บทที่ 57 ที่อยู่
จักรชัยเดินเข้าข้างในสถานีรถไฟ จึงรีบเข้ามองไปยังบริเวณทางเดิน
ดั่งที่คาด พ่อแม่บุญธรรมของตัวเองกำลังยืนอยู่ท่ามกลางผู้อื่นแออัด และได้แลซ้ายแลขวาไม่หยุด
ครั้งแรกที่ถึงเมืองนี้ ใบหน้าของพวกเขาดูตื่นเต้นดีใจมากๆ แต่ยิ่งไปกว่านั้นคืนตื่นเต้นมากจริงๆ
ในเมืองหลวงไม่เหมือนบ้านนอก ที่นี่ พวกเขาไม่คุ้นชิน
ตอนที่จะจากสถานที่ที่คุ้นเคยของตัวเองไปแล้วมาเหยียบในเมืองที่รู้สึกไม่คุ้ยเคย พวกเขาอึดอัดใจเป็นพิเศษ
เดิมทีตอนที่พวกเขาอยู่ในเมืองนั้นแค่สวมใส่เสื้อผ้าลินินขาดๆ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าใหม่หมด
นี่เพราะว่าคนที่อยู่บ้านนอกรู้ข่าวของจักรชัย จึงได้เตรียมให้พวกเขาสองคน
แต่ว่า ของที่บ้านนอกต่อให้แพงมากแค่ไหน ถ้าถึงเมืองหลวงก็กลายเป็นของไร้ค่าทันที กลับเปรียบไม่ติดเลยสักนิด
"สวัสดีค่ะ สอบถามว่า**ไปยังไงคะ?"
แม่เลี้ยงพูดที่อยู๋ของตัวเองออกไป ด้วยสีหน้าที่ระมัดระวังตัว
"เหอะๆ"
คนที่ถูกพวกเขาถามก็ไม่ได้รู้สึกสงสารพวกเขาที่มาจากแสนไกล จึงได้เผยรอยยิ้มอันร้ายกาจออกมา
"ไอ้ขอทานที่มาจากไหนกัน ตัวเหม็นจะตายแล้ว อยู่ห่างๆจากฉันหน่อย"
เมื่อสายตาสัมผัสได้ว่าคนรอบข้างกำลังหัวเราะเยาะ พวกเขาจึงรู้สึกกลัวมากๆ
พ่อเลี้ยงก็ค่อยยังชั่ว แต่ว่าแม่เลี้ยงก็ช่างมันเถอะ ตอนนี้เธอได้จับมือของสามีของเธอไว้อย่างหวาดกลัว
ตอนแรกๆก็รู้แล้วว่าแม่เลี้ยงของตัวเองมีนิสัยยังไง จักรชัยก็รู้สึกกังวลอยู่เหมือนกัน
วันนี้พอมาเจอสถานการณ์แบบนี้แล้ว เขาก็รู้ว่าตัวเองมองไม่ผิดเลย
เหอะ ใครกล้าทำพ่อแม่เลี้ยงของฉันแบบนี้ แกจบแล้ว
สาวสวยคนนั้นไม่ทันได้สังเกตเห็นว่าภัยพิบัติกำลังมาเยือน ตอนนี้เขาจึงรู้สึกท้าทายมากๆ
พอตัวเองได้ดึงดูดความสนใจจากผู้คนมากมาย ตอนนี้เขาจึงรู้สึกภูมิใจขึ้นมาทันที
"สาวสวย พูดจาระวังปากหน่อย พวกฉันไม่ใช่ขอทาน"
เขารู้ว่าในใจของผู้หญิงคนนี้คิดอะไรอยู่ พ่อเลี้ยงของเขาก็ไม่ยอมง่ายๆเหมือนกัน
เขาจะหน้าด้านหน่อย และอายไม่ค่อยเป็น เขาไม่มีทางทำให้ภรรยาของตัวเองถูกคนอื่นใจร้ายแบบนี้
"ฮ่าๆๆ"
สาวสวยได้ยินคำตักเตือนแบบนี้ เธอกลับไม่ได้หุบปาก แต่ท่าทีของเธอยิ่งอยู่ก็ยิ่งร้ายแรง
"โถ่ ตอนนี้ขอทานยังมีเป็นกลุ่มเป็นพรรคพวกอีก ไหนๆก็รักกันขนาดนี้แล้ว"
เธอทำปากจู๋ และผิวปาก คำพูดของสาวสวยยิ่งอยู่ยิ่งแย่
"เธอ......"
คนบ้านนอกเป็นคนตรงๆ ตรงไม่ได้อ้อมค้อมสักเท่าไหร่
ปกติถ้าเห็นใครที่ไม่ชอบใจ ทั้งสองฝ่ายก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวกัน ไม่มีใครเป็นแบบนี้หรอก
ลูกผู้ชายต่อให้จะโมโหแค่ไหน แต่ก็ไม่รู้จะถกเถียงกลับยังไง
"ทำไม? ไม่มีอะไรจะพูดหรอ?"
สีหน้าของผู้หญิงเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย เห็นผู้ชายพูดไม่ออก นัยน์ตาจึงเปล่งประกายแสงออกมา
วันนี้ก็ไม่รู้ว่าทำไม พอเห็นสองคนนี้ก็รู้สึกไม่พอใจอย่างแรง
เหอะ ตัวเองอยู่ไม่เป็นสุข ก็ไม่อยากให้คนอื่นอยู่เป็นสุขด้วย
"ขอทานก็ยังคงเป็นขอทานวันยันค่ำ ไม่มีมารยาท น่ากลัวจริงๆ"
ขณะที่พูด เธอก็ได้ส่ายหัว คนที่ไม่รู้ยังนึกว่าตัวเองกำลังกล่าวสุนทรพจน์สักอีก
นี่เป็นสิ่งที่เขาชอบพูดกันว่า คนดีมักจะถูกคนชั่วรังแก คนที่แกล้งเป็นคนดีก็ถูกคนรังแกเหมือนกัน
นี่ไม่ใช่ว่าพอเห็นผู้ชายคนหนึ่งโดนผู้หญิงทั้งวันรังแก แล้วยังไม่ทำอะไร คนอื่นก็คงจะหักข้อมือตัวเองแล้ว
หรือว่าใครจะไม่โกรธ ไม่โกรธก็แปลกสิ
“สาวน้อยพูดผิดแล้ว ขอทานก็มีมารยาทอยู่แล้ว”
มีคนๆหนึ่งที่มีรูปร่างที่เตี้ย หน้าตาดูป่าเถื่อนเดินมาอยู่ตรงหน้าสาวสวยคนนี้ จากนั้นก็พูดอย่างติดอ่าง
“ฮ่าๆๆ คำๆนี้ฉันชอบฟัง”
สาวสวยไม่คิดจะปฏิเสธคำพูดของเขา จากนั้นก็ตบไหล่แล้วเอ่ยชมเขา
พูดจาไร้สาระ แค่เป้าหมายของคนอื่นตรงกับของตัวเอง คนๆนั้นก็จะกลายเป็นเพื่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว