสียดาย...

หลังจากที่ดื่มจนหมด อีวานก็ไม่สามารถอดทนได้อีก เขารู้สึกเวียนหัวขึ้นมาทันที ตัวเขาเอียงไปทางซ้ายที ขวาที ขณะที่เขาก้าวขึ้นไปข้างหน้าอีกสองสามก้าวก่อนที่จะทรุดตัวลงบนพื้นและอ้วกออกมา

นายใหญ่เทย์เลอร์ รู้สึกสมเพชอีวาน ทันทีที่เห็นฉากนี้ เขาแอบต่อว่าอีวานว่าอ่อนแอเกินไป ถ้าจะอ้วกก็น่าจะให้คุณทันย่าเธอจากไปก่อน มันน่าอายแค่ไหนที่แกทำตัวแบบนี้ต่อหน้าคนอื่น แบบนี้ทั้งสองครอบครัวจะมีโอกาสได้ร่วมงานกันไหมในอนาคต?”

ในอนาคตอีวานจะต้องเป็นผู้นำของครอบครัว การรักษาภาพลักษณ์ของเขาจึงเป็นสิ่งสำคัญ

“เอ่อ จริงสิ! พวกคุณกำลังฉลองอะไรอยู่เหรอ? ฉันเห็นคนกำลังดื่มแชมเปญกันตรงนั้น!”

ทันย่าใช้แค่เพียงหางตาเหลือบมองอีวานที่พื้น ก่อนที่จะถามนายใหญ่เทย์เลอร์

“ความจริงมันก็ไม่มีเรื่องอะไรสำคัญ เรา… เรา…”

นายใหญ่เทย์เลอร์ ขมวดคิ้วและไม่แน่ใจว่าควรจะพูดอะไรออกไปดี

ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นเฟนด์ เขาจึงตัดสินใจกัดฟันตอบออกไปว่า “เรามาที่นี่เพื่อต้อนรับการกลับมาของ เฟนด์ นอกจากเขากลับมาที่บ้าน เขายังสร้างความภาคภูมิใจให้กับประเทศถูกไหม?”

“มันควรค่าแก่การที่จะเฉลิมฉลอง!”

ทันย่าพยักหน้าแล้วพูดกับเฟนด์ ทันทีว่า “ใช่แล้ว เฟนด์ ตระกูลเดรก กำลังมองหาบอดี้การ์ด ฉันเห็นว่าคุณเพิ่งจะปลดประจำการ ดังนั้นตอนนี้คุณน่าจะว่างงานใช่ไหม? ฉันไม่แน่ใจว่า คุณจะสนใจที่จะมาทำงานเป็นบอดี้การ์ดของตระกูลเดรกหรือไม่?”

ทันทีที่ฟีโอน่าได้ยินเธอพูด เธอก็ดีใจอย่างลนลาน “เขาต้องสนใจแน่นอน ฉันได้ยินมาว่าค่าจ้างต่ำสุดของบอดี้การ์ดตระกูลเดรก อยู่ที่ประมาณ สองถึงสามหมื่นเหรียญ แต่ถ้าคนที่มีฝีมือแล้ว ค่าจ้างของพวกเขาจะสูงถึง 100,000 เหรียญ เลยใช่ไหม?”

“คุณป้าไม่ต้องกังวล ถ้าเฟนด์ตกลง ค่าจ้างของเขาจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขา เราแค่กลัวว่าเขาจะไม่เต็มใจที่จะมา!”

ทันย่า ชื่นชมเฟนด์ และรู้สึกว่าเฟนด์เป็นผู้ชายที่น่าประทับใจ เนื่องจากพ่อของเธอย้ำกับเธอหลายครั้งว่าใช้คอยเข้าใกล้และช่วยเหลือเขาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของผู้ชายคนนี้กับเทพเจ้าแห่งสงคราม จะต้องมีบางอย่างที่ไม่ปกติ

“มานี่ มา มา! แน่นอนเขาต้องเต็มใจอย่างแน่นอน จะมีอะไรที่เขาไม่เต็มใจ? ไม่แน่ใจว่าจะมีสักกี่คนที่จะมีโอกาสได้เป็นบอดี้การ์ดให้กับครอบครัวของคุณ!”

ฟีโอน่ายิ้มแย้มแจ่มใส เพราะว่าเฟนด์ไม่ใช่คนโง่ เขาจะไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดไปอย่างแน่นอน!

หลังจากที่พูดจบ เธอก็ดึงเฟนด์ ออกไปเพื่อที่จะกระซิบว่า “เธอบอกว่า เงินค่าจ้างนั้นขึ้นอยู่ที่แกจะตัดสินใจ ถ้าแกไม่กล้าที่จะขอเงิน 100,000 เหรียญ อย่างน้อยที่สุดแกก็ควรจะขอสักห้าหมื่นถึงแปดหมื่นเหรียญ!”

เฟนด์ เหงื่อตกอย่างเห็นได้ชัด ทันทีที่แม่ยายของเขามีความกระตือรือร้นในการพูดถึงเรื่องเงิน

เฟนด์หันหลังกลับมาและหัวเราะเบา ๆ กับทันย่า ก่อนที่จะพูดว่า “ผมไม่สนใจที่จะเป็นบอดี้การ์ดให้กับครอบครัวของคุณ เว้นแต่ว่าคุณสามารถหาตำแหน่งงานให้ภรรยาของผมได้ทำงานภายใต้ตระกูลเดรกได้ มันเป็นทางเดียวที่ผมจะบอกราคาของผม ถึงแม้ว่าผมจะไม่เต็มใจ!”