นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น นิยาย บท 266

"หรอ "ฮ่อหยุนเฉิงมองไปที่ไป๋หลานด้วยสายตาเย็นเยือก

รังสีน่าเกรงขามของเขาที่แผ่ออกมาทำให้ไป๋หลานรู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก จนขาแทบอ่อน

ไป๋หลานก้าวถอยไปหนึ่งก้าว สูดลมหายใจเข้าแล้วพูดเสียงดัง"ประธานฮ่อ เรื่องที่ฉันพูดเป็นความจริง ไม่เชื่อคุณก็ถามพวกเขาสิ พวกนักข่าวที่อยู่ตอนนี้ต่างก็เห็นกับตา"

"เธอได้ทำมั้ย "ฮ่อหยุนเฉิงหันไปถามซูฉิงด้วยสีหน้าเรียบเฉย

"ฉันไม่ได้ทำ "ซูฉิงเอามือกอดอก เอ่ยตอบอย่างสบายอารมณ์ แล้วก็มองไปทางไป๋หลานอย่างตลก

"อืม ฉันเชื่อเธอ"

พอฮ่อหยุนเฉิงพูดคำนี้ออกมา ไป๋หลานถึงกับเบิกตากว้างอย่างเหลือเชื่อ

ทุกคนต่างก็เห็นว่าซูฉิงกับเฉินจุนเหยียนอยู่ในห้องด้วยกันสองต่อสอง แต่ฮ่อหยุนเฉิงก็ไม่ถามอะไรมาก ก็เชื่อแล้ว

เขาเชื่อผู้หญิงคนนี้อย่างไม่ต้องการเหตุผลอะไรเลยหรอ!

พอเห็นซูฉิงมีท่าทีได้ใจ ไป๋หลานก็เกิดความรู้สึกไม่ดีขึ้นมา

เธอถึงกับกำหมัดแน่น รู้สึกหงุดหงิด หรือว่าพวกเขาทั้งสองคนนัดกันไว้แล้วงั้นหรอ

เป็นไปไม่ได้!

เพราะเธอเป็นคนให้พนักงานถือโอกาสตอนนั้นหยิบโทรศัพท์ของซูฉิง ซูฉิงจะติดต่อกับฮ่อหยุนเฉิงไม่ได้!

แววตาเย็นเยือกของซูฉิงมองไปที่ไป๋หลานที่ตอนนี้กำลังร้อนรน

มือถือของเธอนั้นถูกพนักงานคนหนึ่งหยิบเอาไปแล้ว แต่เธอก็คาดเดาว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ไว้ตั้งแต่แรกแล้ว

แผนซ้อนแผน เพื่อล่อเสือออกจากถ้ำ!

ตอนนั้น เธอเตรียมที่จะลงจากรถของฮ่อหยุนเฉิง ก็ได้มองเห็นรถของสวีหว่านเอ๋อร์ที่จอดอยู่ไม่ไกลโดยบังเอิญ

สวีหว่านเอ๋อร์เห็นเธอเป็นศัตรู ซูฉิงนั้นรู้ดี

อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน

ซูฉิงบอกกับฮ่อหยุนเฉิง ถ้าหากเธอเข้าไปเกินครึ่งชั่วโมงแล้วติดต่อเธอไม่ได้ ก็ให้เขาเข้าไป

และเป็นอย่างที่เธอเดาไว้ไม่ผิดเลย

ไป๋หลานที่ตอนนี้ตั้งสติได้ เธอได้ตกหลุมพรางที่มีคนขุดไว้แล้ว!

ไป๋หลานเหมือนอยากจะพูดอะไร เจ้าของร้านที่เดินตามฮ่อหยุนเฉิงเข้ามาก็กระแอมพูดเสียงดัง "คุณไป๋ เมื่อกี้ได้ยินคุณบอกว่าอยากจะดูกล้องวงจรปิด เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ แน่นอนว่าเราสามารถทำให้ได้ตามคำขอ"

"ผมได้นำมาแล้ว"เขาที่ทั้งพูดทั้งหยิบเอาแฟลตไดร์ฟออกมาแล้วเสียบต่อเข้าไปกับทีวี

และบนหน้าจอทีวีขนาดใหญ่ก็กำลังเริ่มเล่น

ในคลิปวิดีโอที่เอามาตัวหลักก็มีอยู่สองคนก็คือซูฉิงกับเฉินจุนเหยียนและพนักงานรินเหล้า

พวกเธอหยิบเอาขวดเหล้ากับขวดเครื่องดื่มไปที่ห้องครัวด้านหลังเพื่อเทน้ำออก แล้วก็ล้างน้ำอีกหลายครั้ง จากนั้นก็เทเหล้ากับเครื่องดื่มใหม่เข้าไปจากนั้นก็รีบกลับไปที่ห้องพัก

ทุกคนที่มองคลิปวิดีโอต่างก็วิจารณ์กัน

"คิดไม่ถึงว่าเครื่องดื่มนะมีปัญหาจริงๆ!"

"ที่แท้ทั้งสองคนก็ได้สับเปลี่ยนเครื่องดื่มตั้งแต่แรกแล้ว มิน่าดื่มเจ้าไปถึงได้ไม่เป็นอะไร"

"ดูท่าพวกเราใส่ความคุณซูกับซุปเปอร์สตาร์เฉินจริงๆ......."

พนักงานสองคนหน้าซีดแล้วซีดอีก คิดไม่ถึงว่าขั้นตอนที่พวกเธอทำลายหลักฐานจะถูกถ่ายไว้!

ไป๋หลานรู้สึกแอบตกใจ พนักงานหน้าโง่สองคนนี้ไม่ใช่บอกว่าที่ห้องครัวไม่มีกล้องวงจรปิดหรอ

เธอสูดลมหายใจเข้าปอด แล้วทำเป็นนิ่งพูดเสียงเรียบ "นั่นก็ไม่ได้ยืนยันว่าเรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับฉัน ก็แค่พนักงานสองคนใส่ยาลงไปเพื่อทำร้ายพวกเขา ฉันไม่รู้ความจริง ก็เลยเข้าใจผิดเป็นเรื่องปกติ"

ขอแค่ไม่มีหลักฐาน เธอยืนกรานว่าไม่รู้เรื่อง ไม่ยอมรับ ซูฉิงก็ทำอะไรเธอไม่ได้!

ไป๋หลานที่ทั้งพูด ทั้งมองซูฉิงอย่างได้ใจ

ยังคิดว่าซูฉิงพาฮ่อหยุนเฉิงมาด้วยจะมีหลักฐานอะไรรึเปล่า ที่แท้ก็ไม่มีอะไร

พนักงานทั้งสองคนร้อนรนหันไปมองไป๋หลานอย่างหวาดกลัว ไป๋หลานก็จ้องพวกเธอเขม็ง

พนักงานทั้งสองก็รู้ได้ทันทีแล้วรีบเข้าไปร้องไห้ขอโทษซูฉิง

"ขอโทษค่ะ คุณซู เรื่องนี้เพราะพวกเราสองคนรู้สึกอิจฉาคุณถึงได้ทำเรื่องแบบนี้ อยากจะทำลายชื่อเสียงของคุณกับซุปเปอร๋สตาร์เฉิน!"

เฉินจุนเหยียนคิ้วขมวด 'ฉันกับซูฉิงไม่ได้มีความแค้นต่อพวกเธอ ไม่เคยเจอกันด้วยซ้ำ เหตุผลอย่างนี้ไม่ใช่แก้ตัวน้ำขุ่นๆไปหน่อยหรอ"

"บอกมา ใครเป็นบงการอยู่เบื้องหลังมั้ยพวกเธอทำอย่างนี้!"ซูฉิงลุกขึ้นยืนแล้วพูดเสียงขรึม

"ไม่มี ไม่มีใครบงการ........"พนักงานทั้งสองคนที่ถูกซูฉิงขู่จนตกใจเสียขวัญ จนก้าวถอยไปหลายก้าว

"พวกเรา........"

พนักงานทั้งสองคนมองหน้าสบตากัน แล้วสุดท้ายเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ แล้วรีบพูด"เพราะว่าพวกเราเป็นแฟนคลับของจางเสี่ยวเหิง ซูปเปอร์สตาร์เฉินอยู่เหนือเขามาตลอด คุณแย่งรางวัลม้าทองคำของเขาไป ขอแค่ทำลายคุณ คนที่พวกเราชื่นชอบก็จะมีวันที่จะโด่งดังขึ้นมา!"

จางเสี่ยวเหิง?

เฉินจุนเหยียนคิ้วขมวด จางเสี่ยวเหิงเป็นนักแสดงในสังกัดคู่แข่งของสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์

หลายปีมานี้เขามักคิดว่าเขาเป็นคู่แข่ง แอบคอยทำอะไรไม่ดีอยู่เบื้องหลังเขามาโดยตลอด

แต่ว่า จะหาเหตุผลแก้ต่างน้ำขุ่นๆไปหน่อยหรอ

"ในเมื่อตอนนี้เรื่องก็กระจ่างออกมาแล้ว งั้นฉันขอตัวก่อน ประธานต้องขอโทษด้วย ที่ฉันเข้าใจคุณซูผิดไป"ไป๋หลานที่พูดออกมาอยากยากลำบาก

เดินทีแผนที่วางไว้แนบเนียนดีแล้ว ที่จะทำให้ซูฉิงเสียชื่อเสียง แต่ใครจะรู้ว่าตอนนี้ก็ผิดพลาดอีกแล้ว!

จะต้องถูกสวีหว่านเอ๋อร์ด่าอีกแน่เลย

แต่ว่าตอนนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเธอต้องรีบเผ่นหนีไปจากที่นี่เพื่อที่จะเอาตัวรอดก่อน

แผนการล้มเหลว หาทางหนีที่ไล่ดีที่สุด!

ซูฉิงที่เห็นไป๋หลานจะรีบกลับก็ยกยิ้มกระหยิ่ม แล้วก้าวเข้าไปขวางหน้าเธอไว้"คุณไป๋ อย่าพึ่งรีบกลับสิคะ ละครยังเล่นไปจบเลย"

ซูฉิงก้มดูนาฬิกาที่ข้อมือแล้วพูดเสียบเรียบ

ไป๋หลานหน้าแข็งกร้าวขึ้นมา รู้สึกเคียดแค้นอยู่ในใจ แต่ก็ต้องพยายามฝืนยิ้มออกมา"คุณซูคะ เมื่อกี้ฉันเข้าใจคุณผิดไป ฉันผิด ฉันก็ขอโทษคุณ ฉันยังมีธุระสำคัญที่ต้องไปจัดการอยู่ ขอตัวก่อน"

พอพูดจบ ไป๋หลานก็ผลักซูฉิงให้หลบแล้วเดินออกไป

แต่เดินไปยังไม่ถึงหน้าประตู ก็พบกับแอนโธนี่ที่เดินมาพร้อมกับคนที่สวมชุดตำรวจสี่ห้าคนเดินเข้ามา

ไป๋หลานที่ถูกขวางทางไว้ ก็ทำได้เพียงก้าวถอยหลังกลับไป

นี่มันเรื่องอะไรกัน

ทำไมแม้แต่แอนโธนี่ก็มาที่นี่ด้วย

แล้วทำไมถึงมีตำรวจตั้งหลานคนมาที่นี่ด้วย

ไป๋หลานที่ตอนนี้มือชุ่มไปด้วยเหงื่อ

ก่อนหน้านี้อู๋ชิงหร่านทำร้ายซูฉิงไม่สำเร็จ จนถูกซูฉิงเปิดโปง ก็เพราะว่ามีแอนโธนี่ช่วยซูฉิงหาหลักฐานเรื่องที่อู๋ชิงหร่านทำร้ายซูฉิง

หรือว่า ตอนนี้......ซูฉิงจะมีหลักฐานอะไรแล้วงั้นหรอ

ไป๋หลานหันไปทางซูฉิงอย่างร้อนตัว แล้วเงยหน้าขึ้นสบตาเย็นชาของซูฉิง ก็อดที่จะสั่นระริกไม่ได้

"ประธานฮ่อ พวกเราได้รับแจ้งความว่าที่นี่มีคนเจตนาวางยา พวกเราได้พาแผนกนิติเวชมาตรวจสอบ"นายตำรวจนายหนึ่งโค้งคำนับพูดกับฮ่อหยุนเฉิง

"ครับ "ฮ่อหยุนเฉิงตอบรับคำเสียงเรียบ

แอนโธนี่เดินไปหาซูฉิงข้างๆ "เป็นไงบ้าง คุณซู ผมไม่ได้มาช้าไปใช่มั้ย"

"ขอบคุณนะ แอนโธนี่ "ซูฉิงยิ้ม แล้วเอ่ยขอบคุณ

แววตาเย็นเยือกของเธอจ้องไปหยุดอยู่ที่ตัวของไป๋หลาน แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งขรึม"คุณไป๋ ในเมื่อคุณยืนกรานว่าคุณไม่รู้เรื่อง งั้นก็ขอให้ความร่วมมือกับตำรวจตรวจสอบด้วย เพราะว่า ถ้าหากว่าไม่เกี่ยวข้องกับคุณจริงๆ ก็จะได้คืนความยุติธรรมให้กับคุณดีมั้ย"