moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว นิยาย บท 31

สรุปบท บทที่ 31 นิ่งเงียบ: moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว

สรุปตอน บทที่ 31 นิ่งเงียบ – จากเรื่อง moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว โดย Light-Knight

ตอน บทที่ 31 นิ่งเงียบ ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว โดยนักเขียน Light-Knight เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 31 นิ่งเงียบ

“จริงๆแล้ว วันนี้ก็ถือว่าออกมาจากที่นั่นแล้ว และไม่มีทางเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ได้! แต่ทว่า คงต้องขอบคุณมากๆ ที่ทำให้ฉันสามารถมีโอกาสได้หายใจ”

ภายใต้แสงจันทร์ บนใบหน้าเรียวที่เนียนละเอียดนั้นของน้ำทิพย์เต็มไปด้วยความเศร้าหมอง ในที่สุดน้ำตาก็ไหลผ่านแนวป้อมปราการสุดท้าย เธอเม้มริมฝีปากแน่น ร่างกายก็กำลังสั่นเทาเล็กน้อย

ท่ามกลางความมืดมิดท่าทางนั้นของเธอดูสิ้นหวังอย่างเห็นได้ชัด หัวใจของจักรชัย ก็เจ็บปวดโดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะที่ควานหาในกระเป๋านานสองนาน จึงเจอกระดาษทิชชู่แผ่นหนึ่งที่ไม่ได้ใช้ในตอนกลางวัน แล้วยื่นไปตรงหน้าของน้ำทิพย์

มองไปที่กระดาษทิชชู่ที่ยับยู้ยี่แผ่นนั้น ในที่สุดน้ำทิพย์ก็ร้องไห้ออกมาอย่างไม่เกรงใจ จักรชัยมองร่างเงาที่ยองอยู่บนพื้น ทำได้เพียงแค่ลูบผมของเธอต่อไป พยายามทำให้เธอสบายใจขึ้นสักหน่อย

เรื่องพวกนั้นในห้องประชุม บางทีอาจจะทำให้น้ำทิพย์รู้สึกสิ้นหวัง แต่แม่ที่เป็นผู้ให้กำเนิดของเธอทำเรื่องเหล่านี้ จึงเป็นการทำร้ายความรู้สึกอย่างแท้จริง

ผ่านไปเนิ่นนาน เสียงร้องไห้ของน้ำทิพย์จึงค่อยๆลดลงไป แล้วก็เช็ดกระดาษทิชชู่แผ่นนั้นที่รับมาจากในมือของจักรชัย แล้วลุกยืนขึ้นมาอีกครั้ง

“คืนนี้น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่ฉันยืนอยู่ตรงนี้ในฐานะพยาบาลส่วนตัวของคุณ เดี๋ยวฉันจะไปส่งคุณกลับ!”

“หรือว่าตัดสินใจที่จะไกล่เกลี่ยแล้ว ใช่มั้ย?” จักรชัยจุดบุหรี่ตามเคย ขณะมองน้ำทิพย์ด้วยสีหน้ายากจะคาดเดา

“อืม ตอนที่ฉันกลับประเทศนึกว่าตัวเองสามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเมื่อตอนที่กลับประเทศถึงจะเป็นเวลาที่ฝันร้ายเพิ่งจะเริ่มต้น หลังจากที่พ่อของฉันให้ฉันช่วยเขาใช้หนี้การพนันก่อนหน้านี้ จึงเป็นหนี้มากขึ้น นี่จึงเป็นเหมือนวัฏจักรที่ไม่มีวันสิ้นสุด นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันคนเดียวจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้อยู่แล้ว บางทีมีเพียงสรวิชญ์คนนั้นเท่านั้นถึงจะสามารถทำได้!”

ตอนที่น้ำทิพย์พูดประโยคนี้ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง เสียงกลับมั่นคง ราวกับว่ากำลังพูดเรื่องที่ไม่สลักสำคัญอะไรต่อตนเอง เธอเพียงแค่รู้สึกเสียใจเพราะเรื่องนี้ก็เท่านั้น

จักรชัยนิ่งเงียบ เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงชีวิตก่อนหน้านี้ของตนเอง

เขาคิดว่าตนเองจะดิ้นรนต่อไปเพื่อชีวิต จนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายของชีวิต แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่เช่นนี้ในชีวิตหลังจากเกิดอุบัติเหตุ

ก่อนหน้านี้มักจะต้องการชีวิตในตอนนี้ ตอนนี้กลับหวนนึกถึงอดีต

น้ำทิพย์มองไปที่ท้องฟ้าแล้วยิ้มออกมาอย่างเงียบๆ เหมือนกับว่าคิดถึงเรื่องอะไรบางอย่างที่มีความสุข

 

“ไปกันเถอะ พวกเราควรกลับไปได้แล้ว!”

น้ำทิพย์ขณะจับแขนเสื้อของจักรชัย แล้วทั้งสองคนก็เดินกลับโรงพยาบาลทีละก้าวอย่างนี้

น้ำทิพย์ก็เหมือนปกติ ปูผ้าปูที่นอนให้เขา ดูแลเขาหลังล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ

เพียงอย่างเดียวที่ไม่เหมือนเมื่อก่อนก็คือสายตาของเธอจับจ้องอยู่ที่จักรชัยอยู่ตลอดเวลา

จนกระทั่งไม่มีอะไรทำแล้ว น้ำทิพย์จึงยิ้มให้จักรชัยแล้วพูดว่า “ฝันดี” แล้วค่อยๆเดินออกไปข้างนอก

จักรชัยจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวชั่วขณะ รู้สึกตลอดเวลาว่ามีตรงไหนไม่ถูกต้อง แต่ก็บอกไม่ได้ เขามีเงิน แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เงินที่พอจะสามารถแก้ไขได้ ขณะมองการโทรไม่กี่สายในโทรศัพท์ จักรชัยก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจยาวๆ

ในห้องที่เงียบสงัดทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา ทำให้จักรชัยตกใจ

ดอกเหมยต้องโทรอย่างน้อยสี่ห้าครั้งต่อวัน ดึกขนาดนี้โทรมากะทันหัน น่าจะมีเรื่องอะไรสักอย่าง

เพิ่งจะหลับตาลงก็ได้ยินเสียงดังมาจากด้านนอกหน้าต่าง จากนั้นเสียงกรีดร้องของผู้หญิงมากมายก็ดังขึ้น

จักรชัยรู้สึกตื่นตระหนก รีบวิ่งไปหาห้องข้างๆ มองหาน้ำทิพย์ไม่อยู่ห้อง สมองเขาไม่ทำงาน ในใจมีเสียงหนึ่งคอยบอกเขาว่าเกิดเรื่องอะไรบางอย่างกับน้ำทิพย์!

โกหกจักรชัยวิ่งมุ่งหน้าไปยังสถานที่เกิดเสียง เพียงชั่วขณะ ที่นั่นได้ล้อมรอบไปด้วยคนกลุ่มหนึ่ง กลิ่นเลือดจางๆ แพร่กระจายในอากาศ

เขานึกถึงท่าทางของน้ำทิพย์ที่เพิ่งจะจากไป ถึงแม้ว่ามุมปากจะประดับด้วยรอยยิ้ม แต่เหมือนจะยิ้มให้เขาเห็นโดยเฉพาะ เพราะว่าจักรชัยแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยเห็นน้ำทิพย์ยิ้มแบบนี้มาก่อน

 

ถ้าหากว่ายังมีอะไรที่ผิดปกติ นั่นก็คือน้ำทิพย์วันนี้มีความอดทนกับนิสัยของเขา เขาชอบกลับห้อง ตากแอร์สักพักก่อนแล้วค่อยไปล้างหน้าแปรงฟัน เมื่อก่อนเวลานี้ น้ำทิพย์มักจะเร่งเขา แต่วันนี้ไม่มี ในทางกลับกันน้ำทิพย์ยังนั่งเป็นเพื่อนเขาสักพัก

 

เขาผลักดันฝูงชนออกไป จักรชัยมองเห็นเงาร่างที่คุ้นเคย นอนจมอยู่กองเลือด ยังคงมีรอยยิ้มจางๆที่มุมปาก จึงดูเหมือนกับว่าในที่สุดก็ได้รับการปลดปล่อย

สีแดง กลิ่นเลือด กลุ่มคนที่วุ่นวายทำให้จักรชัยเกิดอาการเวียนหัว บาดแผลก่อนหน้านี้ก็กำลังกำเริบหน่อยๆ

 

เขามองหมอเหล่านั้นอย่างหยุดนิ่ง ที่อุ้มน้ำทิพย์ขึ้นเตียงผู้ป่วย แล้วผลักผ่านต่อหน้าของเขาไป ในมือของเธอยังคงถือสายห้อยโทรศัพท์ที่จักรชัยมอบให้เธอ

ผีเสื้อตัวหนึ่งจึงหยุดบินลงตรงหน้าเขาทั้งแบบนี้ แล้วค่อยๆตกลงมาจากอากาศ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว