มหาเทพ แห่ง สงคราม นิยาย บท 64

"ใช่แล้ว ไม่ว่ายังไงก็ตามตอนนี้ เซเลน่า ก็กลายเป็นที่ยอมรับของตระกูลเดรกแล้ว นอกจากนี้ คุณทันย่าได้บอกไว้แล้วว่า เซเลน่า จะดูแลโปรเจกต์ใหญ่ ๆ แต่ไม่ว่าจะเป็นโปรเจกต์อะไร ถ้าเธอคิดว่านั้นเป็นสิ่งที่ตระกูลเทย์เลอร์ ของพวกเราทำได้และเสนอพวกเราให้ทำมันจะเป็นเรื่องดีมาก!”

แอนดรูว์ พูดพร้อมหัวเราะเบา ๆ เพราะนี่เป็นโอกาสที่ดีมาก!

ตระกูลเทย์เลอร์ ต้องการสร้างความสัมพันธ์กับตระกูลเดรก มาโดยตลอด แต่พวกเขาก็ไม่เคยมีโอกาสที่ทำมันได้ แต่ในตอนนี้พวกเขามีคนที่สามารถทำงานโดยตรงให้กับธุรกิจของตระกูลเดรก ด้วยการเป็นผู้จัดการโปรเจกต์ นี่ถือเป็นโอกาสที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่งสำหรับตระกูลเทย์เลอร์!

"ไม่ ไม่ ไม่ดีหรอก เซเลน่า ถ้าหนูค่อยเข้าข้างตระกลูเทย์เลอร์ ในทันทีที่เริ่มต้นทำงาน มันจะดูไม่ดีถ้าตระกูลเดรก ได้รู้เรื่องนี้”

“อีกอย่างหนูเพิ่งเข้าไป ดังนั้นหนูจะต้องพิสูจน์คุณค่าของตัวเองทันทีที่เริ่มทำงานและได้รับความไว้วางใจจากตระกูลเดรก จากนั้นสานความสัมพันธ์ที่ดีนั้นไปเรื่อย ๆ รอจนกว่าจะมีโอกาสค่อยหาโปรเจกต์ที่เหมาะกับตระกูลเทย์เลอร์ ของเราในอนาคต หนูต้องคิดหาวิธีที่จะไม่ให้พวกเขาสังเกตเห็นถึงความผิดปกติและให้ความเชื่อใจหนู เมื่อหนูมอบหมายโปรเจกต์ให้ ตระกลูเทย์เลอร์ของเรา พวกเขาก็จะว่าอะไรเราไม่ได้!”

หลังจากที่ นายใหญ่เทย์เลอร์ ไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้วเขาก็แนะนำเธอ

ธุรกิจของตระกูลเทย์เลอร์ ภายในสองปีที่ผ่านมานี้ตกต่ำลงและแย่มากที่สุดในปีนี้ สิ่งนี้ทำให้นายใหญ่เทย์เลอร์ แทบคลั่ง

เฟนด์ ที่ได้ฟังอยู่ข้าง ๆ ไม่รู้ว่าควรจะมีปฏิกิริยากับเรื่องนี้อย่างไร

เห็นได้ชัดว่าตระกูลเทย์เลอร์ ไม่รู้ว่าจุดประสงค์หลักของ คุณทันย่า คือเพียงต้องการให้เขาทำงานกับพวกเขาเท่านั้น อย่างพวกเขานั้นจะไม่สามารถหาผู้จัดการที่มีความสามารถในการทำงานและมีประสบการณ์ในการทำงานตำแหน่งนี้ได้เชียวเหรอ ด้วยความมั่งคั่งของพวกเขาแล้วมันไม่เป็นไปไม่ได้จริงหรือ?

หลังจากคุณทันย่า ออกจากมื้อค่ำของตระกูลเทย์เลอร์แล้ว เธอก็ขับรถกลับไปที่บ้านของตระกูลเดรก อย่างรวดเร็ว

พวกบอดี้การ์ดของเธอกลับไปที่บ้านของ ตระกูลเดรก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาโกรธเป็นอย่างมาก

เนื่องจากพวกรู้จักนิสัยใจคอของคุณทันย่า เธอรักษาสัจจะมาก หากเธอให้คำมั่นสัญญากับใครเธอก็จะเคารพและทำตามสัญญาของเธอเสมอ

แม้แต่ นายใหญ่ตระกูลเดรก จะคัดค้านหลังจากทราบความจริงแล้วมันก็ไร้ผล คุณทันย่าดื้อดึงขนาดนั้น ถ้าเธอตัดสินใจอะไรไปแล้วการเปลี่ยนความคิดของเธอนั้นเป็นเรื่องยากมาก

“คุณพ่อคะ หนูมีข่าวดีจะมาบอก!”

ทันย่าเข้ามาในห้องโถงของคฤหาสน์พร้อมกับเอาแขนทั้งสองข้างไว้ข้างหลังขณะที่เธอพูดอย่างยินดี

“แค่เห็นก็รู้ว่าลูกมีความสุขแค่ไหน มันเป็นข่าวดีอะไรล่ะ?”

เจมส์ ถามด้วยรอยยิ้ม

“เฟนด์ค่ะ หนูสามารถทำให้เขาเต็มใจที่จะเป็นบอดี้การ์ดของตระกูลเราได้แล้วค่ะ!”

หลังจากที่ ทันย่าพูดจบเธอก็มองไปที่ ทิโมธี ที่กำลังจิบชาอยู่ข้าง ๆ จากนั้นพูดต่อด้วยท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตน “พี่ชายคิดว่ายังไง? ไม่เชื่อว่าน้องสาวคนนี้สามารถทำเรื่องที่สะเทือนแผ่นดินเช่นนี้ได้ใช่หรือไม่?”

ทันทีที่ เจมส์ ได้ยินคำพูดนั้นเขาตกใจมากและพูดว่า “เป็นไปไม่ได้ เป็นเรื่องจริง? ที่ลูกพูดมาเป็นเรื่องจริงเหรอ? ถ้าเขากลับมาพร้อมกับเทพเจ้าสงคราม จริง ๆ เขาก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเธอเป็นอย่างมาก อย่างน้อย ๆ เขาก็ควรจะเป็น ราชาแห่งสงคราม แม้ว่าจะแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย แต่อย่างน้อยเขาก็ควรจะเป็นจอมพล ผู้ชายแบบนี้ยินดีที่จะเป็นบอดี้การ์ดของลูกจริงหรือไม่”

ทิโมธี ก็ตะลึงก่อนจะพูดว่า “ผมได้ยินมาว่าจอมพลที่กลับมาจะมีเงินเป็นพันล้านจนไปถึงหมื่นล้านสำหรับคนที่ทำงานได้น่าประทับใจเท่าไหร่เงินรางวัลของพวกเขาก็เยอะตามเท่านั้น อย่างน้อยที่สุดราชาแห่งสงครามควรจะได้รับเงินมากกว่าแสนล้านเหรียญ มีผู้คนมากมายที่ต้องการใช้อำนาจของพวกเขา แต่พวกเขาเหล่านั้นคงไม่เลือกรับงานง่าย ๆ เป็นแน่!”

ทันย่าขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเช่นนั้นขณะที่เธอพูด “จริงเหรอ? ฉันไม่คาดไม่ถึงว่าพี่จะรู้รายละเอียดมากขนาดนี้เลยนะพี่ชาย ตามที่คุณปู่เคยพูดไว้ว่า เฟนด์ จะไม่ยอมรับงานได้ง่ายขนาดนั้นหรอก วันนี้ฉันแค่โชคดี ที่ได้พบกับทั้งครอบครัวของเขา ดังนั้นฉันจึงสามารถดึงเขามาร่วมงานได้”

“เขายอมรับกับค่าจ้างเดือนละสองสามแสนเหรียญในฐานะบอดี้การ์ดนี้เหรอ ทันย่า เธอจำผิดคนหรือเปล่า? แน่ใจเหรอว่าคนนั้นคือ เฟนด์ ตัวจริง? คนที่พ่อพูดถึง?”

ทิโมธี ดูเหมือนไม่มั่นใจเนื่องจากบอดี้การ์ด ตระกูลเดรก ได้รับค่าจ้างรายเดือนด้วยราคาเท่านั้น ใครก็ตามที่ทำได้ประทับใจมากกว่าจะทำเงินได้มากกว่าแสนเหรียญเท่านั้น

“พี่พูดบ้าอะไรเงินไม่กี่แสน? เขาบอกว่าสำหรับเขาต้องอย่างน้อยยี่สิบล้านเหรียญ ถ้าน้อยกว่านั้นเขาก็ไม่ทำ”

“ทั้งหมดนี้เป็นเพราะภรรยาของเขาต้องการทำงาน ดังนั้นฉันจึงสัญญาว่าจะจ้างภรรยาของเขาเป็นผู้จัดการโปรเจกต์ของเราด้วย เป็นอย่างนี้เขาถึงเต็มใจที่จะทำงานให้เรา!”

“ประเด็กสำคัญที่โคตรจะไม่มีเหตุผลที่สุดเลย คือเขาบอกว่าไม่มีเวลาการทำงานที่แน่นอน และเขาสามารถออกจากงานนี้ได้ทุกเวลาถ้าเข้าพอใจที่จะออก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหาเทพ แห่ง สงคราม