"ถ้าเป็นยังงั้นก็ดีสิ งั้นช่วงเวลานี้ก็คงต้องรบกวนอาจารย์ฉีซะแล้วล่ะ" เมื่อยวี๋น่าได้รับรู้อาการบาดเจ็บบริเวณขาที่เริ่มดีขึ้นของอู๋เทียนเหอ เธอก็ลอบถอนหายใจและเผยรอยยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
หลินหนานแอบมองอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง สิ่งที่เขาเห็นทำให้เขารับรู้ถึงความรู้สึกของยวี๋น่าอย่างชัดเจน เขาไม่ยอมปรากฏตัวออกไปเพราะกลัวว่าจะรบกวนและทำให้บทสนทนาของผู้เป็นเพื่อนทั้งสองหยุดลง
ถ้าหญิงสาวสองคนเห็นการปรากฏตัวของเขา ต่างฝ่ายคงจะอึดอัดไม่น้อย
ซูฉิงพอจะเดาความรู้สึกของเพื่อนสาวตรงหน้าออก เธอพอจะคาดเดาได้ว่ายวี๋น่ายังไม่ลืมอู๋เทียนเหอ เพราะก่อนที่เธอจะกลับไปเมือง H เธอยังแวะไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมเยือนอู๋เทียนเหอที่นอนพักฟื้นอยู่ "อีกไม่กี่วันอาจารย์ฉีก็จะกลับไปภูเขาฉางไป๋แล้ว และเธอก็กลับมาที่นี่พอดี งั้นพรุ่งนี้เธอไปเยี่ยมอู๋เทียนเหอที่โรงพยาบาลพร้อมกับฉันไหม?"
"โอเค ฉันไป"
ยวี๋น่ารีบตอบรับคำชวนอย่างว่องไว
หลินหนานที่แอบฟังบทสนทนาของสองสาวอยู่อย่างเงียบๆ เขาปิดเปลือกตาคมครู่นึงและพยายามรวบรวมสติ เขาเดินออกมาจากมุมห้องพร้อมจานเค้กหนึ่งก้อนในมือ สีหน้าท่าทางของเขานิ่งงันราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
โรงพยาบาล
ตลอดการเดินทางยวี๋น่าเอาแต่คิดถึงแต่อู๋เทียนเหอ แต่พอยิ่งใกล้ถึงโรงพยาบาลเธอกลับทำตัวไม่ถูกและรู้สึกหายใจไม่คล่องคอซะอย่างนั้น
ซูฉิงสังเกตเห็นถึงความตื่นเต้นของเพื่อนสาวข้างกาย เธอบีบมือของยวี๋น่าเพื่อปลอบโยนอีกฝ่าย เมื่อถึงห้องพักผู้ป่วยทั้งสองก็ผลักประตูเข้าไปข้างในห้องทันที เสียงประตูเปิดทำให้อู๋เทียนเหอที่นั่งนิ่งอยู่บนเตียงคนป่วยหันมามองทันที
ในตอนที่เขามองเห็นยวี๋น่า เขากลับชะงักงันและพูดอะไรไม่ออก
"เทียนเหอ ยวี๋น่าบอกกับฉันว่าอยากมาเยี่ยมนาย เธอเพิ่งกลับมาจากเมือง H ฉันเลยพาเธอมาเยี่ยมนาย"
ซูฉิงจัดแจงนำช่อดอกไม้สดและผลไม้วางไว้บนโต๊ะหัวเตียงผู้ป่วย เธอหันกลับมามองเพื่อนสาวที่ยังคงมีอาการตื่นเต้นไม่หาย ยวี๋น่ายังคงยืนนิ่งไม่ไหวติง นิ้วมือสิบนิ้วบีบเข้าหากันแน่นด้วยความทำตัวไม่ถูก "งั้นพวกเธอค่อยๆคุยกันนะ ฉันขอไปคุยโทรศัทท์แปปนึง"
เมื่อซูฉิงปลีกตัวออกมา ยวี๋น่าจึงรวบรวมความกล้าและช้อนสายตาขึ้นมามองอู๋เทียนเหอ ดวงตาดกลมโตรู้สึกร้อนผะผ่าวแต่กลับไม่มีหยดน้ำตาไหลออกมาให้เห็นสักหยด
ยวี๋น่าคิดถึงผู้ชายตรงหน้าเป็นอย่างมาก แต่เธอไม่รู้ว่าควรจะเอ่ยพูดสิ่งใดออกมาดี
เธอตัดสินใจส่งรอยยิ้มหวานเล็กๆให้คนตรงหน้าพลางพูดขึ้น "เทียนเหอ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ฉันได้ยินซูฉิงบอกว่าขาของคุณใกล้จะหายเป็นปกติแล้ว"
อู๋เทียนเหอกัดเม้มริมฝีปากแน่น ร่างบางที่เขาเฝ้าคิดถึงอยู่ตรงหน้าแท้ๆ แต่เขากลับไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยทักทาย เขาต้องสะกดกลั้นความรู้สึกทุกอย่างไว้และพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด
"ใช่แล้ว อาจารย์ฉีเก่งมากๆ ตอนนี้บาดแผลบนขาของฉันดีขึ้นแยอะมากๆ เขาบอกว่าถ้าฉันได้พักฟื้นและอาการดีขึ้น ฉันก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว"
"เธอไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ"
อู๋เทียนเหอพูดออกมาด้วยความตื่นเต้น แท้จริงแล้วในใจของเขานั้นมีความประหม่าอยู่ไม่น้อย แต่เขาจะไม่มีทางแสดงมันออกมาให้อีกฝ่ายได้เห็น
ยวี๋น่าพยักหน้ารัวพลางส่งยิ้มหวานกลับ "โอเค"
บทสทนาของทั้งสองจบลงเพียงเท่านี้ ในห้องพักผู้ป่วยกลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งสองคนต่างรู้ดีว่ามีเรื่องราวมากมายที่อยากจะเอื้อนเอ่ยถามอีกฝ่าย แต่จนท้ายที่สุดกลับไม่มีคำถามใดถูกถามขึ้นมา
……
ถังรั่วอิงมัวแต่ยุ่งวุ่นวายกับการจัดงานแต่งงาน ครั้งที่แล้วที่เธอไปลองชุดแต่งงานและถูกสายเม้าท์ถ่ายรูปส่งไปยังสำนักข่าว ในตอนนั้นเธอรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เพราะทุกคนล้วนรับรู้แล้วว่าเธอกำลังจะแต่งงานและจะต้องได้ตำแหน่งนายหญิงของบ้านตระกูลฮ่อในไม่ช้า
"อืม โอเค วันหยุดนี้ฉันจะไปดูสถานที่จัดงาน ไว้เจอกันนะ"
เมื่อถังรั่วอิงวางสายจากการติดต่อกับผู้ดำเนินการจัดงานแต่งงานก็มีสายอีกสายโทรเข้ามาทันที
เมื่อหญิงสาวเห็นเบอร์ที่ขึ้นโชว์ ใบหน้าหวานก็เริ่มแสดงความกังวลออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น