พอคุณเหนือสั่งงานลูกน้องเสร็จเขาก็เดินไปที่ห้องทำงาน ห้องทำงานของคุณเหนือจะอยู่ใกล้ๆ กับห้องรับแขก ฉันจึงรีบเดินตามถึงแม้ว่าตอนนี้จะกลายเป็นคนที่ไม่มีตัวตนในสายตาของเขาแล้วก็ตาม
#ภายในห้องทำงาน
คุณเหนือนั่งลงบนเก้าอี้ตัวใหญ่เปิดเอกสารบนโต๊ะ ให้เขาไล่ฉันมันยังดีกว่าเงียบไปแบบนี้
“เมื่อคืนคุณเหนือนอนที่ไหนหรอคะ”พอเห็นว่าคุณเหนือเงียบฉันก็ถามต่ออีก “หิวมั้ยคะ รินไปทำข้าวต้มมาให้เอามั้ย”
ฉันกำชายเสื้อตัวเองแน่น การพูดอะไรออกไปแล้วไม่ได้รับคำตอบกลับมันช่างจุกแน่นอกดีจริงๆ
“คุณเหนือบอกว่าจะไม่อยู่สามวัน จะไปไหนหรอคะ”
“……” คำตอบที่ได้กลับมาคือความเงียบสงัด ทำเอาฉันไปไม่เป็นเลยจริงๆ
ฉันถามอะไรไปตั้งหลายอย่างแต่คุณเหนือไม่ตอบเลย ความเงียบของเขากำลังทำให้ฉันจะร้องไห้
“…พูดกับรินหน่อยได้มั้ยคะ” ฉันบอกออกไปอย่างอ้อนวอน ทั้งน้ำเสียงและแววตา
“อย่าเงียบไปแบบนี้สิคะ รินไม่ชอบเลย” น้ำเสียงของฉันมันเริ่มสั่นเครือเพราะคุณเหนือไม่ยอมพูดอะไรจริงๆ
“ถ้าอย่างนั้น ดะ เดี๋ยวรินไปทำข้าวต้มมาให้ดีกว่านะคะ”
“ไม่ต้อง!!”
ในที่สุดคุณเหนือก็ยอมปริปากพูดออกมา ถึงแม้จะเป็นคำตอบที่ดูจะรำคาญฉันเอามากๆ แต่พอได้ฟังมันก็ทำให้ฉันดีใจที่เขายอมพูดสักที
“ไม่อยากกินข้าวต้มแล้วอยากกินอะไรคะ รินจะทำให้”
“อะไรที่เธอทำ ฉันไม่กิน!!” พูดจบคุณเหนือก็ก้มหน้าลงอ่านเอกสารต่อ
ส่วนฉันน่ะหรอ มันจุกจนพูดไม่ออกเลยแหละ
ฉันเดินมานั่งลงบนโซฟาภายในห้องทำงานของคุณเหนือ จากนั้นก็เงียบ สายตามองใบหน้าคมคายของคุณเหนือที่กำลังตั้งใจอ่านเอกสารอยู่
ฉันไม่รู้ว่าตัวเองจะทำได้หรือเปล่า ไม่รู้ว่าจะทำให้ระหว่างฉันกับคุณเหนือกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย ถึงจะบอกตัวเองให้สู้ก็เถอะ มันก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดี
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป คุณเหนือยังคงทำงาน ส่วนฉันก็นั่งดูเงียบๆ
“บอกรินได้มั้ยคะที่บอกว่าจะไม่อยู่บ้าน คุณเหนือจะไปไหน” ฉันถามย้ำอีกครั้งเพราะอยากรู้จริงๆ คำถามของฉันทำให้คุณเหนือละสายตาออกจากเอกสารบนโต๊ะขึ้นมามองใบหน้าของฉันแทน
“ธุระ” เขาตอบสั้นๆ
“ที่ไหนหรอคะ”
“ทำไมฉันต้องบอกเธอ ?”
“ระ รินขอไปด้วยได้มั้ย” ฉันกลัว กลัวว่าคุณเหนือจะไปหาผู้หญิงคนอื่น ถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากจะตามเขาไปทุกที่
“ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่บ้านของฉัน ?”
“ก็หัวใจของรินอยู่ที่นี่หนิคะ จะให้รินไปไหนได้” ฉันมองหน้าคุณเหนือในขณะที่พูดคำหวานออกไป แต่สายตาของคุณเหนือไม่ได้ดีใจที่ได้ฟังเลยสักนิด กลับกันเขาหัวเราะในลำคอออกมาเบาๆ
“ตลกดี”
ก๊อกๆ ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไร เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะ ก่อนที่ประตูจะถูกเปิดเข้ามา เป็นลูกน้องของคุณเหนือที่กำลังเดินเข้ามา
คุณเหนือสั่งงานลูกน้องของเขาหลายอย่าง แล้วบอกว่าตัวเขานั้นจะต้องไปทำธุระที่ต่างจังหวัด พอสั่งงานลูกน้องเสร็จคุณเหนือก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินออกไปจากห้องทำงาน ฉันจึงรีบตามเขาไป
ในขณะที่ฉันกำลังกึ่งวิ่งกึ่งเดินตามคุณเหนืออยู่นั้น จู่ๆ เขาก็หยุดเดินกระทันหัน ทำให้ฉันที่เดินตามไปติดๆ ชนเข้ากับแผ่นหลังกว้างจังๆ
คุณเหนือหมุนตัวหันมาจ้องหน้าฉันเขม็ง แล้วถามเสียงเย็น “ตามฉันทำไม”
“…รินขอไปด้วยนะคะ”
“ไม่ได้!! เธอควรกลับไปที่ของเธอ บ้านฉันไม่ใช่สวนสาธารณะที่ใครจะเข้าออกก็ได้”
ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อถูกปฏิเสธ แต่ก็ไม่ยอมแพ้หรอกยังไงก็จะไปด้วยให้ได้
คุณเหนือหันหลังให้ฉันแล้วเดินไปต่อ แน่นอนว่าฉันยังคงทำมึนเดินตามเขาอยู่จนมาถึงที่รถ เมื่อเห็นว่าคุณเหนือใช้กุญแจปลดล็อกรถแล้ว ฉันก็รีบวิ่งไปเปิดประตูแล้วแทรกตัวเข้ามานั่งด้านในทันที
“ลงจากรถฉัน!!” คุณเหนือยืนออกคำสั่งข้างๆ กับเบาะที่ฉันนั่ง เพราะฉันปิดประตูรถไม่ทันเขาเดินมาก่อน
“รินสัญญานะคะว่าจะอยู่เงียบๆ ไม่กวนใจคุณเหนือ” ฉันบอกพร้อมกับคาดเข็มขัดนิรภัยไปด้วย
คุณเหนือพ่นลมหายใจออกมา เขาปิดประตูรถทางฝั่งที่ฉันนั่งแรงๆ แต่ฉันกลับคลี่ยิ้มออกมาอย่างดีใจ อย่างน้อยเขาก็ยอมให้ไปด้วย
คุณเหนือขึ้นมาบนรถทางฝั่งขนขับ ก่อนจะขับรถออกไปจากบ้านด้วยความเร็ว และฉันก็เพิ่งคิดขึ้นมาได้ว่าตัวเองไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาสักชุด จะบอกคุณเหนือให้วนรถพากลับไปเอาเสื้อผ้าก็ไม่กล้า เพราะกลัวจะถูกปล่อยทิ้งไว้ที่บ้าน
บรรยากาศบนรถเงียบสงัด เห็นคุณเหนือเอาแต่เงียบฉันเองก็ไม่กล้าพูดอะไร ความรู้สึกของคนที่ทำผิดมันเป็นแบบนี้เองสินะ แค่อ้าปากจะพูดก็กลัวจะทำให้อีกคนไม่พอใจ
หลายชั่วโมงผ่านไป กับการนั่งรถมาที่ต่างจังหวัด มาถึงประมาณหกโมงเย็นได้ คุณเหนือขับรถมาจอดที่โรงแรม เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ เขาคงมาทำธุระที่นี่
เมื่อจอดรถแล้วคุณเหนือก็เดินเข้าไปในโรงแรมโดยไม่ได้รอฉันแต่อย่างใด ฉันจึงต้องรีบสับขาเดินตามให้ทัน และด้วยความที่รีบบวกกับรองเท้าที่ใส่เป็นส้นสูงทำให้ฉันซุ่มซ่ามเดินขัดขาตัวเองล้มกระแทกลงพื้น
“โอ้ย~” ฉันร้องอุทานออกมาเสียงหลง ทำให้คุณเหนือหยุดเดินแล้วหมุนตัวกลับมามอง
ไม่ใช่แค่คุณเหนือหรอก ตรงนี้มีคนพลุกพล่าน ทุกคนที่อยู่บริเวณนี้หันมามองฉันกันหมด
“ลุกขึ้น” คุณเหนือออกคำสั่งเสียงแข็ง ฉันก็พยายามจะลุกขึ้นอย่างที่คุณเหนือสั่ง แต่ทว่ามันกลับเจ็บที่ข้อเท้าจนไม่สามารถยืนขึ้นด้วยตัวเองได้
“รินเจ็บเท้าค่ะ โอ้ย~” ฉันบอกพร้อมทั้งพยายามจะลุกยืน แต่ก็ไม่เป็นผล
คุณเหนือก้าวเท้าเดินมาใกล้ๆ สายตาของเขาที่มองหน้าฉันตอนนี้มันเย็นชาเอามากๆ ไม่มีความเป็นห่วงเลยสักนิด
“อย่าแสดง คิดว่าฉันรู้ไม่ทันแล้วจะอุ้มเธอขึ้นมาหรือไง”
คุณเหนือคิดว่าฉันแสดงละครแกล้งเจ็บเท้าอย่างนั้นหรอ คิดได้ยังไง คนเยอะขนาดนี้ผู้หญิงที่ขี้อายแบบฉันจะกล้าทำได้ยังไงกัน
“ปะ เปล่านะคะ รินไม่ได้แสดงอะไรทั้งนั้น รินเจ็บเท้าจริงๆ”
“ถ้าไม่มีปัญญาลุกขึ้นเองก็นั่งอยู่ตรงนี้”
นี่คือคำพูดของผู้ชายที่เคยบอกว่ารักฉันมาก เขาบอกอย่างไร้เยื่อใย ก่อนจะเดินไปไม่หันกลับมามองฉันเลย
น้ำตามันตกในไปแล้วตอนนี้ ไม่ว่าคุณเหนือจะพูดอะไร มันก็เป็นเพราะฉันเอง ฉันทำให้เขาเป็นแบบนี้…
“ลุกขึ้นไหวมั้ยครับ” เสียงของผู้ชายคนหนึ่งถามขึ้นมา เขานั่งลงตรงหน้าฉัน เขายังดูเด็กและเหมือนจะเป็นรุ่นน้องฉันด้วย
“เดี๋ยวผมช่วยประคองไปนั่งดีกว่านะครับ”
“เอ่อ มะ ไม่เป็นไรค่ะ” ฉันรีบปฏิเสธ มันคงจะดูไม่ดีหากให้ผู้ชายที่ไม่รู้จักมาแตะเนื้อต้องตัว
“แล้วจะลุกเองไหวหรือไง ไม่ต้องสนใจผู้ชายคนนั้นหรอกครับ เดินไปนู้นแล้ว”
ฉันค่อยๆ เม้มปากแน่นเมื่อได้ฟังคำพูดของผู้ชายคนนี้ ในใจของฉันหวังว่าคุณเหนือจะเดินกลับมา แต่พอมองดูเขาก็เดินไปไกลมากแล้ว
“มาครับผมช่วย”
วงแขนแกร่งของผู้ชายแปลกหน้าโอบมาที่เอวของฉันเพื่อประคองให้ยืนขึ้น ทำให้ใบหน้าของฉันกับเขามันอยู่ใกล้กันมากๆ ฉันจึงรีบเอาหน้าออกห่าง
“โอ้ย~” พอลุกขึ้นยืนฉัยก็เผลอทิ้งน้ำหนักลงเท้าที่เจ็บทำให้เกือบจะก้มอีกครั้ง แต่กลับรู้สึกว่ามีอีกมือมาช่วยประคอง
“เอามือของมึงออกไป” เสียงทุ้มเข้มเอ่ยขึ้นมาใกล้ๆ กับฉัน ไม่ต้องหันมองก็รู้ได้ทันทีว่าเป็น “….คุณเหนือ”
ฉันคิดว่าเขาจะไม่สนใจแล้วซะอีก ทำไมถึงเดินกลับมาล่ะ ทั้งที่พูดแบบไม่มีเยื่อใยขนาดนั้น
สายตาของคุณเหนือจ้องเขม็งมาที่มือของผู้ชายแปลกหน้าที่หวังดีมาช่วยพยุงฉันขึ้น
ตึกตัก! ตึกตัก! หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวเพราะรับรู้ได้ว่าตอนนี้ท่าทางของคุณเหนือมันแสดงออกว่ากำลังหวงฉันอยู่
“แล้วทำไมไม่ช่วยเธอตั้งแต่แรกล่ะครับ เห็นอยู่ว่าเธอเจ็บเท้า”
คุณเหนือไม่ได้ตอบอะไร เขาผลักผู้ชายคนนั้นออกอย่างแรง จากนั้นก็อุ้มฉันขึ้นแล้วพาเดินออกไปจากตรงนี้ทันที
ฉันได้แต่เงียบอยู่ในวงแบนแกร่งของคุณเหนือพร้อมกับหัวใจดวงน้อยที่เต้นรัว
เมื่อเดินมาจนถึงห้อง คุณเหนือก็ใช้คีย์การ์ดสแกนแล้วเอาเท้ายันประตูห้องให้เปิดออก เขาเดินผ่านห้องโถงมายังห้องนอน แล้วโยนร่างของฉันลงบนเตียง
ฟังไม่ผิดหรอกค่ะ โยนจริงๆ ทำให้เท้าที่เจ็บอยู่มันเจ็บมากกว่าเดิม อุตส่าห์ดีใจที่คุณเหนือห่วง แต่พอเจอแบบนี้ฉันไม่กล้าคิดว่าเขาหวงฉันแล้วแหละ
“รินบอกแล้วไงคะว่าเจ็บเท้า ทำไมต้องรุนแรงด้วยมันเจ็บนะ” ฉันต่อว่าคุณเหนือออกไปด้วยความน้อยใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางบำเรอ BAD GUY 20+