แนบอิงแผ่นอกของฮ่อหยุนเฉิง ความรู้สึกคุ้นเคยแผ่ออกมาจนซูฉิงรู้สึกสบายใจอย่างอธิบายไม่ถูก
ความทุกข์ใจที่ถูกแม่ฮ่อและฮ่อเฉียนยั่วโมโหเมื่อกี้ได้หายไปแล้ว
ฮ่อหยุนเฉิงอุ้มซูฉิงไปที่ประตูห้องน้ำก่อนจะวางเธอลงอย่างระมัดระวังราวกับว่าเธอเป็นตุ๊กตาเคลือบดินเผาที่บอบบาง
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนที่หาได้ยาก "รีบไปอาบน้ำเถอะ"
"ขอบคุณนะ" ซูฉิงมองด้วยความมึนงง ก่อนจะหยิบเสื้อผ้าสะอาดที่เขาส่งให้และหันหลังเดินเข้าไปในห้องน้ำ
ไอน้ำสีขาวขุ่นกระจายไปทั่วห้องน้ำ ซูฉิงยืนอยู่ใต้ฝักบัว เงยหน้าขึ้นและปล่อยให้สายน้ำไหลล้างทุกตารางนิ้วของผิวกาย
อบอุ่นและสบายมาก
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ซูฉิงปิดฝักบัวและเปิดเปลือกตาที่เปียกของเธอ
หลังจากสวมเสื้อผ้าแห้ง ความหนักของร่างกายของเธอก็ค่อยๆ ลดลงจนรู้สึกสบายตัวขึ้นมาก
ซูฉิงหาว เดินออกจากห้องน้ำ และเห็นว่าห้องนอนรกๆ ที่แม่ฮ่อและฮ่อเฉียนโยนนู่นทิ้งนี่ได้กลับมาเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว
ผ้าปูที่นอนและผ้าห่มที่เปียกโชกถูกแทนที่ด้วยผ้าสะอาด เสื้อผ้าที่ถูกฮ่อเฉียงดึงออกมาก็ถูกแขวนไว้ในตู้เสื้อผ้าอย่างเรียบร้อย
ฮ่อหยุนเฉิงทำทั้งหมดนี่?
ซูฉิงเลิกคิ้วและอยากจะขอบคุณฮ่อหยุนเฉิงสักหน่อย
แต่ว่าฮ่อหยุนเฉิงหายไปแล้ว
ซูฉิงขมวดคิ้วก่อนจะเปิดประตูมองไปรอบๆ เพื่อหา แต่ก็ไม่เห็นเลย
สุดท้ายก็มาเห็นโพสต์อิทที่เขาแปะไว้หน้าตู้เย็น
"ฉันไปทำงานที่ประเทศ M หนึ่งสัปดาห์นะ อู่ฟางไจจะส่งขนมจิ้งเกาเวลา 8.00 น. ตรงทุกวัน ดูแลตัวเองด้วยนะ"
ไปทำงานต่างประเทศ?
ทำไมจู่ๆ ถึงไปทำงานต่างประเทศล่ะ?
หลังจากที่ซูฉิงได้อ่านแล้ว เธอก็อยากจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเขา
หลังจากคิดเกี่ยวกับมัน ฉันก็วางโทรศัพท์ลง
...
วิลล่าบ้านตระกูลสวี
สวีหว่านเอ๋อร์กำลังนั่งอ่านข่าวซูฉิงและเฉินจุนเหยียนทางมือถืออยู่บนโซฟา ทั้งยังยกยิ้มอย่างพอใจ
"หว่านเอ๋อร์ เธอดูสิ ตอนนี้ทุกคนรู้เรื่องอื้อฉาวของซูฉิงแล้ว ชื่อเสียงของหล่อนเละไปหมดแล้วล่ะ!" ไป๋หลานยืนอยู่ข้างๆ พูดอย่างระมัดระวัง
คืนนั้นเธอถูกตำรวจพาตัวไป จนบ้านตระกูลไป๋ต้องพยายามอย่างมากถึงพาตัวเธอออกมาได้
"เหอะ" สวีหว่านเอ๋อร์พ่นลมก่อนจะจ้องไปที่ไป๋หลาน "เธอยังกล้าพูดเหรอ? คืนนั้นเป็นโอกาสดีแต่เธอกลับถูกซูฉิงแว้งกัดเอาได้ เรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้! ถ้าฉันไม่ให้สื่อเขียนข่าวแบบนี้แล้วหวังพึ่งเธอก็จบเห่ไปแล้ว!"
ไป๋หลานยังคงขอโทษ "ใช่ๆ หว่านเอ๋อร์ เป็นความผิดของฉันเอง แต่ฉันก็ชดใช้จ้างคนมาเขียนข่าวอื้อฉาวทำลายชื่อเสียงซูฉิงแล้วนะ!"
"จริงสิ ช่วงนี้อู๋ชิงหร่านเป็นยังไงบ้าง?" จู่ๆ สวีหว่านเอ๋อร์ก็นึกอะไรขึ้นได้
ไป๋หลานเอ่ยตอบ "ได้ยินมาว่าพี่ชายของหล่อนเอาบอดี้การ์ดมาจับตาดูหล่อนไว้ไม่ให้ออกจากบ้านตระกูลอู๋"
"จริงเหรอ?" สวีหว่านเอ๋อร์หรี่ตาก่อนจะมีแสงแวบเข้ามาในดวงตา "ไม่ให้หล่อนออกมา เราก็ไปหาหล่อนได้นี่"
"หว่านเอ๋อร์ เธอหมายความว่า..." ไป๋หลานถามอย่างเร่งรีบ
สวีหว่านเอ๋อร์ชี้ไปที่รูปถ่ายของซูฉิงและเฉินจุนเหยียนบนหน้าจอโทรศัพท์ "เอาพวกนี้ให้อู๋ชิงหร่านดู"
อู๋ชิงหร่านชอบเฉินจุนเหยียน แต่ก่อนก็เคยมีปัญหากับซูฉิง ก็เพราะเฉินจุนเหยียน
ตอนนี้ถ้าอู๋ชิงหร่านเห็นเรื่องอื้อฉาวระหว่างเฉินจุนเหยียนกับซูฉิง เธอจะต้องคลั่งด้วยความริษยาแน่
ถึงตอนนั้นอู๋ชิงหร่านก็คงหาทางจัดการซูฉิงอีก
ไป๋หลานพยักหน้าอย่างรวดเร็ว "ใช่ พรุ่งนี้ฉันจะไปบ้านตระกูลอู๋"
"จะรอให้ถึงพรุ่งนี้ทำไม? ไปเดี๋ยวนี้เลย!" สวีหว่านเอ๋อร์กล่าว และทันใดนั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมทั้งจ้องไปที่ไป๋หลาน "ยังไม่รีบไปอีก!"
สวีหว่านเอ๋อร์ทนรอไม่ไหวแล้ว!
ซูฉิงยัยเลวนี่ เกิดมาพร้อมกับความเจ้าชู้จนอ่อยผู้ชายไปทั่ว
เมื่อนึกถึงซูฉิงที่จะย้ายกลับไปที่คอนโดของฮ่อหยุนเฉิง และคิดว่าทั้งสองคนอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืน สวีหว่านเอ๋อร์ก็กัดฟันด้วยความเกลียดชัง
ไป๋หลานรีบตามไป "หว่านเอ๋อร์ รอฉันด้วย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น