ฮ่อหยุนเฉิงเงียบ
เขาหลุบตาลงและเล่นกับร่มในมือด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก
ความเงียบของเขาคือคำตอบที่ดีที่สุด
หัวใจซูฉิงเริ่มดิ่งลงทีละน้อยและความรู้สึกขมขื่นก็กระจายตัว
พื้นที่ขนาดเล็กเงียบและบรรยากาศก็ค่อนข้างอึดอัด
ชิงช้าสวรรค์เริ่มลงมาอย่างช้าๆ
ในขณะที่กำลังจะหยุด ฮ่อหยุนเฉิงก็เชยตาขึ้น
ดวงตาของเขามืดมิดราวกับกลางคืน พูดกับซูฉิงอย่างจริงจังว่า "ถังถังเป็นเพียงอดีตไปแล้ว ณ เวลานี้ ผู้หญิงที่ฉันอยากใช้ชีวิตด้วยก็คือเธอ"
เสียงของเขาเข้าหูของซูฉิงราวกับเสียงสวรรค์
หัวใจของซูฉิงเต้นแรงอย่างหยุดไม่อยู่
เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดอย่างสบายๆ "จริงเหรอ?"
"อื้ม" ฮ่อหยุนเฉิงพยักหน้าเบาๆ พร้อมพูดด้วยความคาดหวังในน้ำเสียง "เพราะงั้น...ให้คำตอบล่วงหน้าเลยได้ไหม?"
"ไม่ได้หรอก" ซูฉิงยกยิ้มมุมปากอย่างเย่อหยิ่งและมองชายที่อยู่ข้างๆ เธอด้วยรอยยิ้ม "สองเดือนก็คือสองเดือน"
คำตอบที่ฮ่อหยุนเฉิงให้กับเธอเมื่อกี้ค่อนข้างคาดไม่ถึง
แม้ว่านี่คือคำตอบที่เธอต้องการจะได้ยิน แต่เขาพูดด้วยความจริงใจจริงหรือเปล่า?
เขาปล่อยถังถังได้ลงจริงๆ เหรอ?
นั่นคือความหลงใหลของฮ่อหยุนเฉิงตลอดหลายปีเชียวนะ
ซูฉิงรู้สึกสงสัย แต่ความสุขเล็กๆ ก็ได้ผุดขึ้นในใจเธอ
บางที ให้เวลากันอีกหน่อยและทำความรู้จักอีกฝ่ายให้มากขึ้นอีกนิด เธอคงมองเห็นอะไรได้ชัดเจนว่าความรักในหัวใจของเขาไม่ใช่ถังถัง
ฮ่อหยุนเฉิงหัวเราะอย่างช่วยไม่ได้ "ได้สิ"
หลังจากลงจากชิงช้าสวรรค์แล้ว ทั้งสองก็เดินเคียงข้างกันไปบนถนนของสวนสนุก
กลางคืนนั้นเงียบมาก
ไฟถนนส่องเงายาวของทั้งสองคน เป็นภาพที่เงียบสงบ
ตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองคืออะไร?
ซูฉิงเอียงหัวและคิดอย่างละเอียด
อาจจะมากกว่าเพื่อน แต่ยังไม่ใช่คู่รักล่ะมั้ง
"ดึกมากแล้ว เรากลับกันเถอะ" หลังจากเดินมาทั้งวัน ซูฉิงก็รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย
ทั้งสองกลับไปที่โรงแรม ทันทีที่เดินเข้าไปในล็อบบี้ ทันใดนั้นก็มีผู้หญิงในชุดสีแดงกุหลาบเดินตรงเข้ามาหาฮ่อหยุนเฉิง "หยุนเฉิง คุณสบายดีไหม?"
ซูฉิงเงยหน้าขึ้นก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย
สวีหว่านเอ๋อร์?
เธอมาปารีสเมื่อไหร่?
ฮ่อหยุนเฉิงเหลือบมองอีกคนอย่างไร้ความรู้สึกและพูดเสียงเรียบ "ทำไมถึงเป็นเธอ?"
"หยุนเฉิง คุณไม่รู้หรอกว่าหลายวันที่ผ่านมาฉันเป็นห่วงคุณมากแค่ไหน" สวีหว่านเอ๋อร์จ้องไปที่ฮ่อหยุนเฉิงด้วยแววตาร้อนแรง "เห็นว่าคุณไม่เป็นอะไร ฉันก็โล่งใจ"
เห็นความชื่นชมอย่างไม่ปิดบังของที่สวีหว่านเอ๋อร์มีต่อฮ่อหยุนเฉิง ซูฉิงก็ก้าวไปคว้าแขนของฮ่อหยุนเฉิง และยกยิ้มประชดประชันที่มุมปาก "คู่หมั้นของฉันจะเป็นหรือไม่เป็นอะไรแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอไม่ทราบ?"
"ฉันก็เป็นห่วงหยุนเฉิงเหมือนกัน" สวีหว่านเอ๋อร์จ้องไปที่ซูฉิง ในใจมีแต่ความไม่พอใจ
ซูฉิงที่เป็นคนบ้านนอกกล้าดียังไงมาทำตัวสนิดชิดเชื้อกับฮ่อหยุนเฉิงได้!
"ฮ่อหยุนเฉิง เราไปกันเถอะ" ซูฉิงไม่อยากสนใจสวีหว่านเอ๋อร์จึงดึงฮ่อหยุนเฉิงขึ้นลิฟต์ทันที
สวีหว่าเอ๋อร์ที่ตามฮ่อหยุนเฉิงและซูฉิงมาก็เห็นพวกเขาเข้ากันสองห้อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น