สรุปเนื้อหา บทที่47 สุนัข – moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว โดย Light-Knight
บท บทที่47 สุนัข ของ moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Light-Knight อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่47 สุนัข
คำพูดนี้จักรชัยพูดได้ไม่ผิดนัก บ้านของพวกน้ำทิพย์ได้มาจากบ้านของตระกูลสุนทรวรรณทั้งนั้น แต่ว่าวันนั้นคนที่ปรากฏตัวอยู่หน้าบ้านน้ำทิพย์กลับเป็นจำรัสกับอลินดา。
จำรัสคนนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นสุนัขรับใช้ตัวหนึ่งของภาสกร จะบอกว่าเขาเป็นสุนัขเห่าฟ้าก็ยังจะยกย่องเขาเกินไปด้วยซ้ำ
ชลธิชาแทบจะไม่ได้สังเกตความหมายในคำพูดนี้เลย อย่างไรเสียเขาก็ไม่ได้ไปรับรู้เรื่องอะไรด้วย
“ไปเถอะ อยู่ไม่ไกลจากหอพักพอดี ส่งพวกพนัสสองคนกลับไปก่อน แล้วค่อยส่งเฟื่องฟ้า。 ”
รอพวกพนัสสองสามคนลงจากรถ เฟื่องฟ้านั่งอยู่ข้างหลัง เธอหลับไปโดยไม่รู้เรื่องรู้ราว หัวพิงกับบ่าของจักรชัย ชลธิชาแอบนั่งยิ้มอยู่ด้านหน้า
“ขับรถดีๆสิ ระวังหน่อย ขำอะไร”
เนื่องจากบนบ่ามีหญิงสาวพิงอยู่ จักรชัยจึงไม่กล้าซี๊ซั๊วขยับ แถมยังต้องคอยระมัดระวังหัวของเธออีก รอจนเฟื่องฟ้าลงรถแขนขาเขาก็เมื่อยไปหมด
เรียกเฟื่องฟ้าก็ไม่ตื่น จักรชัยมองดูใบหน้าละมุนดวงนั้น จึงอดไม่ได้ที่จะลูบคลำ ชลธิชาลงรถไปสูบ
บุหรี่นานแล้ว ในรถเหลือพวกเขาอยู่ไม่กี่คน
ความรู้สึกสัมผัสในมือนั้นไม่เลวเลย จักรชัยลดมือลงสองที แล้วจึงใช้นิ้วชี้กวาดคลำดวงหน้าของ
เธอ
แบบนี้อาจจะทำให้เธอรู้สึกคันเล็กน้อย เฟื่องฟ้าตะปบลงบนมือของจักรชัย แล้วค่อยๆตื่นขึ้นมา
“ถึงแล้วเหรอ”เฟื่องฟ้าขยี้ตาอย่างงัวเงีย
ริมฝีปากสีแดงค่อยๆยกขึ้น ช่างชวนหลงใหลน่าจุมพิตเหลือเกิน ผมยาวสยาย เพราะว่าเมื่อกี้เพิ่งตื่น แล้วก็ดูวุ่นวายเล็กน้อย เผยให้เห็นความน่ารักของหญิงสาววัยแรกแย้ม
“ถึงสักพักแล้วล่ะ เห็นหลับสบายขนาดนี้ เลยไม่ปลุก”
พอได้ยินคำพูดนี้ความสัปหงกของเฟื่องฟ้าจึงหายไปถนัดตา จึงรีบนั่งตัวตรง แล้วขำกลบเกลื่อนความเขินอาย
“นายน่าจะปลุกฉันตั้งนานแล้ว ทำให้ฉันเขินไปหมด เฮ้อ ชลธิชาก็มาด้วยไม่ใช่เหรอ อยู่ไหนแล้วล่ะ”
“ลงไปสูบบุหรี่น่ะ”
เฟื่องฟ้ามองดูจักรชัย เหมือนอยากจะพูดอะไรแต่พูดไม่ออก ไม่รู้เป็นเพราะว่าดื่มเหล้า หรือว่าเขิน
อายที่ต้องอยู่สองต่อสอง จนหน้าแดงก่ำไปหมด
การคุยวีดีโอคอลกับเฟื่องฟ้าทุกคืน จักรชัยเองก็เกิดความรู้สึกต่อเธอเหมือนกัน ตอนนี้สาวสวยรอบตัวเขามีไม่น้อย แต่ว่าจะเปิดเผยได้อย่างเฟื่องฟ้านั้นจะมีกี่มากน้อย
ทั้งคู่นั่งอยู่ในรถ ต่างนิ่งงันไปพักใหญ่ จนกระทั่งชลธิชาขึ้นรถมา เห็นเฟื่องฟ้ายังคงนั่งบนรถ จึงแปลกประหลาดใจเล็กน้อย
“อย่างนั้น ไปนั่งดื่มชาสักถ้วยที่บ้านฉันดีไหม”
เฟื่องฟ้าหยั่งเชิงถามดู ชลธิชาส่งสายตาไปยังจักรชัย เขาไม่กล้าตอบรับสุ่มสี่สุ่มห้า นี่เป็นน้องสาวผู้
แสนดีที่จักรชัยเรียกมา
จักรชัยเตรียมที่จะปฏิเสธ หากแต่ปากของชลธิชาก็ไวกว่าเขาอีกขั้น
“เมื่อกี้ฉันกินมากไปหน่อย อยากจะเดินเล่นสักพักพวกนายไปดื่มเถอะ!ฉันรอจักรชัยอยู่ข้างล่างก็พอ”
จักรชัยแอบลอบมองชลธิชาผู้ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ จึงได้สติกลับคืน เขากำลังคิดอะไรอยู่นะ แต่ว่าอยู่ต่อหน้าเฟื่องฟ้าเขาไม่กล้าพูดอะไรมาก ได้แต่ถือโอกาสตอนที่เฟื่องฟ้าไม่อยู่ถลึงตาใส่จักรชัย
พอเห็นทั้งคู่เดินลับขึ้นชั้นบนไป ชลธิชาจึงไขกระจกหน้าต่างรถสูบบุหรี่ เสียดายแทนน้องสาวตัวเองจริงๆ ผู้ชายดีๆอย่างจักรชัย จะเหลือสักกี่มากน้อย
เมื่อนึกถึงว่าเพลงพิณเข้าใจจักรชัยผิด จึงรู้สึกปวดหัวขึ้นมานิดหน่อย
เฟื่องฟ้าตกแต่งบ้านได้น่ารักกระจุ๋มกระจิ๋มมาก โดยมากยึดโทนสีชมพูเป็นหลัก บนโซฟาวางตุ๊กตาเต็มไปหมด บนพื้นปูด้วยพรมสีเทา เห็นได้ชัดว่าเฟื่องฟ้าค่อนข้างให้ความสำคัญกับมาตรฐานการดำเนินชีวิต
มองดูจักรชัย เดินมานั่งลงตรงโซฟาทีละก้าวๆ
ก่อนที่จะชงชา เฟื่องฟ้าตั้งใจกลับห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เสื้อผ้าท่อนบนของเธอในตอนนี้น่าจะเป็นผ้าไหมแบบบาง ที่เบาหวิวดุจขนนก
“เป็นอะไรไปหรือ ดูเหมือนไม่ค่อยสบาย!”เฟื่องฟ้าพูดขึ้นราวไม่ประสีประสา
จักรชัยจะพูดอะไรได้ ตอนนี้เขารู้สึกไม่สบายซะที่ไหน เมื่อกี้ตอนที่เฟื่องฟ้าเดินมา ตัวของเธอโฉลบเสียดสีผ่านตัวเขาต่างหาก
ความรู้สึกในขณะนั้น เขารู้สึกเหมือนหยุดหายใจ ส่วนในตอนนี้ เขานั่งลงบนโซฟา ถึงเห็นได้ชัดว่าเฟื่องฟ้าสวมชุดอะไร สถานที่ที่ยั่วยวนเช่นนี้ มีม่านบางๆบดบังม่านตาเขาไว้อีกชั้นหนึ่ง
“เปล่า แค่รู้สึกว่าวันนี้ร้อนในนิดหน่อย ดื่มน้ำก็ดีขึ้น”
สิ่งที่ชงอยู่ในแก้วเป็นน้ำชาส้มยูซุจริงๆ จักรชัยพยายามอำพรางปฏิกิริยาท่อนล่างของตัวเองที่เกิดขึ้น ด้วยการพยายามจ้องถ้วยชา เป็นนานที่เขาไม่รู้ว่าพูดอะไร
ดีที่ช่วงเวลานี้ จู่ๆมือถือของเขาดังขึ้น เป็นชลธิชาที่โทรขึ้นมา ถามว่าเมื่อไหร่จะลงไป
พอวางสาย ในขณะที่เตรียมจะบอกลาเฟื่องฟ้า พอเงยหน้าขึ้น เฟื่องฟ้าได้มาหยุดตรงหน้าเขา
แล้วก้มมองดู
เธอยกมือจิ้มไปที่หน้าผากของจักรชัย แล้วให้เขาเอนกายลงบนโซฟา ส่วนเธอเองก็นั่งลงบนน่องของจักรชัย
“เธอทำอะไรน่ะ”จักรชัยแสร้งพูดเสียงเคร่งขรึม
เฟื่องฟ้ากลับหัวเราะขึ้นเบาๆ แนบตัวเข้าไปจุมพิตลงบนหน้าผากเขาเบาๆ อาศัยจังหวะที่จักรชัยยังไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ จึงรีบดีดตัวโผลงขึ้นมาจากหน้าตักของเขา
“เพื่อนของนายกำลังเร่งนายอยู่เหรอ”
“อืม ฉันเลยต้องรีบไปก่อนน่ะ คราวหน้าค่อยไปเที่ยวด้วยกันอีกนะ!”
พูดจบ จักรชัยจึงเหมือนหลบหนีออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว