moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว นิยาย บท 64

บทที่ 64 ตะลึงงัน

แขวะแล้วแขวะอีก แต่จักรชัยกลับไม่ได้นำเรื่องงานเลี้ยงตระกูลหัสบดินทร์บอกกับพ่อแม่ของตัวเอง

“ใช่แล้ว จักรชัย ในเมื่อเธอโทรมาเร่งแล้ว แกก็รีบไปเถอะ”

“จริงด้วย จักรชัย พอได้ยินลูกพูดแบบนี้ ตระกูลหัสบดินทร์ก็เป็นถึงตระกูลใหญ่ ลูกอย่าทำให้แม่หนูคนนั้นลำบากเลย”

ฟังฟังฟังฟัง คำพูดเหล่านี้ล้วนมุ่งไปที่คนอื่นและทำราวกับว่าเขาอยู่ที่นี่เป็นเรื่องผิด

เดิมทีคิดอยากจะพาพ่อกับแม่เดินเล่นเสียหน่อย แต่ตอนนี้...

“จักรชัยไปสิ พ่อกับแม่ก็ไม่ใช่เด็กๆแล้ว เราดูแลตัวเองได้”

ในเมื่อคำพูดล้วนพูดมาถึงจุดนี้ จักรชัยจะทำอะไรได้อีก?

ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่ยอมทำตามด้วยความจำนน

“ก็ได้ครับ พ่อครับแม่ครับ งั้นผมไปก่อนนะ”

“พวกคุณก็อย่าเดินไปไหนไกลล่ะ เดินเล่นรอบๆคฤหาสน์นี้ก็พอแล้ว ไม่อย่างงั้น ผมกลัวว่า...”

“ไปเถอะ ไปเถอะ”

สุนัขแว้งกัดเจ้าของ ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณย่อมไม่ใช่คนดี

แม้จะเห็นได้ชัดว่าไม่ควรใช้คำพูดแบบนี้พูดกับพ่อกับแม่ แต่นี่คือสิ่งที่จักรชัยคิดอยู่ในใจมาตลอดในเวลานี้

“เอาล่ะ งั้นผมไปแล้วนะ”

จักรชัยควรได้รับความสบายใจ แต่ก็ต้องรีบไปเพราะนั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

ก้าวเท้าแต่ละก้าวก็ต้องหันกลับมามองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในเรื่องของสภาพจิตใจ จักรชัยยังอ่อนแอกว่าผู้หญิงเสียอีก

เมื่อเดินไปจนถึงหน้าประตูคฤหาสน์ จักรชัยถึงจะรีบจากไปได้

หลังจากกินข้าวเสร็จ เขาก็ไม่ได้คิดที่จะนั่งแท็กซี่ แต่เดินกลับไปที่โรงพยาบาลทีละก้าวทีละก้าว

ทันทีที่เขาปรากฏตัวที่ประตู เขาก็เห็นเงาของใครบางคนแกว่งอยู่ตรงหน้าประตู

เมื่อมองเข้าไปใกล้ๆก็กลายเป็นจิตรกัญญา

“ไม่ใช่หรอกมั้ง? ทำไมเร็วขนาดนั้นล่ะ?”

เธอกะพริบตาอย่างไม่อยากจะเชื่อ จักรชัยตะลึงงัน

นี่จะรออยู่ในโรงพยาบาลไม่ได้หรือไง ทำไมยังออกไปวุ่นวายข้างนอกด้วย?

“อัยหยา คุณชายเล็ก คุณกลับมาได้แล้ว คุณนายรอแทบแย่แล้ว”

พอจิตรกัญญาเห็นจักรชัยก็อดไม่ได้ที่จะโล่งใจ ไร้สีหน้ากังวล ขาทั้งสองรีบวิ่งมาทางจักรชัย

“ไม่ใช่สิ ใครมาน่ะ?”

จักรชัยติดกระดุมหูทำราวกับว่าเขาไม่ได้ยินสิ่งที่จิตรกัญญาเพิ่งพูดออกมา

“อัยหยา คุณชายเล็กของฉัน คุณนายรอมาตั้งครึ่งชั่วโมงแล้ว คุณรีบไปเถอะ”

เมื่อเห็นจักรชัยยังคงมีท่าทีแบบนี้ จิตรกัญญาก็โมโหเล็กน้อย

นี่ถ้าไม่ใช่เพราะคุณนายยังอยู่ที่นี่หรือเธอรู้จักกับจักรชัยอยู่แล้ว คาดว่าเธอคงปรนนิบัติเขาด้วยหมัดกับเท้าจริงๆ

สำหรับเรื่องนี้ จักรชัยเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ

“หึ จิตรกัญญา เธออย่าทำตัววุ่นวายน่า ไม่อย่างงั้น... ”

“จักรชัย”

เพื่อที่จะฟังคำพูดนี้อย่างชัดเจน จักรชัยจึงตั้งใจโน้มตัวเข้าใกล้จิตรกัญญา

ความใกล้ชิดแบบนี้กลายเป็นความอ่อนโยนในสายตาของผู้อื่น

“อย่าขยับ”

หนึ่งประโยคสองคำนี้ทำให้จักรชัยตกใจ

ทันใดนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมา โอ้พระเจ้ามันกลายเป็นธีรพล

นี่เป็นเรื่องพิเศษมากหลังจากที่ได้รู้จักกับตระกูลหัสบดินทร์ เขาเพิ่งเคยเจอพี่ชายตัวเองเพียงแค่ครั้งเดียว

ทำไมวันนี้คนที่ยุ่งมากถึงว่างขึ้นมาได้?

ใบหน้าอึมครึม จักรชัยเดินถอยหลังโดยไม่รู้ตัว

จะให้เขารู้สึกอย่างไรเมื่อพี่ชายตัวเองมองตัวเองด้วยสายตาแบบนี้...

เขาอดกลืนน้ำลายไม่ได้ ความกลัวก็ผุดขึ้นมาในใจ

จักรชัยไม่มีความคิดเห็นใดๆเกี่ยวกับพี่ชายคนนี้ รู้เพียงว่าเขาดุมาก

“พี่ครับ มีอะไรหรือเปล่า?”

ด้วยความตกใจกลิ่นอายที่อยู่ในตัวของธีรพล จักรชัยจึงค่อยๆเดินมาหาเขาอย่างช้าๆและเชื่องๆ ราวกับแกะน้อยตัวหนึ่ง

คำพูดนั้นพูดออกมานานแล้ว แต่คนๆนี้ไม่ได้มีการตอบสนองใดจนจักรชัยทนไม่ไหว

ไม่ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร คุณก็ต้องให้คำอธิบายบ้างสิ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว