เดือนนภาที่เดินถือกล่องยากลับมา ก็เจออันโตนีโอ้ยกถาดข้าวต้มออกห้องมาด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่จึงรีบเอ่ยถาม
“ยกข้าวต้มไปไหนเหรอพีเค”
“เอาไปเก็บครับ! พอผมเปิดฝาข้าวต้ม! บอสก็บอกว่าเหม็นมาก! แล้วก็วิ่งไปอ้วกในห้องน้ำเลยครับ ผมว่าเดี๋ยวโทร. ตามหมอดีกว่าครับ บอกตรงๆ ว่าผมใจไม่ดีเลย ตั้งแต่ทำงานกับบอสมาเพิ่งจะเห็นบอสมีอาการแปลกๆ อย่างนี้ครั้งแรก ถ้าเผื่อว่าบอสเป็นอะไรเราจะได้รีบรักษาได้ทันครับ” มือขวาคนสนิทเอ่ยด้วยใบหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
“จริงเหรอ! งั้นเอาถาดข้าวต้มมา แล้วเอากล่องยานี่กลับเข้าไปไว้ในห้อง แล้วคอยดูแลคุณอลันก่อน เดี๋ยวฉันจะไปโทร. ตามหมอ แล้วเรียนให้ คุณลีโอกับคุณมะลิทราบ” เดือนนภาบอกอันโตนีโอ้ด้วยสีหน้าตื่นๆ พร้อมกับส่งกล่องยาให้เขาแล้วรับเอาถาดข้าวต้มมาถือไว้ ก่อนจะเดินย้อนกลับทางเดิม
อันโตนีโอ้ถือกล่องยากลับเข้าไปในห้อง ค้นหายาดมก่อนจะวิ่งเข้าไปหาผู้เป็นนายที่ยังคงนั่งพิงผนังห้องน้ำ ใบหน้าซีดๆ อันโตนีโอ้พยุงอีกฝ่ายให้กลับไปนอนที่เตียงเสร็จ ก็วิ่งกลับไปเอาผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำบิดหมาดๆ เช็ดหน้าให้ผู้เป็นนาย ก่อนจะหยิบเอายาดมผ่านจมูกไปมา ให้อีกฝ่ายหายจากอาการเวียนหัว
สิบห้านาทีต่อมา... เดือนนภาก็กลับเข้ามาบอกว่าอีกสักครู่หมอก็คงจะมาถึง และบอกว่าพรุ่งนี้เลโอนาดท์กับมะลิฉัตรก็จะเดินทางมาถึงไทยช่วงบ่าย ออร์แลนโด้ลืมตาขึ้นมาพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเอ่ยคำที่ทำให้อันโตนีโอ้และเดือนนภาหันมามองหน้ากันอย่างงงๆ
“คุณเดือนครับ ผมอยากกินสตรอว์เบอร์รี่สดๆ ราดน้ำส้มตำ ไม่หวานเลย อ้อ อย่าลืมใส่ปูม้าสดให้ด้วย ขอด่วนเลยครับผมหิว!”
“ดะ...ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ” เดือนนภาตอบรับก่อนจะรีบไปทำน้ำส้มตำปูม้า ราดสตรอว์เบอร์รี่สดตามที่ออร์แลนโด้สั่ง
“พีเค! แกได้นอนหรือยัง?” ออร์แลนโด้เอ่ยถามเสียงเบา
“ยังครับบอส!” อันโตนีโอ้ที่ยังไม่หายมึนเอ่ย
“เดี๋ยวถ้าหมอมาแล้ว แกไปพักได้เลยนะ”
“ครับบอส! ว่าแต่บอสจะไม่ไปเช็กร่างกายที่โรงพยาบาลหน่อยเหรอครับ เห็นบอสเป็นแบบนี้ผมใจคอไม่ดีเลย!” อันโตนีโอ้เอ่ยด้วยน้ำเสียงห่วงใย
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรหรอก ก็แค่เวียนหัวเท่านั้นน่ะ ไม่รู้ป่านนี้มิกิกำลังทำอะไรอยู่ ได้ทานข้าวหรือยังก็ไม่รู้ แกว่าเธอจะคิดถึงฉันกับอรองไหมพีเค?” ออร์แลนโด้เอ่ยถามคนสนิทราวกับกำลังเพ้อ คนที่ถูกถามถึงกับพูดไม่ออก รู้สึกเหมือนว่าเจ้านายของตนนั้นกำลังน้อยใจ
“แหม! บอสน่ารักขนาดนี้ ทั้งทำกับข้าวอร่อย เอาใจเก่ง ร้องเพลงก็เพราะ แถมยังรวยไม่รู้เรื่องอีก ถ้าคุณมิกิไม่รักไม่คิดถึงบอสก็บ้าแล้วละครับ ผมว่าไม่เกินวันนี้พรุ่งนี้เราได้รู้แน่ๆ ครับ ว่าคุณมิกิอยู่ที่ไหน” อันโตนีโอ้จำต้องรีบปลอบ เพราะกลัวเจ้านายคิดมาก แล้วจะพานให้อาการหนักกว่าเดิม
“แล้วทำไมมิกิถึงยังไม่ยอมใจอ่อนสักทีวะ!”
“บอสก็ใจร้อนเกินไป อาจจะใช้เวลานานสักหน่อยกว่าคุณมิกิจะหายโกรธน่ะครับ” อันโตนีโอ้เอ่ยตรงๆ ออกไปอย่างลืมตัว
“แกไม่ได้เป็นฉันตอนนั้น แกไม่รู้หรอกพีเค!” ออร์แลนโด้เอ่ยด้วยเสียงนอยด์ๆ ราวกับผู้หญิงที่กำลังงอนแฟนหนุ่ม ก่อนจะสะบัดหน้าหนีอย่างเคืองๆ ทำเอาอันโตนีโอ้ถึงกับอ้าปากค้าง ก่อนจะรีบเอ่ยขอโทษอย่างรู้สึกผิด
“ผมขอโทษครับ อ้าว! คุณหมอมาพอดีเลย สวัสดีครับ”
คุณหมอวัยหกสิบปีเดินเข้ามาในห้อง ก่อนจะมองดูอาการของคนไข้บนเตียงที่ใบหน้าซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด ตอนที่คนของที่นี่โทร. ไปตามและเล่าอาการคร่าวๆ ของคนไข้ให้ฟัง หมอถึงกับยกยิ้มที่มุมปากนิดๆ ก่อนจะหันไปบอกให้อันโตนีโอ้กับเดือนนภาออกไปรอข้างนอก แล้วเริ่มลงมือตรวจอาการคนไข้
“สวัสดีครับคุณออร์แลนโด้ ขอผมวัดไข้หน่อยนะครับ” คุณหมอเอ่ยก่อนจะวัดไข้คนบนเตียง
“คุณมีอาการเวียนหัวและอาเจียนไปหลายครั้ง แล้วก็หมดแรงใช่ไหมครับ” คุณหมอเอ่ยถาม
“ครับ!“ ออร์แลนโด้เอ่ยรับอย่างเพลียๆ แต่ใจกลับนึกไปถึงเมนูที่สั่งไปเมื่อครู่ว่าใกล้จะเสร็จหรือยัง
“ถ้ามีอาการครบทั้งสามอย่าง ผมจะคิดว่าคุณอาจพักผ่อนน้อย หรือไม่ก็อาหารเป็นพิษ แต่...คุณไม่ได้ท้องเสีย แถมยังอยากกินอะไรเปรี้ยวๆ อย่างมะม่วงน้ำดอกไม้ แล้วพอได้กลิ่นข้าวต้มก็วิ่งไปอาเจียน เอ่อ...ถ้าคุณมีภรรยาละก็ ผมขออนุญาตตรวจเธอหน่อยได้ไหมครับ”
หมอเอ่ยจากประสบการณ์ที่ตัวเองเคยเป็นมาก่อนอย่างก็ค่อนข้างจะมั่นใจ
“ทำไมครับ! ผมป่วยเป็นโรคอะไรเหรอ? แล้วทำไมจะต้องตรวจภรรยาของผมด้วย!” ออร์แลนโด้เอ่ยถามอย่างร้อนใจ
“คือที่ขอตรวจภรรยาของคุณ...ก็เพราะว่าตอนที่ภรรยาของผมท้อง ผมก็มีอาการแบบคุณเหมือนกันครับ” คุณหมอตอบยิ้มๆ
“เอ่อ...เดี๋ยวนะครับ แล้วอาการที่ผมเป็นตอนนี้คือ...?” ออร์แลนโด้เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ
“อาการที่คุณเป็นอยู่ตอนนี้มันคล้ายๆ อาการแพ้ท้องแทนภรรยาครับ” คุณหมอเอ่ยยิ้มๆ
“พระเจ้า! คะ...คุณหมอพูดจริงเหรอครับ” ออร์แลนโด้เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นๆ น้ำตาคลอขึ้นมาทันทีทันใด ‘งั้นก็แสดงว่าตอนนี้มิกิกำลังตั้งท้องน่ะสิ!’
“ผมจะแน่ใจก็ต่อเมื่อได้ตรวจภรรยาของคุณครับ”
“เอ่อ...คือตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ที่นี่ครับ เอาเป็นว่าถ้าผมเจอตัวเธอเมื่อไหร่ ผมจะรีบพาเธอไปตรวจทันทีครับ” ออร์แลนโด้เอ่ยด้วยเสียงสลดลงทันใด พลางคิดไปถึงแพรณาราสารพัดว่าตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง เธอจะท้องจริงหรือเปล่า
“ครับ! ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมจัดยาบำรุงให้ แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะแวะเข้ามาตรวจอาการของคุณอีกครั้งครับ” คุณหมอเริ่มเก็บอุปกรณ์
“แล้วถ้าภรรยาของผมท้องจริงๆ ผมจะมีอาการแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่ แล้วตอนนี้เธอจะมีอาการแบบเดียวกันกับผมไหม?”
“แล้วแต่ครับ ส่วนใหญ่คนท้องจะแพ้ท้องเองครับ นานๆ ครั้งจะเห็นคุณสามีแพ้แทนภรรยาครับ ถ้าคุณแพ้ท้องแทนภรรยาจริงๆ ผมว่าเธอโชคดีมากๆ เลยนะครับ ที่มีสามีมาช่วยแบ่งเบาอาการ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อน ต้องรีบไปดูคนไข้อีกที่ครับ อ้อ! ยาทั้งหมดผมวางไว้บนโต๊ะให้แล้วนะครับ” คุณหมอเอ่ยพร้อมกับหิ้วกระเป๋าเตรียมจะไปดูคนไข้ที่อื่นต่อ
“ขอบคุณคุณหมอมากๆ ครับ” ออร์แลนโด้เอ่ยอย่างมีมารยาท
หลังจากที่คุณหมอกลับไปได้สักพัก ออร์แลนโด้ก็ลุกขึ้นมานั่งบนเตียง จมอยู่กับคำพูดของหมอที่บอกเขาเมื่อครู่
‘พระเจ้า! พรุ่งนี้เขาจะต้องคุยกับพ่อและแม่ เขาจะไม่ยอมเล่นเกมซ่อนหาอีกต่อไปแล้ว เขาจะต้องเอาตัวมิกิคืนมาให้ได้ ไม่ว่าจะยังไงก็ตามเขารักเธออย่างที่ไม่เคยรักใครมาก่อนในชีวิต เขาโหยหาร่างนิ่มๆ และกลิ่นหอมๆ ที่นอนกอดทุกคืน เขาคิดถึงรอยยิ้ม คิดถึงเสียงหัวเราะของเธอ สิบกว่าวันแล้วที่เขาไม่มีเธอ มันรู้สึกทรมานจนแทบขาดใจ และตอนนี้เขารับความรู้สึกนี้ต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว’
ด้านสามสาวหลังจากไปแจกของที่โรงเรียนบนดอยเสร็จ ก็กลับเข้าตัวเมืองเชียงใหม่และเป็นเวลาช่วงเย็นแล้ว จึงชวนกันไปกินหมูกระทะเพื่อรำลึกความหลังสมัยเรียนด้วยกัน ก่อนจะพากันแยกย้ายไปพักก็เกือบสามทุ่ม โดยสองสาวฟ้ารดากับแพรณารากลับมาพักที่โรงแรม ส่วนแพรลานนาก็เดินกลับไปที่ไร่สิรันยากรณ์กับลุงชื่นคนขับรถ
พอมาถึงฟ้ารดาก็ขอตัวไปคุยโทรศัพท์ที่ด้านนอกระเบียง แพรณาราจึงเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย ราวเกือบครึ่งชั่วโมงก็ออกมาพร้อมกับใส่ชุดนอน ในขณะที่ฟ้ารดาใส่เสื้อคลุมเตรียมตัวเข้าไปอาบน้ำต่อ
แพรณาราที่เพิ่งเป่าผมเสร็จและเหนื่อยล้ามาทั้งวันก็แทบจะคลานขึ้นเตียง แต่ไม่วายนึกถึงใครบางคนขึ้นมาจึงแอบหยิบมือถือมาเปิดดูความเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายอย่างที่เคยทำ เธอเห็นข้อความในไลน์ที่ออร์แลนโด้ส่งมาในห้องสนทนา เป็นคลิปวิดีโอกับข้อความที่เขียนกำกับว่า
‘ให้อภัยพี่ได้ไหม!’
แพรณารารู้สึกใจสั่นอย่างบอกไม่ถูก ก่อนจะกดดูด้วยมือสั่นๆแล้วเธอก็เห็นออร์แลนโด้นั่งดีดกีตาร์ในท่วงทำนองที่ค่อนข้างเศร้า ใบหน้าที่เหมือนว่าไม่ได้โกนหนวดโกนเครานั้นดูซีดเซียว และซูบลงไปเยอะจนเห็นได้ชัด หญิงสาวหัวใจกระตุกวูบ ไม่คิดว่าสภาพของอีกฝ่ายจะดูแย่ขนาดนี้
จะให้อภัยได้ไหม...ให้ใครคนหนึ่ง
ที่ทำให้เธอเหนื่อยหัวใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ้อมกอดอสูรไร้ใจ