มหาเทพ แห่ง สงคราม นิยาย บท 63

เซเลน่า ไม่รู้ว่าควรจะแสดงท่าทีอย่างไรดี เพราะเธอเองก็ยังไม่เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องจริง

“ใช่แล้วมันเป็นเรื่องจริง คุณทันย่า เธอพูดด้วยตนเองจริงๆ!”

ฟีโอน่าไม่รู้ว่าบรรยายความประหลาดใจที่ท่วมท้นเช่นนี้ได้อย่างไรดี มันเหนือจิตนาการของเธอเป็นอย่างมาก

“เป็นได้อย่างไร เขามีสิทธิอะไรถึงได้รับค่าจ้างที่สูงเช่นนี้”

เซซิเลีย มีสีหน้าขมขื่น อย่างไรก็ตามหลังจากครุ่นคิดอย่างจริงจัง ทันใดนั้นเธอก็คิดบางอย่างออกและเริ่มหัวเราะและพูดว่า “ฮ่าฮ่า ตอนนี้ฉันรู้แล้วล่ะเฟนด์ คุณทันย่า แค่ต้องการหลอกคนโง่อย่างคุณเท่านั้น นี้เป็นแค่เรื่องตลก!”

“เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด คุณทันย่าเป็นคนบอกเองว่าพรุ่งนี้ให้ไปเริ่มทำงาน แล้วจะเป็นเรื่องตลกได้อย่างไร”

ฟีโอน่าเถียงทันที

“ลองคิดดูสิว่าบอดี้การ์ดคนอื่น ๆ ที่พวกเขามีอยู่ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นถึงหัวหน้าพวกเขาก็ยังไม่ได้รับค่าตอบแทนมากมายขนาดนั้น แล้วคนอย่างเขามีสิทธิอะไรถึงได้รับค่าตอบแทนที่สูงขนาดนั้น?”

“นอกจากนี้ เซเลน่า ยังได้ทำงานเป็นผู้จัดการและค่าจ้างเดือนละล้านเหรียญของเธอก็ค่อนข้างสมเหตุสมผลอยู่ ในทางกลับกัน เฟนด์ เขาเป็นเพียงบอดี้การ์ดดังนั้นค่าจ้างยี่สิบล้านต่อเดือนจะเป็นออกจะมากเกินไปหรือเปล่า?”

เซซิเลีย กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “นั่นเป็นเพราะ เฟนด์ จงใจที่จะลองดีกับคุณทันย่า และเธอก็แกล้งทำเป็นตกลงที่จะเล่นกับเขาเท่านั้น ถ้าหากคุณไม่เชื่อฉันเมื่อ เฟนด์ ไปถึงบ้านของตระกูลเดรก บางทีเขาอาจจะเข้าทางประตูหลักไม่ได้ด้วยซ้ำไป!”

“ใช่ ฉันเองก็คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้!”

ผู้หญิงอีกคนจากตระกูลเทย์เลอร์ พยักหน้าและพูดว่า “จากที่ เซซิเลีย พูดมาฉันว่ามันเข้าท่าอยู่นะ เป็นไปได้มากที่เธอจะแค่ล้อเล่นกับเขาเพราะเขาลองดีกับเธอก่อน!”

เฟนด์ ไม่สนใจเสียงรบกวนของพวกเขา และพูดอย่างใจเย็นว่า “ฉันกลัวแต่ว่าเธอจะไม่กล้าพอที่ล้อเล่นกับคนอย่างฉันหรอก!”

ทางด้าน เซเลน่า กำลังขมวดคิ้วอยู่ข้าง ๆ เธอไม่เข้าใจว่า เฟนด์ ทำไมเขาถึงได้เงินเดือนสูงขนาดนี้ พวกเขามักจะไม่รับสมัครทหารผ่านศึกเช่นเขาไม่ใช่หรือ? มีผู้คนมากมายที่พึงพอใจเมื่อได้งานรปภ.หรือบอดี้การ์ด หรือว่างานของเฟนด์จะมีมากกว่านั้น...

“คุณพ่อคะ เดือนละยี่สิบล้านมันเท่าไหร่กันคะ? มันเยอะมากขนาดนั้นเลยเหรอเหรอ?”

ไคลี ที่เล่นอยู่ข้าง ๆ ระหว่างอาหารค่ำก็วิ่งเข้ามา เธอดึงกางเกงของ เฟนด์ ด้วยมือเล็ก ๆ อวบ ๆ ของเธอพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองเขา

การแสดงออกที่น่ารักของเด็กน้อยคนนี้ทำให้หัวใจของ เฟนด์ ก็ละลายในทันที เขาคิดว่าความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานที่เขาต้องทนมาตลอดห้าปีที่ผ่านมานั้นคุ้มค่ามากในตอนนี้

เขาปกป้องประเทศเป็นเวลาห้าปีและตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการคือให้ภรรยาและลูกสาวของเธอปลอดภัยและมีชีวิตที่สงบสุข!

“ไม่มากเท่าไหร่หรอกลูก แต่ก็เพียงพอที่จะพา ไคลี่ เข้าเรียน ในโรงเรียนอนุบาลที่ดีที่สุดและซื้อของเล่นที่หนูอยากได้ทุกอย่างเลยครับ!”

หลังจากที่เขาอุ้ม ไคลี่ ขึ้นเขาก็ไม่สามารถห้ามตัวเองได้ที่หอมแก้มอ้วนของเธอ เขารู้สึกอบอุ่นมาก

"จริง ๆ เหรอคะ? เยี่ยมไปเลย! หนูจะมีของเล่นมากมายแล้ว!”

หลังจากที่ไคลีได้ยินเช่นนั้นดวงตาคู่สวยของเธอก็เป็นประกายเต็มด้วยความตื่นเต้น

เซเลน่า ที่เฝ้าดูฉากนี้จากด้านข้างก็รู้สึกหดหู่ ในที่สุดห้าปีแห่งความทุกข์ทรมานก็สิ้นสุดลงแล้วใช่หรือไม่? ในที่สุดครอบครัวของพวกเราก็อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้วใช่ไหม? นี่คงไม่ใช่ความฝันใช่ไหม!

นายใหญ่เทย์เลอร์ เริ่มมีสีหน้าไม่สู้ดีในขณะที่ท่านกำลังครุ่นคิดทุกเรื่องอย่างจริงจัง คุณทันย่ากำลังล้อเล่นใช่ไหม เพราะนี้มันเงินยี่สิบล้านต่อเดือนสำหรับไอ้หนุ่ม เฟนด์ คนนั้นมันคุ้มค่ามากขนาดนั้นเลยเหรอ? ไม่ต้องพูดถึงนายใหญ่ของ ตระกูลเดรก จะเห็นด้วยกับเรื่องนี้หรือไม่? มีมากมายหลายตระกูลที่มีฐานะร่ำรวยเช่นเดียวกับ ตระกูลเดรก นั้นพวกเขาก็คงจะไม่ยอมเสียเงินมากถึงขนาดนี้เป็นแน่!

หลังจากครุ่นคิดบางอย่างเขามองไปที่อีวานที่ได้รับความกระทบกระเทือนที่สุด ดูเหมือนเขาทรุดตัวลงบนโต๊ะ เขาเริ่มสงสัยว่าตัวเองได้ทำผิดไปหรือไม่กับการที่ครอบครัวของ เซเลน่า ถูกไล่ออกจากตระกูลเทย์เลอร์ เป็นเพราะตัวเขาเอง

“ตอนนี้พวกเรามาดื่มกันเถอะทุกคน ไม่ว่างานของ เฟนด์ จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่นั้นก็ช่างมันเถอะ แต่ฉันเชื่อว่างานของเซเลน่า เป็นของจริงอย่างแน่นอน เป็นเรื่องดีที่ เซเลน่า สามารถเข้ากันได้ดีกับตระกลูเดรก และทำงานกับพวกเขาได้!”

นายใหญ่เทย์เลอร์ รินไวน์แดงให้ตัวเองครึ่งแก้วยกขึ้นและยิ้มให้ เซเลน่า ก่อนที่จะพูดว่า “เซเลน่า ต่อไปเธอจะได้เป็นผู้จัดการโปรเจกต์แล้ว และหากมีโปรเจกต์ดี ๆ ก็อย่าได้ลืม ตระกูลเทย์เลอร์ของพวกเราล่ะ!”

“คุณปู่กำลังพูดถึงอะไรอยู่คะ? หนูยังเป็นสมาชิกของตระกูลเทย์เลอร์ หนูก็มีสายเลือดของ ตระกูลเทย์เลอร์ อยู่หากมีโปรเจกต์ดี ๆ ที่ตระกูลของเราทำได้ หนูก็จะคิดถึง ตระกูลเทย์เลอร์ ของเราอย่างเป็นสิ่งแรกอยู่แล้วคะ!”

เซเลน่า หัวเราะออกมาอย่างน่าอึดอัด เธอไม่ได้ตำหนิคุณปู่ของเธอแม้แต่น้อย ตั้งแต่เด็กคุณปู่ค่อยเอาใจใส่และค่อยให้ท้ายเธอมาตลอด น่าเสียดายที่เธอดื้อรั้นเกินไปเมื่อห้าปีก่อนและทำให้คุณปู่ผิดหวังไปบ้าง