moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว นิยาย บท 62

บทที่ 62 ลังเล

เธอยกแขนเสื้อขึ้นมาบังหน้าด้วยความรังเกียจ สาวสวยพูดเร่ง

“รีบนั่งคุกเข่าสิ”

“นี่...”

แม่ใหญ่ถือเรื่องศักดิ์ศรี เธอลังเลอยู่สักพัก

“แกด้วย แกก็ด้วย คุกเข่า”

แม่ใหญ่หน้าถอดสีตามคำพูดของพนักงานเสิร์ฟ

“แม่หนู ให้ป้าคุกเข่าให้หนูก็น่าจะพอแล้ว เข่าผู้ชายมีค่าดั่งทองคำ พวกเขานั้น...”

“เข่าผู้ชายมีค่าดั่งทองคำงั้นเหรอ ถุย”

เมื่อหันหน้าไปทางแม่ใหญ่ที่ขอความเมตตา พนักงานเสิร์ฟไม่เพียงแต่ไม่มีความเห็นอกเห็นใจ แต่ยังเหิมเกริมได้คืบจะเอาศอก

“คุกเข่าทีละคน ถ้าไม่ทำวันนี้ก็อย่าคิดจะกลับ”

“นี่...”

พนักงานเสิร์ฟไม่ยอมอ่อนข้อให้ แม่ใหญ่จึงได้แต่หันกลับไปมองสามีและลูกชาย

“แม่ใหญ่ เธออย่ากลุ้มใจไปเลย”

พ่อใหญ่รู้สึกทุกข์ใจเป็นอย่างมาก

หากรู้ตั้งแต่แรกว่าเข้าเมืองมาจะเป็นแบบนี้ ตีให้ตายอย่างไรเขาก็จะไม่มา

นี่คือถ้ำเสือถ้ำหมาป่าไม่ใช่ที่สำหรับคน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเองที่ไม่มีความสามารถในการปกป้องเมียและลูกได้

เมื่อคิดได้ดังนั้น สีหน้าของพ่อใหญ่ก็ดูแย่ลง

ไม่ว่าวันนี้จะเป็นอย่างไร เขาก็ยอมไม่ได้

พ่อใหญ่กำหมัดแน่นและเดินตรงไปลากเมียตัวเองออกมา จากนั้นก็เหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง

“คุกเข่าใช่ไหม? ลองนึกย้อนกลับไป ฉันว่าใครกันแน่ที่ต้องคุกเข่า”

ใบหน้ามืดลงทันที จักรชัยพูดประโยคนี้พร้อมกับสอดมือเข้าใส่ในกระเป๋ากางเกง

“ก็ไม่กี่หมื่นเอง ฉันจะให้ไอ้หมาที่ชอบดูถูกคนอื่นไปตายซะ”

หลังจากที่พูดคำพูดรุนแรง จักรชัยก็หยิบแบล็คการ์ดออกมาจากกระเป๋า

“ไม่ใช่หรอกมั้ง? นี่มันอะไรกันเนี่ย?”

แสงสีดำสะท้อนเข้ามาในดวงตาตรงหน้า พนักงานเสิร์ฟมองไปตรงๆ

ก็ถูก เขาเกิดมาหน้าตาดี แต่แค่ผอมไปไม่กี่ส่วน ใบหน้าก็ไม่ได้ผ่านการทำอะไรมาก่อน

นี่คงไม่ใช่ผู้หญิงบูชาเงินหรอกมั้ง

“แขกผู้มีเกียรติ คุณเป็นคนใหญ่คนโต ฉัน...”

คำพูดดูไร้สาระทันทีเมื่อแบล็คการ์ดรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นระดับโลกเผยออกมา ผู้จัดการยิ่งรู้ตัวว่าตัวเองได้ล่วงเกินคนเข้าแล้ว

แต่ท่าทีของเขาต่างกับพนักงานเสิร์ฟสาว

ด้วยจำนวนลูกค้าประเภทนี้ในปัจจุบัน ทำให้รายได้ต่อเดือนของผู้จัดการอย่างเขาคนนี้ก็ไมใช่น้อยๆ

ถ้าจักรชัยรู้จักกับเจ้านายของเขาและไปฟ้องเรื่องของเขาที่นั่น ผลลัพธ์ก็...

ขนาดคิดไปไม่ถึงขั้นนั้น ผู้จัดการก็เหงื่อตกแล้ว

ไม่มีทาง ตอนนี้ทำได้เพียงขอร้องให้จักรชัยยกโทษให้ ไม่อย่างนั้น...

“คุกเข่าลงขอโทษพ่อกับแม่ฉัน”

“ไม่ ไม่…”

แม่ใหญ่ใจอ่อนและคิดจะห้ามไว้ แต่กลับโดนพ่อใหญ่ขวาง

ไร้สาระ เมื่อกี้พวกเขาก็ทำแบบนี้กับตัวเองไม่ใช่หรือ?

พ่อใหญ่ยืนบุ้ยปากรออยู่อย่างนั้น

“ไม่ใช่ คนเยอะแยะ ฉัน...”

ผู้จัดการทำไม่ได้เมื่ออยู่ต่อหน้าแขกและลูกน้องในร้านอาหาร

แต่หากไม่ทำเช่นนี้ก็เกรงว่าเรื่องจะถึงหูเจ้านายในที่สุด

และหลังจากเกิดเรื่อง ตัวเองก็จะทำงานอยู่ในร้านอาหารแห่งนี้ไม่ได้อีกต่อไป

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ปากผู้จัดการก็กระตุกร้องขอความเห็นใจ

“ท่านครับ พวกเราเปลี่ยนเป็น...”

“ไม่ได้”

น้ำเสียงเย็นชาไม่ยอมถอยให้ใคร

เมื่อผู้จัดการเห็นดังนั้น จะถอยก็ไม่ได้ จะเข้าก็ไม่ได้ จึงได้แต่ยืนเก้ๆกังๆอยู่ตรงนั้น

“อัยหยา ที่แท้ก็เป็นคุณชายผู้ร่ำรวยท่านหนึ่ง แต่ทำไมแต่งตัว...”

จากทัศนคติของผู้จัดการ พนักงานเสิร์ฟก็สรุปออกมาได้ว่า

ไม่จำเป็นต้องสนใจว่านั่นจะเป็นแบล็คการ์ดหรือไวท์การ์ด แต่ในทางกลับกันคนที่อยู่ตรงหน้ากลับเป็นคนที่รวยสุดๆ

ถ้าตัวเองหลอกล่อมาได้ นับแต่นี้เป็นต้นไปคงได้อยู่แบบสุขสบาย...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว